ทักษิณ ลั่น กลับไทยไม่แก้แค้น จัดชุดใหญ่ดันนโยบายเพื่อไทย สู้เลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ VDO ลิงค์ สวมชุดสูทร มายังงานเปิดตัวนโยบายพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ตน มีฐานะร่ำรวยก่อนเข้าเล่นการเมือง แต่ถูกกลับยึดทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาตนโดนกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอด ทั้งนี้ก็ขอยืนยันว่า ตนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงค์สานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งตนเองก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9 ตนก็จะขอทำงานโดยความจงรักภักดีไม่ว่าตนจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม

ขณะ เดียวกัน ตนก็เห็นด้วยกับ นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่ออกมาตั้งกฏ ห้ามพรรคการเมืองนำเรื่องสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองใช้ในการหาเสียง

ส่วน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาพูดว่า อย่ากดดันให้ทหารต้องจับปืนนั้น มองว่า เวลานี้ไม่มีใครกลัวใคร ทหารควรหันมาพัฒนาประเทศ เราคนไทยด้วยกันจะทะเลาะกันทำไม

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศนโยบายในการสู้ศึกการเลือกตั้ง โดยการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า เรื่องค่าครองชีพ ปัญหาราคาสินค้าแพง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน การลงทุนระยะยาวในโครงการเมกะโปรเจค การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ประเทศ

เพราะ โครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลักไม่พอเพียง กับการแก้ไขปัญหาความยากจน และการกระจายรายได้ สร้างเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับภาคการเกษตร โดยเฉพาะการลงทุนโครงการเมกะโปรเจคแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างบูรณาการ การลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการแลนด์บริดจ์ การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก

เพิ่ม ขีดความสามารถการแข่งขัน ด้วยการเร่งผลักดันการลงทุนโครงการบรอดแบนด์ เน็ตเวิร์ค อย่างจริงจัง ไม่เฉพาะโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 G เท่านั้น แต่จะมีเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ผ่านเครือข่ายไอซีทีอย่างเต็มที่

นอก จากนี้ การแก้ไขปัญหาความยากจน มีเป้าหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับคนชั้นกลาง ทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และความยากจน แบบบูรณาการในหลายด้าน โดยเฉพาะ การยกระดับชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืน

ส่วนในเรื่องที่ เกี่ยวกับจุดยืนของพรรคที่ไม่ขัดแย้งกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งตรงนี้จะไม่พูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม เพราะกระบวนการที่พรรคจะดำเนินการทั้งหมด คือ ให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และประชาชนทุกคนจะต้องได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

อีกทั้งยังมีเป้าหมายผลักดันให้เศรษฐกิจจริงขยายตัวไม่ต่ำกว่าปีละ 5% เพราะเห็นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวไม่เกิน 4% ในปัจจุบัน ไม่มีความสามารถวางโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% เพื่อให้ประเทศมีความสามารถเพียงพอในการชำระหนี้ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคต ด้วยการผลัก ดันให้มีการลงทุนเมกะโปรเจคในช่วง 5 ปีข้างหน้า วงเงินลงทุนรวมประมาณ 1 ล้านล้านบาทสำหรับโครงการลงทุนสำคัญ ๆ ประกอบด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรทั่วประเทศ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงใน 3 เส้นทางหลัก คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ-หนองคาย และ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนเส้นทางย่อยคือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และ กรุงเทพฯ-ระยอง

พร้อม กันนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ ท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล เพื่อขนถ่ายสินค้าโดยเฉพาะน้ำมันและปิโตรเคมีจากฟากตะวันออกกลางไปยังทวีป ยุโรปแทนการใช้ท่าเรือของสิงคโปร์ วงเงินลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาทโครงการสร้างที่อยู่อาศัยให้ชาวต่างชาติ ในจังหวัดภาคตะวันออก โครงการ “บ้านผู้เฒ่า” ที่มี บุคลากรทั้งแพทย์และพยาบาลคอยดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติ

ขณะ ที่ การเพิ่มรายได้ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท แลกกับการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 10% จากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตรา 30% เหลือ 20% การลดอัตราภาษีนิติบุคคลในส่วนนี้ แม้จะทำให้รายได้จากภาษีนิติบุคคลของรัฐลดลง แต่รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บในอัตรา 7% ที่เกิดจากการบริโภคของประชาชนที่ได้รับการปรับค่าจ้างมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้กระตุ้นให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนอีกด้วย

อย่าง ไรก็ตาม ตนอยากขอวิงวอนให้คนไทยเลิกทะเลาะกัน อีกทั้งหากตนได้กลับประเทศ ก็จะไม่ขอกลับไปแก้แค้น แต่จะกลับไปแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่รัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้