หมอสรุปหลวงพ่อคูณป่วยภาวะติดเชื้อในปอดเรื้อรัง คาดต้องรักษาอย่างน้อย 6 เดือน เบื้องต้นยังไม่จำเป็นต้องส่งตัวรักษาที่กรุงเทพ ขณะที่แพทย์ศิริราชรุดตรวจอาการ…
นครราชสีมา วันนี้(8 พ.ค.54 ) ความคืบหน้าภายหลังจากที่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการปอดอักเสบและติดเชื้อ นั้น
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้( 8 พ.ค.54 ) ที่ห้อง 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ ได้เดินทางมาจาก รพ.ศิริราชฯ เพื่อเข้าตรวจรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณฯ พร้อมด้วยนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคุณฯ และนายแพทย์ธนากร อนันตเศรษฐกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางดินหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา โดยใช้เวลา 15 นาทีก่อนเข้าร่วมประชุมกับคณะแพทย์ รพ.มหาราชฯที่รักษาอาการอาพาธอย่างเคร่งเครียดกว่า 2 ชั่วโมง โดยได้เชิญ นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธเหมทานนท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา รวมทั้งลูกศิษย์ใกล้ชิดที่คอยปรนนิบัติเข้ารับฟังแนวทางการดูแลหลวงพ่อคูณฯ
รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เปิดเผยภายหลังตรวจอาการหลวงพ่อคูณฯว่า อันที่จริงคณะแพทย์ของ รพ.มหาราชฯก็ดูแลอาการหลวงพ่อคูณฯเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งจากการที่ตนเข้าตรวจหลังจากได้รับการรักษาก็ดูแลสภาพร่างกายหลวงพ่อยัง ดีอยู่
ด้าน ณ วันนี้จำเป็นจะต้องนำตัวหลวงพ่อไปยัง รพ.ศิริราชฯ หรือไม่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ฯ กล่าวว่า ตนก็ได้ตรวจแล้วสภาพอาการแบบนี้หลวงพ่อคงรักษาตัวอยู่ที่นี่น่าจะให้ทางคณะ แพทย์ที่นี่ดูแลได้ดีอยู่แล้ว ซึ่งก็คิดว่ายังไม่จำเป็นจะได้ส่งไปกรุงเทพฯ ส่วนเรื่องปอดจากการตรวจแล้วรู้สึกว่าท่านก็ค่อยๆดีขึ้น เพราะโรคปอดการรักษาจะต้องใช้เวลานิดหนึ่งบ้าง ส่วนเรื่องการจะต้องผ่าตัดหรือเจาะเอาน้ำในปอดออกนั้น ตนก็ยังคิดว่าทางการรักษาทางยาอย่างเดียวน่าจะค่อยๆดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นคงยังระบุไม่ได้แน่นอน เราต้องรอดูการฟื้นตัวเป็นระยะๆไป
ด้านนายแพทย์พินิศจัย กล่าวว่า วันนี้อาการของหลวงพ่อคูณฯหลังจากที่เข้าตรวจในช่วงเช้า และกลางวันสองรอบก็คล้ายๆเดิม แต่ เอ็กซ์เรย์ปอดแล้วดูเหมือนว่าจะดีขึ้นบ้างเล็กน้อย น้ำในปอดดูเหมือนว่าจะลดลงเล็กน้อย ซึ่งพอดีทางอาจารย์นิธิพัฒน์ ได้เดินทางมาให้คำแนะนำในการรักษา พร้อมกับตรวจดูแลอาการหลวงพ่อ ซึ่งจริงๆแล้วคณะแพทย์เราก็ปรึกษาทางศิริราชมาโดยตลอดอยู่แล้ว สรุปแล้วหลวงพ่อเป็นภาวะติดเชื้อในปอดเรื้อรัง ซึ่งจำเป็นจะต้องรับการรักษาด้วยยาเป็นเวลานานอย่างน้อย 6 เดือน และในระยะแรกที่หลวงพ่อ รับยาก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งจากตัวโรคเอง และยาที่เราให้ ฉะนั้นคงจะต้องดูแลหลวงพ่อให้หลวงพ่ออยู่ที่ รพ.มหาราชฯจนกว่าจะปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อยน่าจะประมาณ 1 เดือน หรือเกือบเดือน
ส่วนในแง่การรักษาของคณะแพทย์เราโดยการวินิจฉัยเนื่องจากท่านเป็นคนของ ประชาชนและบารมีท่านใครๆก็ให้คำปรึกษาดูแล ซึ่งในแง่การวินิจฉัยหลวงพ่อทั้งสองโรงเรียนแพทย์ ทั้ง ศิริราชพยาบาล และ รามา ก็เห็นด้วยว่า วินิจฉัยเหมือนกัน และการรักษาก็เป็นไปในทางเดียวกัน
ส่วนน้ำในเยื้อหุ้มปอดเราก็พบว่า ยังมีอยู่ แต่ลดลงเล็กน้อย ส่วนการเจาะนั้นเราคงจะต้องดูกันเป็นระยะๆ เพราะจำเป็นต้องให้ท่านนอนโรงพยาบาล เพราะเราจะได้เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนทั้งจากโรคเอง และภาวะแทรกซ้อนจากยาที่เราให้ และในแง่การให้ท่านได้พักผ่อน ซึ่งหลวงพ่อคูณฯจำเป็นจะต้องนอนโรงพยาบาลมหาราชฯอย่างน้อย 1 เดือน และการรักษาปอดต้องรักษากันอย่างน้อย 6 เดือน
นายแพทย์ธนากร กล่าวว่า ตอนนี้ยาที่เราให้เพิ่มเติมก็จะมีเพิ่มเติมอยู่จนกว่าจะครบขนาดมาตรฐาน สำหรับโรคนี้ แต่เราจะค่อยๆให้ไป เพราะท่านอายุมากแล้ว เราเกรงว่าท่าจะรับผลข้างเคียงไม่ไหว จึงต้องค่อยๆเพิ่มทีละตัว และดูการตอบสนองด้วย และดูเรื่องโรคแทรกจากยาด้วย ตอนนี้เราเป็นห่วงปัญหาหลักเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยาว่า เราต้องใช้ยาหลายตัว หลายขนาด สำหรับโอกาสหายขาดของโรคเรื้องรังโรคนี้ถ้ารักษาครบก็หายขาดได้ นพ.ธนากรฯกล่าว.