"ในหลวง" ทรงงานเพื่อชาติหนัก

 

23 เมษายน เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของ สาธารณรัฐประชาชนจีน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังห้องฟินิกซ์  โรงแรมที่ประทับ พระราช

ทานพระวโรกาสให้นายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง นำข้าราชการและ

เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ พร้อมด้วยชาว

ไทยที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงกู่เจิงพระ

ราชทานแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ในเพลงเมฆตามพระจันทร์ พร้อมทรงขับร้องเพลงลั่วฟาเฟย

ที่ฮ่องเต้หลี่ยู่แห่งราชวงศ์ถังเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้อง โอกาสนี้ มีพระดำรัสถึงผู้ประสบภัย

พิบัติในพื้นที่ภาคใต้ และมีพระดำรัสถึงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า

ทรงพระสำราญขึ้นมาก แต่ยังคงทรงงานหนักอย่างเช่นเคยปฏิบัติเพื่อประชาชนชาวไทย

“ประเทศไทยมีดี 3 ดี คือ ชาติดี ศาสนาดี พระมหากษัตริย์ดี และของอะไรที่มันดีอยู่แล้ว

ถ้าเป็นของของเรา เราย่อมต้องหวงแหนเอาไว้ ปกป้องเอาไว้ เก็บเอาไว้อย่างดี ไม่ให้ใคร

มาทำลาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เท่า

ที่ข้าพเจ้าอยู่กับท่านมาตั้งแต่เด็ก เห็นทรงงานมาตั้งแต่ข้าพเจ้าเด็ก ๆ

และเท่าที่ข้าพเจ้าจำได้ ข้าพเจ้าเริ่มออกตามเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 14

โดยข้าพเจ้าทำงานอยู่ในหน่วยแพทย์พระราชทาน ข้าพเจ้าเห็นว่าทรงงานหนักเพียงไร

ท่านทรงดูทั้งเรื่องสุขภาพพลานามัยของประชาชน เรื่องอาชีพ ปากท้อง การเกษตรกรรม

การชลประทาน การศึกษา ท่านดูครบทุกอย่าง”

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ มีพระดำรัสอีกว่า จริง ๆ แล้วถ้าเป็นคน

ที่อายุ 40  ขึ้นไปก็คงพอจะนึกออกถึงภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน แต่น่า

เสียดายที่เด็กที่อายุต่ำกว่า  20  ปี ลงไป จะไม่รู้เลย เพราะมาโตตอนที่พระองค์ทรงพระ

ชราแล้ว ทรงหมดกำลังแล้ว แต่ขนาดทรงหมดกำลัง ไม่ได้เสด็จฯ  ออกไปตรากตรำอย่าง

เดิม ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่ใส่พระทัย

ทรงใส่พระทัยตลอดเวลา ทรงเรียกงานมาทำ เรียกงานมาดู แม้แต่ประทับอยู่ รพ.ศิริราช

ทุกวันนี้ ราชเลขาฯ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ยังเข้าเฝ้าฯ ถวายงานให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย

ไม่ใช่เฉพาะงานในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่เป็นงานของต่างจังหวัดด้วย ซึ่งท่านใช้วิธีใช้ลูก

ทำแทนเท่าที่ทำได้ อย่างตัวข้าพเจ้าเองรับในแง่ของ พอ.สว. ซึ่งสมเด็จย่าเป็นผู้ริเริ่ม

และข้าพเจ้าคิดว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำสุภาพ ไม่หมิ่นต่อสถาบัน
ข่าวโดย : ไทยโพสต์
Credit: http://www.talkystory.com
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...