ทุกวันนี้โลกเรามีแต่ข่าวตึงเครียดฟังแล้วน่ากลุ้มใจ จึงขอนำเอาเรื่องราวเบาสมองเพลิดเพลินน่ารัก ๆ
มาให้แฟนๆอ่าน และอะไรเล่าจะน่ารักยิ่งไปกว่าสัตว์โลกทั้งหลาย โดยเฉพาะการเกื้อกูลอาศัยซึ่งกัน
และกันในรูปแบบที่น่าประหลาดเหลือเชื่อ ซึ่งมีผู้จัดอันดับสุดยอดความอัศจรรย์นี้ไว้ 10 คู่ด้วยกันดัง
ต่อไปนี้ครับ
อันดับ10 สแนปเปอร์กับพยาธิ
จะพาท่านผู้ชมไปเที่ยวห้วงสมุทรแปซิฟิก ในช่วงปี ค.ศ.1980 มีนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่านได้ค้นพบกับความสัมพันธ์พิสดารระหว่างปลาที่เรียกกันว่า
สแนปเปอร์ หรือ ปลางับ กับสัตว์จิ๋ว ๆ จำพวกพยาธิ โดยพยาธิเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในปากเท่านั้น ไม่ได้อาศัยอยู่เฉย ๆ นะครับ ดันเกาะดูดเลือดที่
ลิ้นปลาเป็นอาหารอีกด้วย มิช้ามินานลิ้นปลาก็หมดสภาพและหลุดไป เจ้าพยาธิก็เลยทำหน้าที่แทนลิ้นช่วยปลากลืนอาหาร
ความจริงว่าไปแล้ว ปลามันไม่ได้ต้องการเจ้าพยาธินี้หรอกครับ เป็นการหาประโยชน์ของเจ้าพยาธิฝ่ายเดียว มิหนำซ้ำพอพยาธิตาย เจ้าปลาก็ต้อง
เดดสะมอเร่ไปด้วย มีเพื่อนหยั่งงี้ ไม่มีซะดีกว่า จึงจัดเป็นอันดับโหล่
อันดับ 9 ปลาขมขื่นกับหอยกาบ
ในห้วงน้ำจืดของทวีปยุโรป มีปลาตัวผู้พันธุ์หนึ่งซึ่งมีนามขนานว่า ปลาขมขื่น ทั้งนี้ก็เพราะการสืบพันธุ์ของมันนั้นไม่ค่อยจะสุขสมเท่าไหร่ โดยต้อง
อาศัยหอยกาบมาเป็นผู้ช่วยในการหลอกล่อตัวเมีย เจ้าปลาตัวผู้จะว่ายเริงระบำอยู่รอบๆหอยกาบ ทำให้หอยกาบจะเปิดอ้าออกโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้
เจ้าปลาตัวเมียจะไม่สนใจเจ้าตัวผู้แต่จะเขม้นมองไปที่หอย พอได้จังหวะมันก็จะใช้ท่อวางไข่ที่มีลักษณะยาว ๆ แหย่เข้าไปใต้ตัวหอยแล้วางไข่ไว้
ในนั้น ทันใดเจ้าตัวผู้ก็จะรีบถลันเข้าไปปล่อยเชื้อผสมทันที ไข่ที่ผสมแล้วจะอยู่ภายใต้ตัวหอยเหมือนกับอยู่ในตู้อบพักชั้นดีเพราะน้ำที่ พัดผ่านหอย
กาบอยู่ตลอดเวลานั้นจะป้อนออกซิเจนให้กับการฟักไข่ และหลังจากสองสัปดาห์ผ่านไป ลูกปลานับร้อยก็จะแหวกว่ายออกจากที่พักพิงยามเยาว์
ของมันนี้ โดยที่เจ้าหอยกาบไม่ได้อานิสงค์ใดๆจากงานนี้เลยจึงอยู่ในอันดับรองโหล่
อันดับ 8 ปูเสฉวนกับดอกไม้ทะเล
