วันที่ 1 เมษยน เป็นวันเอพริล ฟูลส์ เดย์ (April’s Fool Day) ภาษาไทยอาจเรียกว่า "วันโกหก" "วันเมษาหน้าโง่" เป็นวันที่จะอนุญาตให้โกหกต่อกันได้โดยไม่ถือโกรธ บางประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเล่นกันจริงจัง ถึงขนาดลงข่าวที่น่าตกใจในหนังสือพิมพ์ แล้วมาเฉลยว่าเป็นเรื่องโกหกในวันถัดไป
เนื่องในโอกาสวันโกหก จีงขอนำเสนอเรื่องโป้ปดในวงการวิทยาศาสตร์ ที่มีผู้หลงเชื่อมากมายในอดีต ก่อนจะถูกแฉ
เรื่องที่ 1 มนุษย์พิลท์ดาวน์ (Piltdown Man )
ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ คนไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิง แต่คนกับลิงเคยมีบรรพบุรุษร่วมกันมาก่อน ซึ่งบรรพบุรุษร่วมนั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้ว จึงไม่มีใครทราบว่าจุดเชื่อมโยงระหว่างคนกับลิงมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ในปี 2455 Charles Dawson อ้างว่าพบฟอสซิลที่เชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมโยงที่ขาดหายไป (missing link) ระหว่างคนกับลิง (ape) ฟอสซิลดังกล่าวเป็นเศษกระโหลก ขากรรไกรและฟัน พบที่บ่อกรวดในหมู่บ้านพิลท์ดาวน์ (Piltdown) ประเทศอังกฤษ
เศษกระดูกถูกประกอบเข้าด้วยกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ ได้เป็นหัวกะโหลกที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีส่วนขากรรไกรคล้ายลิง ตามที่ตั้งสมมุติฐานไว้เป๊ะ เรียกชื่อฟอสซิลนี้ว่า มนุษย์พิลท์ดาวน์ ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ นำไปศึกษาต่อยอดมากมาย มีการจำลองใบหน้าตาโครงสร้างของหัวกะโหลกขึ้นมา แถมยังมีคำอธิบายอีกสารพัด ทั้ง พฤติกรรมการกินอาหาร การดำรงชีวิต
แต่ในปี 2496 หลังการค้นพบมนุษย์พิลท์ดาวน์ 40 ปี โลกต้องตะลึงเมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่าแท้จริงแล้วมนุษย์พิลท์ดาวน์เป็นของ ปลอม ทำขึ้นจาก กะโหลกส่วนบนของมนุษย์ยุคกลาง (Middle Ages) ขากรรไกรเป็นของลิงอุรังอุตัง ฟันเป็นของลิงชิมแปนซี กลายเป็นว่าองค์ความรู้ต่างๆ ที่ต่อยอดจากมนุษย์พิลท์ดาวน์เชื่อถือไม่ได้สักอย่าง
คนกลาง เสื้อขาวคือ Charles Dawson รูปขณะขุดฟอสซิล
อนุสรณ์ตั้งไว้ ณ ที่ขุดพบมนุษย์พิลท์ดาวน์
เรื่องที่ 2 ยักษ์คาร์ดิฟ (Cardiff Giant)
ยักษ์คาร์ดิฟ คือ สิ่งที่ผู้พบอ้างว่าเป็นคนยักษ์ที่กลายเป็นหิน มีลักษณะเป็นหินรูปร่างคล้ายคน สูงประมาณ 3 เมตร หนักประมาณ 1,360 กิโลกรัม เรื่องนี้เป็นเรื่องลวงโลกที่เกิดขึ้นในอเมริกา ในปี 2412
คนที่สร้างยักษ์คาร์ดิฟเป็นคนปลูกยาสูบชื่อ George Hull ตั้งใจสร้างเพื่อหลอกคนอื่นตั้งแต่ต้น โดยได้ไอเดียจากคัมภีร์ไบเบิลบทปฐมกาล (Genesis 6:4 ) ที่กล่าวว่าครั้งหนึ่งเคยมีมนุษย์ยักษ์อาศัยอยู่บนโลก
ส่วนเรื่องกลายเป็นหินนั้นได้แนวคิดจากเรื่องลวงโลกอีกเรื่องในหนังสือพิมพ์ ที่กล่าวว่าการดื่มน้ำจากหินโพรงผลึกจะทำให้ร่างกายกลายเป็นหิน
