เชื่อว่านักเดินทางชอบรอนแรมไปตามสถานที่ต่างๆ กับรถยนต์คู่ใจ หลายท่านคงเคยผ่านประสบการณ์ต้อง “นอนในรถ” กันมาบ้าง และต้องซาบซึ้งเป็นอย่างดีว่า มัน “ทรมาน” สักขนาดไหน ทั้งยุง ทั้งร้อน ไม่มีทางหลับตาลงได้อย่างมีความสุขเป็นแน่
แต่ถ้าใครอยากแก้ปัญหานี้ด้วยการสตาร์ตเครื่องแล้วเปิดแอร์ ก่อนหลับใหลไป ก็คงเกรงว่าขณะอยู่ในภวังค์นิทรานั้น อาจมีเหตุทำให้มีอันต้องสูดก๊าซพิษเข้าไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว กระทั่งไม่มีโอกาสตื่นลืมตาขึ้นมาดูโลกอีกครั้ง ดังที่เห็นเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์กันเป็นระยะ
เมื่ออย่างนั้นไม่ดี อย่างนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะทำยังไงกันดี!?
นี่คือคำถามที่ผู้ประกอบการรายหนึ่ง ตั้งขึ้นมา ก่อนพยายามค้นหาคำตอบ จนได้ออกมาเป็น “ผ้ามุ้งสำหรับรถยนต์” สินค้าโดนใจใครหลายคนในเวลานี้...อยู่ไม่น้อย
ทั้งร้อน ทั้งยุง
อยากมีมุ้งครอบรถ
คุณอภิวัชร์ เลิศรุ่งวิเชียร เจ้าของผลิตภัณฑ์ ผ้ามุ้งสำหรับรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ “แฮปปี้คาร์ 555” กรุณาสละเวลามานั่งพูดคุยด้วย หลังจากเพิ่งนำสินค้าใส่ถุงส่งให้กับลูกค้ากลุ่มใหญ่ ด้วยการแนะนำตัวให้รู้จักกันเป็นการเบื้องต้นว่า ปัจจุบันอายุ 50 ปี มีอาชีพดั้งเดิมคือ ตระเวนขับรถไปรับซื้อพืชไร่ ตามแหล่งปลูกในจังหวัดต่างๆ มาส่งขายให้กับห้องแช่ในกรุงเทพฯ
ช่วงที่อยู่ในวัยทำมาหากินอยู่นั้น เคยประสบอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถพ่วง สาเหตุมาจากการ “หลับใน” ของตัวเอง นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเกิดอาการง่วงนอนขึ้นมาเมื่อใด จะไม่ฝืนขับรถต่อ ต้องหาสถานที่แวะจอดเป็นประจำ คือ “ปั๊มน้ำมัน” นั่นเอง
มีพฤติกรรม สตาร์ตรถ เปิดแอร์ แล้วงีบเอาแรง ให้หายง่วง อยู่อย่างนั้นได้พักใหญ่ ได้ยินข่าวคนนอนในรถ มีอันต้องเสียชีวิต เพราะขาดอากาศหายใจบ้าง เพราะสูดก๊าซพิษเข้าไปบ้าง จึงเกิดความรู้สึกกลัว เลยแก้ปัญหาใหม่ด้วยการดับเครื่อง แล้วไขกระจกลงเพื่อระบายอากาศ แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือ “ยุง” ที่บินเข้าทั้งกัด ทั้งตอมหู-ตา จนนอนไม่ได้
“สุดท้ายผมต้องยอมแพ้ยุง ไขกระจกขึ้น แล้วเปิดแอร์นอนในรถ ช่วงนี้เองที่มองไปที่หน้าต่างรถ แล้วเกิดความคิดขึ้นมาว่า ขนาดตามบ้านพักอาศัยยังมีมุ้งลวดกันยุง แล้วจะทำยังไงถึงจะเอามุ้งลวดมาติดที่รถได้”
“อาชีพของผม คือขับรถไปส่งของให้ห้องเย็น บางทีไปถึงตอนเช้ามืด ต้องจอดรถรอเขาเปิดทำการ รปภ. บางแห่งไม่อนุญาตให้ติดเครื่องยนต์รอ รู้สึกลำบากมาก เลยคิดไปเรื่อยเปื่อยว่า ถ้ามีมุ้งติดรถ ป่านนี้คงไขกระจกลง ฟังวิทยุ มีความสุขไปแล้ว จึงเกิดแรงบันดาลใจคิดทำขึ้นมา” คุณอภิวัชร์ ย้อนถึงที่มาของแนวคิดให้ฟังเป็นฉากๆ
