10 ปีบทพิสูจน์รัก(แท้) ที่ไม่ใช่เทพนิยาย
เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มรูปงามเลือดสีน้ำเงิน "เจ้าชายวิลเลียม แห่งเวลส์" รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่ตกหลุมรัก "เคท มิดเดิลตัน" หญิงสาวหน้าตาสวยคมร่างระหงจากครอบครัวชนชั้นกลางชาวอังกฤษโดยแท้ อาจถูกมองประดุจเทพนิยายรักโรแมนติคเรื่องหนึ่ง ทว่าหากพินิจครรลองความรักของคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้แล้วจะพบว่าทั้งสองต่างต้องผ่านบททดสอบรักแท้ที่ไม่คาดคิดมากมายเฉกเช่นเดียวกับชีวิตรักของหนุ่มสาวทั่วไปที่มีทั้งหวานระคนเฝื่อนขมอยู่บ้างกว่าที่ความรักของทั้งคู่จะสุกงอมจนถึงวันลั่นระฆังวิวาห์ได้
ตำนานรักของเจ้าชายวิลเลียมเริ่มต้นขึ้นหลังจากพระองค์ทรงสมัครเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในคณะประวัติศาสตร์ศิลป์ที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ส ในสกอตแลนด์ เมื่อเดือนกันยายนปี 2001 ซึ่งพระองค์ทรงใช้พระนามในการลงทะเบียนเรียนเพียงแค่ว่า "วิลเลียม เวลส์" ไม่มีอิสริยยศนำหน้าพระนามแต่ประการใด ดั่งพระทัยที่ตั้งมั่นมาแต่ไหนแต่ไรว่าจะใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไป ในรั้วมหาวิทยาลัยนี้เองที่ทำให้พระองค์ได้โคจรมาพบกับเคท มิดเดิลตัน ที่ ณ เวลานั้นดำรงสถานะเป็นแค่นักศึกษาหญิงร่วมคณะคนหนึ่งเท่านั้น
ในช่วงปีการศึกษาแรกทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเคทต่างพักอยู่ที่หอพักเซนต์ซัลวาทอร์ ฮอลล์ (แซลลีส์) ของทางมหาวิทยาลัย โดยที่ห้องพักของทั้งคู่ตั้งอยู่ใกล้กัน จะด้วยความบังเอิญหรือชะตาฟ้าลิขิตก็แล้วแต่ ได้ทำให้สัมพันธภาพระหว่างหนุ่มสาวทั้งสองที่เริ่มก่อตัวจาก "มิตรภาพความเป็นเพื่อน" ค่อยๆ พัฒนาสนิทสนมขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งวันงานเดินแฟชั่นโชว์เพื่อการกุศลที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2002 ซึ่งเคทได้ร่วมเดินแบบในงานนี้ด้วยในชุดเดรสสั้นโปร่งแสงเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดำ 2 ชิ้นปกปิดเรือนกาย สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้ชมในงานอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเจ้าชายวิลเลียมที่สื่อมวลชนต่างรายงานว่า พระองค์ลงทุนซื้อบัตรที่นั่งแถวหน้าประชิดขอบแคตวอล์กเลยทีเดียว เหตุการณ์ในวันนั้นได้ฉายภาพความรู้สึกพิเศษระหว่างเจ้าชายวิลเลียมกับเคทที่ชัดเจนมากขึ้นภายใต้การจับจ้องของทัพสื่อมวลชน
ราว 6 เดือนถัดมา เจ้าชายวิลเลียมและเคทได้ย้ายออกจากหอพักมหาวิทยาลัยไปอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งร่วมกับพระสหายอีก 2 คน ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งพัฒนาไปมากขึ้น จนมีข่าวลือสะพัดว่าทั้งสองอาจกำลังตกหลุมรักกันเมื่อปรากฏภาพถ่ายเจ้าชายวิลเลียมและเคทในอิริยาบถใกล้ชิดระหว่างการชมการแข่งขันรักบี้นัดหนึ่งในเดือนพฤษภาคมปี 2003 แต่แม้เคทจะปรากฏตัวในฐานะแขกในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติ 21 พรรษาของเจ้าชายวิลเลียมที่จัดขึ้นเป็นการส่วนพระองค์ที่ปราสาทวินด์เซอร์ในเดือนมิถุนายนปี 2003 ครั้งหนึ่งเมื่อเจ้าชายวิลเลียมถูกผู้สื่อข่าวซักถามเรื่องความรัก พระองค์กลับตอบว่าพระองค์ "ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน" ขณะที่อีกด้านก็มีรายงานข่าวออกมาว่าฝ่ายเคทเองก็กำลังออกเดตกับหนุ่มคนอื่นอยู่
ความสัมพันธ์ที่กระท่อนกระแท่นในช่วงเวลานั้นได้หวนกลับมาดีขึ้นในช่วงคริสต์มาส ก่อนที่ภาพถ่ายของเจ้าชายวิลเลียมกับเคทในบรรยากาศหวานชื่นขณะเล่นสกีพักผ่อนอยู่ด้วยกันที่รีสอร์ทตากอากาศในสวิตเซอร์แลนด์จะปรากฏสู่สายตาสาธารณะในเดือนมีนาคมปี 2004 โดยที่ทางสำนักพระราชวังก็ไม่ได้ปฏิเสธข่าวการไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันของเจ้าชายวิลเลียมและเคทแต่อย่างใด