เรารู้กันดีว่า เจ้าสัตว์น้ำที่เรียกกันว่าปูเสฉวนนั้น จะเข้าไปอาศัยอยู่ในเปลือกหอยเปล่า ๆ ที่มีน้ำหนักเบา เพื่อหลบให้พ้นภัยศัตรูโดยเฉพาะปลาหมึก
ซึ่งชอบเขมือบมันยิ่งนัก แต่กระนั้นเจ้าปูเสฉวนก็ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงเสาะหาพันธมิตรมาช่วยคุ้มครองอีกต่อหนึ่ง นั่นคือดอกไม้ทะเล
ซึ่งหนวดของมันประกอบด้วยเซลล์ที่มีพิษ วิธีการสร้างพันธมิตรของเจ้าปูก็คือ ค่อย ๆ เอาดอกไม้ทะเลที่มีรูปร่างเหมือนพืช แต่แท้จริงเป็นสัตว์มา
บรรจงติดตั้งบนหลังเปลือกหอยที่มันอาศัยจากนั้นเก็บบรรทุกดอกไม้ทะเลติดไป ทุกหนแห่งเพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน ส่วนดอกไม้ทะเลก็ได้อาศัยเศษอาหาร
ที่เจ้าปูกินเหลือไว้ เป็นค่าจ้างการเป็นบอดี้การ์ดเคลื่อนที่
อันดับ 7 ยีราฟกับนกอ็อกซเพ็กเกอร์
คราวนี้ขึ้นมาบนบกยังทุ่งกว้างแห่งแอฟริกาบ้าง แม้ยีราฟจะเป็นสัตว์คอยาวที่มีพลังการเตะรุนแรงแบบว่าดีดกะโหลกสิงโตดังโพละ ได้ แต่มันก็มีศัตรู
ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแสนสาหัสนั่นคือตัวเห็บที่คอยแทะดูดเลือดตามตัว ของมัน เจ้ายีราฟจึงต้องพึงพานกที่เรียกว่า อ็อกซเพ็กเกอร์ ที่มี
ปากแดง นกชนิดนี้กินตัวเห็บเป็นดินเนอร์ ว่ากันว่าอ็อกซเพ็กเกอร์หนึ่งตัวสามารถจิกกินเห็บได้ถึงวันละกว่า 400 ตัว โดยที่เป็นหนี้บุญคุณนกชนิดนี้
เจ้ายีราฟจึงตอบแทนด้วยการอนุญาตให้อ็อกซเพ็กเกอร์สร้างรังอยู่บนหลังของมัน ได้ ซึ่งนอกจากจะไม่คิดค่าเช่าที่แล้ว ยังให้ถอนขนของมันไปทำรัง
ได้อีกต่างหาก
อันดับ 6 ปลาบู่โกบีกับกุ้งดีดขัน
ปลาบู่โกบีอาศัยอยู่ในโพรงก้นทะเล โดยมีกุ้งดีดขันเป็นรูมเมต แต่โพรงที่มันทั้งสองร่วมกันอาศัยนี้จะมีกรวดทรายไหลเข้ามาอยู่เรื่อย ซึ่งถ้าหากปล่อย
ไว้ก็จะเต็มโพรงภายในไม่ถึงชั่วโมง ดังนั้น เจ้ากุ้งดีดขันจึงมีหน้าที่เอาก้ามคีบและดันกรวดทรายให้พ้นไปจากโพรงอยู่ ตลอดเวลา ทั้งนี้โดยมีปลาบู่
คอยเฝ้าพิทักษ์อยู่ใกล้ ๆ และเจ้ากุ้งจะยื่นหนวดของมันไปแตะหลังปลาไว้ ยามใดที่ศัตรูกรายใกล้เข้ามา ปลาบู่จะพลิกตัวส่งสัญญาณให้คู่หูของมัน
รู้ตัว แล้วทั้งคู่ก็จะแวบหายเข้าไปในโพรงโดยพลัน มีบางครั้งที่เจ้ากุ้งออกไปหากินไกลโพรงจนหลงทาง เจ้าบู่ก็จะออกไปตามกลับมา ไม่เคยทอด
ทิ้งแยกมุ้งปลีกวิเวกแต่อย่างใด
อันดับ 5 นกมธุรสมัคคุเทศก์ กับตัวตุ่น
