ประวัติ "อุซมะห์ บิน ลาเดน" ผู้นำเครือข่ายอัลกออิดะห์

สหรัฐ 2 พ.ค.-ประวัติของนายอุซมะห์ บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ก่อนที่จะถูกสังหาร

        อุซมะห์ บินลาเดน เกิดเมื่อปี 2500 โดยเขาเป็นลูกคนที่ 17 จากจำนวนทั้งหมด 57 คน ของครอบครัวนักธุรกิจ ซึ่งมีกิจการในซาอุดีอาระเบีย เมื่ออายุได้ 13 ปี บิน ลาเดน ได้รับมรดกมากมายจากบิดาที่เสียชีวิตหลังเครื่องบินที่ขับประสบอุบัติเหตุตก

       สำหรับการสู้รบกับสหรัฐนั้นเชื่อว่าน่าจะเริ่มขึ้นหลังกองกำลังสหรัฐเข้าไป ประจำการในซาอุดีอาระเบียในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 2533 หลังจากอิรักรุกรานคูเวต ซึ่งบิน ลาเดน มองว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดนอิสลาม และเรียกร้องให้ทำสงครามศาสนากับสหรัฐ ซึ่งต่อมาบิน ลาเดน ถูกตัดออกจากครอบครัว และถูกเพิกถอนสัญชาติซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2537 บิน ลาเดน ย้ายไปอยู่ที่ซูดาน เมื่อปี 2534 ก่อนจะถูกขับออกนอกประเทศในอีก 5 ปีต่อมา และเขาได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอัฟกานิสถานก่อนที่กลุ่มตอลิบานจะเข้ายึด การปกครอง ซึ่งบิน ลาเดน ได้เป็นบุคคลวงในของกลุ่มตอลิบานในเวลาต่อมา


   

       สหรัฐกล่าวหาบิน ลาเดน และเครือข่ายอัลกออิดะห์ว่าก่อเหตุโจมตีหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดอาคารเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์กเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6 คนแต่มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน นอกจากนี้ยังนายบิน ลาเดน ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการสำคัญในการสังหารทหารสหรัฐ 24 คนในซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2548-2549  และยังอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดโจมตีสถานทูตสหรัฐในเคนยา และแทนซาเนียเมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิต 224 คน และบาดเจ็บ 4,000 คน หลังเหตุการณ์สถานทูตถูกโจมตี สหรัฐได้ใช้ขีปนาวุธถล่มโจมตีสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นค่ายฝึกของบิน ลาเดน หลายแห่งทั้งในอัฟกานิสถาน และซูดาน

         ทางการสหรัฐยังระบุด้วยว่าเครือข่ายก่อการร้ายของบิน ลาเดน เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีเรือรบยูเอสเอส โคล ของสหรัฐที่นอกชายฝั่งเยเมนเมื่อเดือนตุลาคม 2543 ทำให้ทหารเรือสหรัฐเสียชีวิตไป 17 คน  และเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดคือการจี้เครื่องบินโดยสารของสหรัฐพุ่งชนอาคาร เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ และกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3,000 คน หลังจากนั้นเป็นต้นมา สหรัฐได้ปฏิบัติการไล่ล่าบิน ลาเดน อย่างหนัก โดยเชื่อว่าเขากบดานอยู่ในบริเวณชายแดนปากีสถานและอัฟกานิสถาน พร้อมตั้งทั้งค่าหัวเอาไว้สูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการแจ้งเบาะแสในการนำจับ.-สำนักข่าวไทย

Credit: ไทยรัฐออนไลน์
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...