เจ้าของเรื่องราว เล่าต่อด้วยว่า เขาเริ่มต้นคิดค้นมุ้งติดรถยนต์เมื่อราวต้นปี พ.ศ. 2550 แต่ด้วยความที่ยังไม่เคยมีใครทำออกมาขายก่อน จึงทำให้ไม่มีต้นแบบหรือตัวอย่างให้ศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียว จึงได้แต่ลองผิดลองถูกไปตามประสา ช่วง 2 เดือนแรกไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย
“ช่วงแรกคิดอยากมีไว้ใช้เอง แต่พอคิดอีกที คนที่มีปัญหาแบบเดียวกับตัวผมคงมีมากเหมือนกัน อย่างที่เห็นนอนในรถกันตามปั๊ม ไม่ได้มีรถของผมแค่คันเดียว จึงคิดว่าคนพวกนั้นต้องมีปัญหาเหมือนกัน เลยคิดว่าถ้าทำออกมาน่าจะขายได้ แต่คนที่บ้านไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะยังไม่เคยเห็นใครทำออกมาขาย” คุณอภิวัชร์ เล่ายิ้มๆ
เชื่อขายได้แน่
แต่คนไม่เข้าใจ
แต่ด้วยความพยายามไม่ล้มเลิก เพราะเชื่อมั่นว่าต้อง “ขายได้” คุณอภิวัชร์จึงลงทุนครั้งแรกด้วยเงินทุนหลักหมื่น ลองผิดลองถูก แก้ไข จนได้ “ผ้ามุ้งสำหรับรถยนต์” ตัวต้นแบบ ที่มีรูปร่างและขนาด ที่สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท ทั้งเก๋ง กระบะ และรถตู้ ก่อนนำไปจดทะเบียนสิทธิบัตรไว้แล้ว เมื่อปลายปี 2550 ก่อนนำออกสู่ตลาดเมื่อต้นปี 2551 ที่ผ่านมา
คุณอภิวัชร์ เล่าต่อ แหล่งจำหน่ายที่หมายตาไว้สำหรับเขาในช่วงแรกคือร้านข้าวแกงและร้านขายของชำ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงงานน้ำตาล และโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ เนื่องจากมักมีรถสิบล้อบรรทุกวัตถุดิบ ประเภทอ้อยและพืชอื่นๆ มาจอดนอนรอหน้าโรงงานกันเป็นจำนวนมาก หากมุ้งผ้าสำหรับรถยนต์ในแบบของเขาไปวางขาย น่าจะตรงใจมากที่สุด
เมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ จึงขอแทรกด้วยคำถามคาใจว่า แล้วลูกค้าเขาเข้าใจสินค้าที่ว่ามามั้ย คุณอภิวัชร์ยิ้มกว้าง ก่อนสวนทันควัน
“ไม่เลยครับ พอทุกคนดูปั๊บจะงง แล้วบอกไม่รู้จัก คนที่ผมไปฝากขายเอง จึงต้องอธิบายให้ฟังหลายอย่าง แต่ขณะเดียวกัน คนที่นำของไปฝากขายนั้น เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ช่วงนั้นเลยขายยากมาก” เจ้าของผลงาน เล่าด้วยสีหน้าเหมือนยังเหนื่อยอยู่
แต่ด้วยความไม่ท้อ คุณอภิวัชร์จึงขอลุยต่อ ด้วยการนำสินค้าในแบบของเขา ไปขยายตลาด ด้วยการฝากขายตามร้านปะยาง ร้านประดับยนต์ และปั๊มน้ำมัน ตามแหล่งชุมชนในจังหวัดต่างๆ ซึ่งผลตอบรับกลับมาปรากฏว่า ยอดขายดีที่สุดมาจากปั๊มน้ำมัน เขาจึงพุ่งเป้าหมายไปที่ปั๊มน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว
จากนั้นจึงหันมาพัฒนาสินค้า ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยและทันสมัยมากขึ้น ช่วงเวลานี้เองที่ทราบข่าวการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเมืองทองธานี ผ่านทางโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เลยส่งสินค้าของตัวเองเข้าคัดสรรกระทั่งได้เป็นสินค้าโอท็อป 3 ดาว และได้เข้าไปเสนอตัวในตลาดใหญ่เป็นครั้งแรก
