โรงงานชำแหละไก่เห็นแก่ได้ นำซากไก่เน่าขายทำ "ไก่ย่าง-ลูกชิ้น-แหนม"
เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอปากช่อง บุกทลายโรงงาน
ชำแหละไก่ตายรวม 14 แห่ง ที่ลักลอบนำไก่ที่ตายโดยไม่รู้สาเหตุออก
จากฟาร์มเลี้ยง พบซากเหม็นเน่ากว่า 100 ตัน...
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 เม.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์นำ
โดยนายสัตวแพทย์ประเวศ สุขแสงพนมรุ้ง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์
นครราชสีมา นายสัตวแพทย์อภิชาติ สุวรรณชัยรบ หัวหน้ากลุ่มพัฒนา
สุขภาพสัตว์สำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่อีก
ประมาณ 50 นาย ได้บุกเข้าไปตรวจสอบผู้ประกอบการชำแหละไก่ตาย
หลายแห่งในพื้นที่บ้านปางอโศกหมู่ 1ต.กลางดง อ.ปากช่อง
ทั้งนี้เนื่องจากกรมปศุสัตว์ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั้งในหมู่
บ้านและใกล้เคียง ว่าโรงงานเหล่านี้ลักลอบนำไก่ตายและเน่าเหม็น ที่
ประมูลซื้อมาจากฟาร์มเลี้ยงไก่หลายแห่งในเขตภาคกลางและอีสาน
จากนั้นได้นำมาชำแหละแยกชิ้นส่วนส่งไปขายให้แม่ค้าร้านอาหารตาม
สั่งในพื้น ทั่วทั้งภาคอีสาน,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก เพื่อนำไปปรุงเป็น
อาหารขาย
นอกจากนั้น ยังส่งไปขายให้พ่อค้าแม่ค้าไก่ย่างและตามโรงงานทำ
กุนเชียง แหนมไก่บางแห่งและบางแห่งนำไปบดปนในหมูยอ ส่วนไก่ที่มี
สภาพใกล้เน่าเสียโดยมีสีเขียวคร้ำ จะส่งไปขายให้บ่อเลี้ยงปลาดุกและ
ฟาร์มจระเข้ทั่วไปซึ่งพฤติกรรมของโรงงาน เหล่านี้ ได้สร้างความเดือด
ร้อนแก่ประชาชนกว่าแทบทั้งตำบลเนื่องจากไก่ส่วนใหญ่จะมี กลิ่นเน่า
เหม็นกระจายไปทั่วหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ
และสุขภาพ รวมทั้งน้ำชำระล้างซากไก่เน่ าก็ไหลลงคลองสาธารณะจน
ปูปลาพากันตายลอยเป็นแพ
หลังจากได้รับการร้องเรียนแล้ว ผู้บริหารระดับสูง ของกรมปศุสัตว์ได้สั่ง
การให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว เดินทางมาตรวจสอบ และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้า
ไปตรวจจุดแรกที่บ้านปางอโศก หมู่ 1 ต.กลางดง ซึ่งมีโรงงานชำแหละ
อยู่บริเวณเดียวกันจำนวน 15 แห่ง พบซากไก่ตายและเน่าเหม็นอัด
แน่นอยู่บนรถบรรทุกและบางส่วนทิ้งกระจัดกระจาย เกลื่อนพื้น และบาง
ส่วนกองอยู่กับพื้นที่มีแมลงวันตอมเต็มไปหมดแห่งละเกือบ 10 ตัน รวม
จำนวนกว่า100 ตัน โดยทั้งหมด กำลังรอการชำแหละเพื่อส่งไปขายให้
ลูกค้าขาประจำ
เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบอนุญาตค้าซากสัตว์และใบอนุญาตเคลื่อน
ย้ายซากสัตว์ เจ้าของโรงงานเหล่านั้น กลับไม่มีมาแสดง เจ้าหน้าที่จึง
ควบคุมตัวเจ้าของและผู้ดูแลโรงงานส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.กลางดงอ.
ปากช่อง จ.นครราชสีมา
อย่างไรก็ดี มีโรงงานบางแห่ง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจโรงงานใกล้
เคียงก็พากันปิดโรงงานหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงพบเพียงซากไก่ตาย
จำนวนอีกนับ 10 ตัน โดยในขณะเข้าทำการตรวจสอบนั้น บรรดาเจ้า
หน้าที่ต้องนำผ้ามาปิดจมูกกันทุกคนเพราะทนกลิ่นเน่าเหม็นไม่ไหว
นายสัตวแพทย์ประเวศ สุขแสงพนมรุ้ง เปิดเผยว่าซากไก่ตายจำนวน
มหาศาลนี้เกิดจากความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของเจ้า หน้าที่ฟาร์มบาง
แห่ง ซึ่งที่จริงแล้ว เมื่อไก่ตายจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุแล้วนำซากไป
เผาทำลายหรือฝังกลบเพื่อ ป้องกันโรคระบาด แต่กลับนำมาลับลอบขาย
ให้กับโรงงานชำแหละในราคาถูก เมื่อผู้ประกอบการที่เห็นแก่ได้รับมา
ชำแหละแล้ว ก็ส่งไปขายตามร้านอาหาร โดยไม่คำนึงถึงผู้ที่จะบริโภค
ว่าจะเกิดอันตรายหรือไม่
โดยคดีนี้ ได้มอบให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอปากช่อง ดำเนินการจับกุม
ผู้กระทำผิดตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 มาตรา17 ห้ามเคลื่อน
ย้ายสัตว์หรือซากสัตว์เข้าในเขตโรคระบาดสัตว์มาตรา 21การค้าซาก
สัตว์ และตามมาตรา19 ตามที่เข้าตรวจสอบทุกรายไม่มีใบอนุญาตจึง
ต้องจับกุมดำเนินคดี
ส่วนซากสัตว์จำนวนมหาศาลเหล่านี้ จะถูกนำไปทำลายด้วยวีธีฝังกลบ
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคสู่คนต่อไป
ที่มา http://www.thairath.co.th