นกมธุรสมัคคุเทศก์ หรือ ฮันนี่ย์ไก๊ด์ ชอบกินรวงผึ้งเป็นนักหนา แต่มันไม่สามารถฟันฝ่าทะลุฝูงผึ้งเข้าไปได้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากสัตว์ที่ชอบ
กินน้ำผึ้งเหมือนกันนั่นคือ ตัวตุ่นกินผึ้งโดยเมื่อเจ้านกไปพบรังผึ้งที่ไหน มันก็จะบินมาตามเจ้าตุ่น “เจอรังผึ้งแล้วโว้ย ไปเร้ว!” เจ้าตุ่นก็จะตามเจ้านกไป
และใช้กรงเล็บอันแข็งแรงของมันฉีกทลายรังผึ้งมาเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย ฝ่ายเจ้านกนำทางก็จะจิกกินน้ำหวานและตัวอ่อนผึ้งไปพร้อม ๆ กับเจ้าตุ่น
แต่ตัวมันเล็กกว่าจึงไม่ตกเป็นเป้าโจมตี มีบางครั้งเหมือนกันที่เจ้านกนำทางพบรังผึ้งแล้วตามหาเจ้าตุ่นไม่เจอ มันจึงจำเป็นต้องหาพันธมิตรใหม่ นั่นคือ
มนุษย์!ชนเคนยารู้จักเจ้านกนี้ดีและจะตามมันไป ทั้งนี้ หลังจากที่พวกเขาจัดการกับรังผึ้งได้แล้ว ก็จะแบ่งรังผึ้งส่วนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนให้กับนก
ไม่งั้นคราวหน้าไม่มาตามนะ จะบอกให้
อันดับ 4 หมาป่าโคโยทและตุ่น
ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ของอเมริกานั้นมีสัตว์จำพวก หนูและแย้ขุดรูอาศัยอยู่เป็นอันมากขณะเดียวกันเจ้าหมาป่าโคโยทและตุ่นก็ชอบ เขมือบหนูและแย้
หากทว่ามันไม่อาจไล่ตะครุบหนูและแย้ที่ปราดเปรียวได้ทัน มันจึงต้องจับมือทำสัญญากันโดยเจ้าตุ่นที่เชื่องช้าแต่แข็งแรงจะเป็นผู้ขุด รูหนูและแย้
พอเจ้าหนูเผ่นหนีขึ้นจากรู เจ้าหมาป่าจะต้องไม่หันกลับมาขย้ำเจ้าตุ่นเป็นอาหารโดยเด็ดขาด แม้ว่าจะหาหนูไม่เจอและหิวแค่ไหนก็ตาม มิฉะนั้นจะ
เลิกคบไปตลอดชาติ
อันดับ 3 ทาแรนทูลากับกบ
ว้าย ! ทาแรนทูลา แมงมุมแม่ม่ายดำพิษร้ายกาจที่สุด ยังมีใครอยากเป็นเพื่อนคู่หูอีกด้วยเรอะ สัตว์ทุกตัวเป็นอาหารของมันได้ทั้งนั้นตั้งแต่นก หนู
หรือแม้กระทั่งงูพิษ เจ้าทาแรนทูลาจะใช้เขี้ยวยาวครึ่งนิ้วของมันงับแล้วปล่อยพิษที่ทำให้เหยื่อ ของมันเป็นง่อยไปในทันที พิษของมันยังมีเอนไซม์
ที่ย่อยสลายอวัยวะภายในของงูให้กลายเป็นของเหลว เพื่อว่ามันจะได้ดูดกินอย่างอร่อยนอกจากนี้ กบก็ยังเป็นอาหารโปรดอย่างหนึ่งของทาแรนทูลา
แล้วไฉนในโพรงของเจ้าแมงมุมพิษฉกาจตัวนี้จึงมีกบแก่ ๆ ตัวหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับรังไข่ของเจ้าแมงมุมเล่า!?
