พาแมวไปตรวจสุขภาพเพื่อจะฉีดวัคซีนโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดกับแมวได้
จากการตรวจซึ่งต้องตรวจเอดส์ด้วย ปรากฎว่าเจอแจ็คพ็อต "แมวเป็นเอดส์"
ในที่สุดหมอเลยไม่ได้ทำอะไรนอกจากฉีดวัคซีนกันโรคพิษแมว (สุนัข) บ้า หมอกลัวว่า
ฉีดวัคซีนตัวอื่น ๆ เข้าไปแล้วจะทำให้เกิดโรคขึ้นมาได้ เพราะว่าวัคซีนต่าง ๆ คือเชื้อโรค
ทั้งหลายที่ทำให้อ่อนแอลงถ้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคเหล่านั้นเข้าไปแล้ว อาจจะไปกระตุ้น
ให้เชื้อโรคตื่นขึ้นมา ทำให้แมวเกิดเป็นโรคต่าง ๆ ได้ เพราะตัวแมวเองมีภูมิต้านทานต่ำอยู่
แล้ว ขณะที่โรคพิษสุนัขบ้านี้สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ เลยจำเป็นต้องฉีด
มาทำความเข้าใจกันสักนิด "เอดส์" มาจากคำว่า AIDS หรือ Acquired Immune
Deficiency Syndrome เอดส์ ทั้งในแมวและคนจะมีลักษณะเดียวกันคือ ภาวะที่ภูมิต้าน
ทานในตัวลดต่ำลง จนกระทั่งเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาโจมตีทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้
ขณะที่เชื้อที่ทำให้เกิดอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องในคนเป็นไวรัสมีชื่อว่า HIV หรือ
Human Immunodeficiency Virus แต่เอดส์ของแมวมาจากไวรัสที่ชื่อว่า Feline
Immunodeficiency Virus หรือ FIV คำว่า Feline จะเหมารวมหมดในสัตว์ตระกูลแมว
เสือ จากัวร์ ชีต้า นั่นคือเชื้อไวรัสที่มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันโรคในสัตว์ตระกูลแมวบกพร่อง
สรุปก็คือ เอดส์ในคนและในแมวมีการโจมตีระบบภูมิคุ้มกันโรคเหมือนกัน แต่เกิด
จากเชื้อไวรัสคนละตัว และที่สำคัญคือไม่สามารถข้ามสายพันธุ์ได้
แล้วแมวเป็นเอดส์ได้อย่างไร
โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว มีแมวมากกว่าครึ่งมีเชื้อไวรัสที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่ในตัว
ทั้งสิ้น โดยเฉพาะแมวตามข้างถนนที่มักกัดกันสู้กันเพื่อแย่งอาหาร แย่งถิ่นที่อยู่ ด้วยว่า
ช่องทางการติดต่อของเอดส์ในแมวนั้นติดต่อกันได้โดยการกัดกันจนเกิดเป็นแผลลึก
เลือดสาด ส่วนการติดจากแม่ (แมว) ไปสู่ลูก (แมว) นั้นเกิดขึ้นน้อยมาก การเลียขน
ให้กันก็ไม่ติด และการมีเพศสัมพันธ์ของแมว ก็ไม่มีผลต่อการรับ-แพร่เชื้อ FIV
ในสัตว์ตระกูลแมว-เสือนั้นเป็นนักล่า ต้องมีการต่อสู้ มีการกัดกันเพื่อความอยู่รอด
เป็นไปได้ไหมว่า การติดต่อของเจ้าเชื้อ FIV จึงเกิดตามช่องทางนี้ซึ่งเป็น "พฤติกรรมตาม
ธรรมชาติของแมว"
ถ้าเป็นในคนเรา เราสามารถได้รับเชื้อไวรัส HIV จากเลือดและสารคัดหลั่ง โดย
การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และแม่ไปสู่ลูก เป็นไปได้ไหมว่า
ช่องทางธรรมดา ๆ เหล่านี้ก็เป็นเรื่อง "พฤติกรรมธรรมชาติ" ในวิถีชีวิตมนุษย์เรา
กรณีที่แมวมีเชื้อ FIV เพียงดูแลเจ้าเหมียวให้มีสุขภาพแข็งแรง กินอาหารที่เหมาะ
สม เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ ก็จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการของโรคได้ ซึ่งไม่แตกต่างกันกับ
เอดส์ในมนุษย์เลย
ต่างกันแต่เพียงในมนุษย์ คนที่เป็นเอดส์ก็มักจะถูกตราหน้าหาว่าเป็นผู้
บกพร่องทางศีลธรรม ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้นเลย
เมื่อแมวเหมียวเป็นเอดส์ (teenpath.net)
โดย: ฅ ฅนธรรมดา