“ไปออกบู๊ธที่เมืองทองฯ ปีแรกต้องอธิบายกันน่าดูเหมือนกัน เพราะยังไม่มีคนรู้จัก ไม่มีการโฆษณามาก่อน อุปกรณ์ส่งเสริมการขายก็ยังไม่มี ผมจึงได้แต่พยายามชี้ให้เห็นตามรูปภาพ ว่ามันอย่างนั้น อย่างนี้นะ สรุปออกมา งานแรกจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ตั้งใจไว้” คุณอภิวัชร์ บอกอย่างนั้น
ได้อุปกรณ์ช่วยอธิบาย
ยอดพุ่งหลายเท่าตัว
เมื่อยอดขายไม่เดินอย่างใจคิด คุณอภิวัชร์จึงกลับมาทบทวนว่าผิดพลาดตรงไหน จนได้คำตอบออกมาว่า การอธิบายประโยชน์ของสินค้านั้น ต้องง่ายกระชับให้ลูกค้าเข้าใจเร็วที่สุด ดังนั้น อุปกรณ์ส่งเสริมการขายที่ยังขาดอยู่คือ บานประตูรถ มาตั้งประกอบให้เห็นภาพสมจริง
งานสินค้าโอท็อปในปีต่อมา ที่บู๊ธจำหน่ายสินค้า “ผ้ามุ้งสำหรับรถยนต์-แฮปปี้คาร์ 555” จึงมีบานประตูรถยนต์ ขนาดเท่าของจริง มาเป็นอุปกรณ์เสริมคำอธิบาย ซึ่งคราวนี้ได้ผล มีผู้คนให้ความสนใจและสั่งซื้อ ชนิดจาก “หน้ามือเป็นหลังมือ” เลยทีเดียว
“ยอดขายในปีที่ 2 ดีขึ้นมาก มีทั้งลูกค้ารายย่อยซื้อไปใช้เอง และซื้อไปจำหน่ายต่อหลายแห่ง มีลูกค้ารายหนึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันรายใหญ่ เขาสนใจสินค้ามาก เลยให้ผมไปฝากขายได้ ทุกวันนี้จึงมีสินค้าของผมวางขายในปั๊มน้ำมันหลายสิบแห่งด้วยกัน” คุณอภิวัชร์ บอกปลื้มๆ
ถามความรู้สึกตอนที่ลูกค้ายังไม่เข้าใจในตัวสินค้า เจ้าของเรื่องราวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนเล่า ตอนนั้นรู้สึกท้อเหมือนกัน แต่ที่พยายามเดินหน้าต่อเพราะมีความเชื่อมั่นว่าใช้งานได้จริง แต่ตอนไปออกบู๊ธบางครั้งมีลูกค้าบางคนแซวว่า “กันยุงได้แล้วกันโจรได้หรือเปล่า” จึงต้องพยายามอธิบายถึงหลักการใช้งานที่ถูกต้อง
“การจะจอดรถนอน เราต้องเลือกสถานที่จอด เลือกจอดตามปั๊มที่มีไฟสว่าง มีซุปเปอร์มาร์เก็ต จอดตามโรงพัก หรือตามสถานที่แหล่งท่องเที่ยวที่จัดไว้ให้จอดนอนได้โดยเฉพาะ ไม่ใช่จอดนอนริมทางเปลี่ยวๆ แล้วการไขกระจกลง ก็ให้ไขลงประมาณ 2-3 เซนติเมตร ไม่ได้ไขหมด ผู้ขับขี่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากเรื่องอื่นด้วย” เจ้าของสินค้า อธิบาย
ก่อนจบบทสนทนา ถามไถ่ว่ารู้สึกกลัวหรือไม่ว่าจะมีใครมาลอกเลียนแบบ คุณอภิวัชร์พยักหน้ารับหงึกหงัก ก่อนตอบตรงๆ ตอนนี้กลัวที่สุดคือประเทศที่เป็นเจ้าแห่งการเลียนแบบ จึงไม่อยากไปขายแถวตลาดโรงเกลือ เพราะเกรงจะมีคนหิ้วข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน แล้วไม่นานกลับมีสินค้าเหมือนกันเปี๊ยบ แต่ขายถูกกว่า เลยต้องจดสิทธิบัตรไว้
“ผ้ามุ้งสำหรับรถยนต์-แฮปปี้คาร์ 555” ชุดหนึ่งใช้ได้ 2 บาน ราคาขายปลีก 299 บาท ราคาขายส่ง ถ้าสั่งตั้งแต่ 2 โหลขึ้นไป ขายชุดละ 200 บาท สินค้าพร้อมจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณอภิวัชร์ เลิศรุ่งวิเชียร เลขที่ 228/2 หมู่ 2 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี 15230 โทรศัพท์ (081) 924-9302 www.happycar555.com