โรเบิร์ต จ๊อบสัน ผู้สื่อข่าวสายราชสำนักและผู้เขียนหนังสือเรื่อง "วิลเลียม แอนด์ เคท : เดอะ เลิฟ สตอรี่" กล่าวว่า เคทเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะมีอิทธิพลสำคัญต่อเจ้าชายวิลเลียม เธอเป็นใครสักคนที่พระองค์ทรงไว้วางพระทัยได้อย่างสนิทใจ ไม่เพียงเฉพาะแค่ในมุมชีวิตส่วนพระองค์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมุมชีวิตที่ปรากฏต่อสาธารณชนด้วย บททดสอบหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมยืนหยัดอยู่เคียงข้างพระวรกายในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่พระองค์ต้องพบเจอ ดังเช่นครั้งที่เจ้าชายวิลเลียมทรงมีปัญหาเรื่องการเรียน จนพระองค์เกือบทอดพระทัย แต่เคทก็ได้ให้กำลังใจและโน้มน้าวให้พระองค์ทรงสู้ต่อด้วยการเปลี่ยนสาขาวิชาไปเรียนด้านภูมิศาสตร์แทน ในทางกลับกัน เจ้าชายวิลเลียมเองก็ได้ทำหน้าที่ในส่วนของพระองค์อย่างเต็มที่ในการปกป้องหญิงสาวคนรักให้พ้นจากการถูกสื่อคุกคามดังที่พระองค์ทรงได้พบเห็นมาก่อนจากพระมารดาของพระองค์ที่ต้องรับมือกับชีวิตราชวงศ์ในแง่มุมที่ยากลำบาก
เจ้าชายวิลเลียมเคยตรัสว่า พระองค์ได้ให้โอกาสหญิงคนรักของพระองค์แล้วในการถอนตัวออกไปก่อนที่ความรู้สึกที่มีให้ต่อกันจะถลำลึกไปมากกว่านี้ แต่เคทก็ไม่ได้เลือกที่จะรับโอกาสนั้น หากยังสานสัมพันธ์รักที่แนบแน่นมากขึ้น...
การถูกจับจ้องจากสื่อและถูกคาดหวังจากสาธารณชนได้สร้างความกดดันให้กับเจ้าชายวิลเลียมและเคทอยู่ไม่น้อย ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปี 2006 ถึงกับมีข่าวการคาดหมายเกี่ยวกับการหมั้นหมายของพระองค์ออกมา แต่ทุกคนก็ต้องช็อคเมื่อทางสำนักพระราชวังประกาศยืนยันว่าข่าวการแยกทางกันของเจ้าชายวิลเลียมและเคทที่ปรากฏทางสื่อในเดือนเมษายนปี 2007 นั้นเป็นจริง สาเหตุของการเลิกรานั้นถูกกล่าวโทษในวงกว้างว่ามาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทในหน้าที่การงานของเจ้าชายวิลเลียมและการยังหวงชีวิตหนุ่มโสดของพระองค์ จึงรู้สึกไม่พร้อมที่จะลงหลักปักฐาน ภาพการปาร์ตี้สังสรรค์กับสาวมากหน้าหลายตาของเจ้าชายวิลเลียมจึงปรากฏให้เห็นได้อยู่เป็นระยะๆ
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปี 2005 ก็มีข่าวการเลิกรากันของทั้งคู่มาแล้ว เจ้าชายวิลเลียมตรัสถึงข่าวนี้ว่า "เรายังเด็กมาก เรายังอยู่แค่มหาวิทยาลัยเอง เราทั้งคู่ต่างยังต้องค้นหาตัวเองกันต่อไป"
สำหรับเคทกล่าวยอมรับหลังการเลิกรากับเจ้าชายวิลเลียมจริงๆ ว่า เธอไม่มีความสุขเลยกับการต้องเลิกกัน แต่เธอก็ยืนยันว่ามันทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น...
การตัดสินใจแยกทางเดินจากกันดำเนินไปได้เพียงไม่กี่เดือน ช่วงเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน ก็มีสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้าชายวิลเลียมและเคทอาจหวนกลับมาคบหาดูใจกันใหม่อีกครั้ง โดยการที่เคทไปร่วมงานเลี้ยงในค่ายทหารลัลเวิร์ธในฐานะแขกของเจ้าชายวิลเลียม และการร่วมชมคอนเสิร์ตรำลึกถึงเจ้าหญิงไดอานา แห่งเวลส์ พระมารดาผู้ล่วงลับ ที่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชา เป็นพ่องานจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมถัดมา เป็นเครื่องยืนยันถึงสายลมรักที่พัดหวนกลับมา หลังจากนั้นเจ้าชายวิลเลียมและเคทได้ควงคู่ออกงานต่างๆ กันเรื่อยมา รวมถึงงานพระราชกรณียกิจสำคัญต่างๆ ของราชวงศ์
การกลับมาสานต่อสัมพันธ์รักครั้งนี้ของเจ้าชายวิลเลียมและเคทดำเนินไปอย่างหนักแน่นและจริงจัง ก่อนปูทางมาสู่วันที่เจ้าชายวิลเลียมตัดสินใจขอเคทแต่งงานในระหว่างที่ทั้งสองเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศเคนยาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2010 และการประกาศจากสำนักพระราชวังอังกฤษถึงข่าวมงคลที่พสกนิกรชาวอังกฤษต่างเฝ้ารอคอยมานานถึง 30 ปี นั่นคือ งานพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม แห่งเวลส์ และเคท มิดเดิลตัน หญิงคนรัก ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในวันที่ 29 เมษายนนี้
วันที่ปฐมบทแห่งชีวิตคู่ (แท้) ของเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กับหญิงสามัญชนคู่นี้จะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง...