อุ ซามะ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะ ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ถูกทหารอเมริกันสังหารเสียชีวิตแล้วภายในบ้านพักที่ปากีสถาน
ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐออกมาแถลงยืนยันผ่านทางโทรทัศน์สหรัฐเมื่อ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่านายอุซามะ บินลาดิน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 เหตุวินาศกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในสหรัฐซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันและพลเมือง จากอีกหลายประเทศทั่วโลกไปกว่า 3,000 คน ได้เสียชีวิตลงแล้วภายในบ้านพักที่เมืองแอบบ้อตทาบัด ซึ่งอยู่นอกกรุงอิสลามาบัดของปากีสถาน หลังทหารอเมริกันได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำเข้าปิดล้อมและระดมยิงเข้าใส่บ้านพักเมื่อวานนี้ เป็นเหตุให้เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำถูกยิงตกระหว่างการยิงต่อสู้ด้วย ขณะที่ศพของบินลาดินขณะนี้ก็อยู่ในความควบคุมของทหารอเมริกัน ซึ่งโอบาม่าก็กล่าวขอบคุณรัฐบาลปากีสถานที่ให้ความร่วมมือในการไล่ล่าบินลา ดินและว่าในที่สุดบินลาดินก็ได้รับการพิพากษาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการสังหารบินลาดินของสหรัฐไม่ใช่สงครามต่อต้านอิสลามและบินลา ดินก็ไม่ใช่ผู้นำมุสลิม นอกจากนี้บินลาดินยังสังหารชาวมุสลิมจำนวนมากด้วย
และ ทันทีที่มีรายงานการเสียชีวิตของหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายชื่อดังระดับโลก ชาวอเมริกันหลายร้อยคนได้ออกมาชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบขาวพร้อมตะโกน โห่ร้องด้วยความยินดี ด้านอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชของสหรัฐก็ออกมาแสดงความยินดีกับโอบาม่าหลังการไล่ล่านานเกือบทศวรรษของ สหรัฐ และชาติพันธมิตรได้บรรลุผลในที่สุด โดยกล่าวว่า การเสียชีวิตของบินลาดินนับเป็นชัยชนะของชาวอเมริกันและผู้แสวงหาสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูญเสียในเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน และว่าไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ความยุติธรรมก็บังเกิดขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ปฎิบัติการสังหารบินลาดินครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 10 เดือนที่แล้วหลังมีการสืบทราบว่าบินลาดินกบดานอยู่ภายในบ้านที่เมืองแอบบ้อต ทาบัด ซึ่งการเสียชีวิตของบินลาดินมีขึ้นก่อนวันครบรอบ 10 ปีเหตุวินาศกรรม 11 กันยายนเพียงไม่กี่เดือน
ขณะ ที่หลายประเทศทั่วโลกก็ได้มีการตื่นตัวเตรียมพร้อมรับมือทันทีเพราะเกรงว่า อาจจะมีการลุกฮือขึ้นแก้แค้นจากชาวมุสลิมที่สนับสนุนบินลาดิน