เนื่องในโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่อง Scream 4 จะได้กลับมาพบกับแฟนๆผู้โหยหาความสยองขวัญแบบคุ้นเคยในสัปดาห์นี้ จากผู้กำกับมือฉมังคนเดิมจากภาค 1-3 เวส คราเวน เรามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพื่อมาเสนอแนะให้แก่ทุกท่าน เพื่อให้มีชีวิตอยู่ถึงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าโรง
1. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
ถ้ารู้ตัวว่าต้องดื่มน้ำบ่อยๆในเวลากลางคืน เตรียมน้ำดื่มมาไว้ใกล้ตัว ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนขี้ลืม พกสิ่งของเหล่านั้นติดตัวไว้เสมอ ได้ยินเสียงแปลกๆในห้องรับแขก คิดเสียว่าเป็นเสียงจิ้งจกตุ๊กแก ไม่ว่าจะทำอะไร อย่าเที่ยวประกาศให้ใครๆรู้ และที่สำคัญที่สุดอย่าพูดคำว่า "เดี๋ยวฉันจะกลับมา" เพราะไม่ว่ารายไหนรายนั้นจะไม่มีวันกลับมา และพบว่ากลายเป็นร่างอันไร้วิญญาณอยู่ในโรงจอดรถก็เป็นได้ เพราะทั้งหมดทั้งมวล เป็นจุดเริ่มต้นไปสู่จุดจบซึ่งลงท้ายด้วยความตายทั้งสิ้น
2.ความตายอยู่รอบตัวคุณ
ขณะที่คุณกำลังเล่นเกมซ่อนหาอยู่กับฆาตกรโรคจิต เรามักจะถามตนเองว่า "มันอยู่ที่ไหน" คำตอบง่ายๆก็คือ "มันอยู่หลังคุณนั่นแหละ" ลองใช้ตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambs (1991) เป็นต้นแบบ อย่างน้อยที่สุด นักสืบคลาริซ สตาร์ลิ่ง (โจดี้ ฟอสเตอร์) ก็เอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด หลังใช้ลางสังหรณ์ของตนเอง เพื่อเล็งปืนไปยังฆาตกรต่อเนื่อง ท่ามกลางห้องอันปิดทึบ
3.อย่าดูหนังสยองขวัญเมื่ออยู่ตัวคนเดียว
ถ้ารู้สึกว่าค่ำคืนแห่งการดูหนังฆาตกรรมดูไม่ชอบมาพากล รีบเปิดไฟให้สว่าง และมั่นใจว่ามีดทำครัวทุกเล่มเก็บอยู่ในที่ที่เหมาะสม หรือถ้าได้ข่าวว่ามีการหลบหนีของนักโทษหรือคนไข้โรคจิต กระทั่งการประกอบพิธีกรรมลึกลับ หลีกเลี่ยงการดูหนังสยองขวัญโดยเด็ดขาด เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว หรือกระทั่งการนั่งหน้าจอโทรทัศน์เปล่าๆ เพราะนั่นจะทำให้พบจุดจบเช่นเดียวกับตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง Poltergeist และ The Ring
4.ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
หากว่าคุณกำลังหลบหนีจากฆาตกรโรคจิต จงจำไว้ว่ารถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจที่สุด แบตเตอรี่รถซึ่งไม่เคยมีปัญหาก็จะหมดลงไปเฉยๆ จะเป็นมสิ่งที่ส่งสัญญาณว่าเรื่องราวไม่ปกติกำลังจะเกิดขึ้นกับคุณ มันจะทิ้งคุณให้ตกในสภาวะลุ้นระทึก ท่ามกลางเหตุการณ์ที่คุณต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และก่อนที่จะก้าวขึ้นรถ มั่นใจว่าคุณได้เตรียมกุญแจสำรองไว้เสมอ เพราะกุญแจชุดแรกจะหล่นหายไประหว่างการถูกทำร้ายครั้งแรกเสมอ และเลือกช่างซ่อมรถของคุณให้ดี เพราะเขาคนนั้นอาจพร้อมที่จะใช้ขวานจามศีรษะของคุณได้เสมอ
5.รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย
ดูตัวอย่างหนังการ์ตูนเรื่อง Scooby Doo เป็นหลัก หลายคนอาจรำคาญการวิ่งหนีผีวนไปวนมาของตัวการ์ตูน แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็รอดตาย และไม่พบจุดจบเช่นเดียวกับตัวละครทั้ง 7 ในภาพยนตร์เรื่อง The House on Haunted Hill ซึ่งถูกไล่ล่าทีละคนสองคนจนแทบไม่เหลือ
6.อย่าเสียดายบ้าน(ผีสิง) ย้ายออกให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณหรือสมาชิกครอบครัวคนใดคนหนึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่า บ้านที่คุณซื้อมาในราคาถูก มีสิ่งลึกลับอาศัยอยู่ รีบย้ายออกโดยทันที เพราะจากประสบการณ์การชมภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ The Amityville Horror, The Shining และ Paranormal Activity ครอบครัวที่พยายามต่อสู้หรือขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกจากบ้าน มักจะไร้ผล และสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นมักจะฉวยโอกาสนั้น จัดการสมาชิกในครอบครัว และนำไปสู่ชะตากรรมอันน่าเศร้าในตอนท้าย
7.สวมรองเท้าที่สบายที่สุด
คุณเคยได้รับโทรศัพท์ลึกลับ หรือจดหมายที่ถูกเขียนอย่างกำกวมด้วยเลือด หลังจากการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของเพื่อนสนิทหรือไม่ นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณอาจเป็นเหยื่อรายต่อไป จงหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนชุด และสวมรองเท้าที่คิดว่าใส่สบายที่สุด แม้แต่ในโอกาสที่เป็นทางการ เพราะอย่าลืมว่าความตายไม่เลือกเวลาและสถานที่ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้คุณมีลมหายใจที่จะวิ่งหนีฆาตกรโรคจิตได้นานขึ้น
8.หลีกเลี่ยงงานพรอม และงานเลี้ยงโรงเรียน
งานพรอมถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ฆาตกรโรคจิต ปิศาจ หรือแม้กระทั่งราชินีงานพรอมผู้มีพลังจิตพิเศษ ใช้โอกาสสังหารเหยื่อที่เกิดการรวมตัวของวัยรุ่นจำนวนมากผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ฆาตกรสามารถสามรถสังหารเหยื่อทั้งหมดได้ในครั้งเดียว และไม่ว่าจะแต่งตัวหล่อสวยแค่ไหน ก็ต้องลงเอยด้วยความตายด้วยกันทั้งหมด
9.คิดเสมอว่าฆาตกร"ไม่ตายง่ายๆ"
ในช่วงบทสรุปของหนังหลายเรื่อง หากว่ายังโชคดี มักทำให้เหยื่อต่อสู้ยิบตาจนกระทั่งฆาตกรนอนแน่นิ่งไป ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะจบ ทุกคนวางอาวุธและกอดกันกลมด้วยความดีใจ แต่ในภาพยนตร์เรื่อง Zombieland (2009) แสดงภาพที่ต่างออกไป ด้วยการมี"ก๊อกสอง" เพื่อทำให้แน่ใจว่าฆาตกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไม่ได้อยู่ในฐานะสิ่งมีชีวิต แน่นิ่งและสงบลงจริงๆ เพราะมิฉะนั้นแล้วมันอาจจะกลับมาขยุ้มคอคุณเมื่อไหร่ก็ได้
10.สวมเสื้อผ้าอยู่เสมอ
หากว่าคุณกำลังจะมีเซ็กซ์ คุณจะต้องตาย
ในภาพยนตร์สยองขวัญ คู่รักที่หวังว่าจะได้ปลดปล่อยอารมณ์อัยพลุ่งพล่านของตน และปล่อยให้ร่างกายเปล่าเปลือย หรือสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น มักจะอยู่ในสภาพที่ขาดความระมัดระวัง และมักจะตกเป็นเหยื่อในที่สุด ใน"ศุกร์ 13 ฝันหวาน" (Friday the 13th) เหยื่อวัยรุ่นแทบทุกคนมักจะปรากฏอยู่ในจอไม่นานนัก ก่อนที่จะถูกจามด้วยขวานจนลืมไปว่าเคยมีชีวิตอยู่