George Hull สั่งซื้อแท่งยิปซั่ม และให้ช่างแกะสลักเป็นรูปร่างคนอย่างหยาบๆ จากนั้นนำมาตกแต่งด้วยสีและใช้กรดกัดกร่อนให้ดูเก่า ใช้เข็มถักนิตติ้งสร้างรุและลวดลายบนผิวหนังเลียนแบบมนุษย์
ด้วยความสมจริงทำให้มีผู้คนเชื่อเรื่องนี้สนิท มีเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ยักษ์ปรากฏในวรรณกรรมที่แต่สมัยนั้น เช่น เรื่อง A Ghost Story โดย Mark Twain เป็นต้น
ยักษ์คาร์ดิฟทำรายได้งามจากการเก็บค่าเข้าชม ก่อนจะมีการพิสูจน์ว่าเป็นเพียงก้อนยิปซัมเท่านั้น Hull ถูกฟ้องศาล และสารภาพหมดเปลือก หลังจากนั้นมีพฤติกรรมเลียนแบบตามมากมาย
เรื่องที่ 3 อาคีโอแรปเตอร์ (Archaeoraptor)
คล้ายๆ กับกรณี มนุษย์พิลท์ดาวน์ คือ เป็นการค้นพบฟอสซิลที่เชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างสัตว์ปีกและสัตว์ เลื้อยคลาน รายงานการค้นพบฟอสซิลตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ในปี 2542 หลังจากนั้นก็เป็นข่าวครึกโครมได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค และในวารสารชื่อดังอย่าง Nature แม้กระทั่งในเว็บวิชาการ.คอม ก็ยังนำบทความเรื่องนี้มาแปลเผยแพร่!
ฟอสซิลมีถูกขุดพบในประเทศจีน โครงสร้างลำตัวคล้ายนกแต่มีส่วนหางคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งหลังจากนั้น 1 ปี ก็ถูกจับได้ว่าเป็นเรื่องหลอกลวง จากการวิเคราะห์ด้วย CT scan ระบุว่าฟอสซิลนี้น่าจะประกอบด้วยกระดูกของสัตว์ 2-5 ชนิด
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าร่างกายช่วงบนเป็นฟอสซิลของ Yanornis martini ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับนกสมัยใหม่ กินปลาเป็นอาหาร ส่วนหางเป็นของ Microraptor zhaoianus ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อ แต่ขาและปากยังไม่ทราบว่าเป็นของสัตว์ชนิดใด
เรียกได้ว่าถูกหลอกไปตามๆ กัน วารสารได้ถอดถอนบทความการค้นพบอาคีโอแรปเตอร์ออก นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ออกมายอมรับว่าได้ตีพิมพ์เรื่องที่เป็นเท็จ ส่วนในเว็บวิชาการ.คอม ยังสามารถอ่านบทความดังกล่าวได้ พร้อมทั้งบทความชี้แจงที่เปิดโปงเรื่องลวงโลกนี้
อย่างไรก็ตามแม้ว่า หลักฐานชิ้นนี้จะเป็นของปลอม แต่มีหลักฐานจากแหล่งอื่น ที่ยืนยันว่านกและสัตว์เลื้อยคลานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในเชิงวิวัฒนาการ จริง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
หรือนกจะเป็นญาติสนิทกับไดโนเสาร์
ไดโนเสาร์ยังอยู่ร่วมกับพวกเรา?
ด่วน! ไดโนเบิร์ด แท้จริงเป็นเรื่องเบิกเนตร
อ้างอิงจากบทความต้นฉบับ
http://news.nationalgeographic.com/news/2009/03/photogalleries/april-fools-day-hoaxes/
http://news.nationalgeographic.com/news/2002/11/1120_021120_raptor.html#related
http://www.nhm.ac.uk/dinobirds/