อ๋อ-เจ้ากบแก่ตัวนี้ทำหน้าที่พ่อบ้านให้เจ้าแมงมุมครับ มันจะคอยเฝ้าพิทักษ์ไข่แมงมุมไว้ไม่ว่ามดหรือแมลงใดที่บุกรุกเข้ามาจะโดย เจ้ากบแก่จับกิน
หมด ส่วนเจ้ากบเองก็สามารถอาศัยอยู่ในโพรงแมงมุมได้อย่างไร้ศัตรู ก็ใครเล่าจะหาญบุกรังทาแรนทูลา
อันดับ 2 มดกับหนอน
มดตัวน้อย ๆ นั้นใคร ๆ ก็รู้ว่ามันมีพละกำลังสามารถลากศัตรูที่หนักกว่ามันถึง 20 เท่า เอาไปเก็บเป็นเสบียงไว้ในรังได้อย่างสบาย ๆ ประดาแมลงทั้ง
หลายล้วนหวั่นเกรงมันนัก อ้าว-แล้วหนอนตัวนั้นคลานกระดืบๆอยู่กับกิ่งไม้ใกล้ ๆรังมดได้ไง! ไม่รู้จักมัจจุราชหรือไง?
คำตอบคือ มีหนอนพิเศษชนิดหนึ่งซึ่งสามารถปล่อยสารเคมีไร้กลิ่นที่เป็นสารเสน่ห์หรือฟี โรโมนพอเจ้ามดสูดสารนั้นเข้าไปก็จะเกิดอาการงงงวยพิศ
วาศซาบซ่านพากันมาเฝ้าปกป้องพิทักษ์เจ้าหนอน ส่วนเจ้าหนอนก็จะบีบน้ำหวานออกมาจากต่อมที่ปลายก้นของมันให้เจ้ามดลิ้มรส เล่นเอาเจ้ามด
หลงใหลจนไม่เป็นอันไปทำหน้าที่ของมัน ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังช่วยกันสร้างรังให้เจ้าหนอนได้อยู่อาศัยอีกด้วยแน่ะ มันจะเอาใบไม้มาประสานด้วย
ยางเหนียวจากตัวอ่อนของมันจนเป็นรัง แล้วเชื้อเชิญเจ้าหนอนให้เข้าไปนิทราอย่างสุขารมณ์ อะไรจะปานนั้น
อันดับ 1 ฉลามกรีนแลนด์กับพยาธิ
กลับไปสู่ท้องมหาสมุทรแถบซีกโลกเหนืออีกครั้ง มีสัตว์ไม่กี่ชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ท่ามกลางความหนาวจัดแห่งนี้ได้ ฉลามกรีนแลนด์จัดเป็น
อย่างหนึ่ง มันยังชีวิตอยู่ด้วยการกินซากเศษอาหารตามพื้นสมุทรลึกจากผิวน้ำถึงเจ็ดพัน ฟุต แต่บางทีก็พบมันกินของสดๆอย่างปลาหมึกหรือแซลมอน
เหมือนกัน แต่ที่น่าประหลาดคือ ฉลามกรีนแลนด์เหล่านี้ 80 เปอร์เซ็นต์ตาบอด!
สาเหตุมาจากพยาธิที่เกาะติดอยู่กับลูกตาของเจ้าปลา พยาธินี้จะแทะกินกระจกตาของปลาฉลาม และทำให้เกิดเป็นแผลฉกรรจ์จนฉลามตาบอดใน
ที่สุด แต่เจ้าฉลามก็มิได้อาทรร้อนใจแต่อย่างใด เนื่องด้วยมันยังมีจมูกที่ไวสัมผัสแบบว่าซุปเปอร์เซนซิทิฟสามารถใช้ในการล่า เหยื่อได้ดียิ่งกว่าใช้
สายตาเสียอีก นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าเจ้าพยาธิมีคุณต่อฉลาม โดยการที่มันเกาะตุ้งติ้งอยู่ที่ตาฉลามทำให้ปลาบางตัวเห็นมันเป็นเหยื่อและ โฉบเฉี่ยว
เข้ามาใกล้ เลยหลุดเข้าปากไอ้จอว์ไป ความสัมพันธ์ขนาดทำให้ตาบอด (เทียบเท่ากับความรัก) เค้าจึงจัดให้ได้รางวัลที่หนึ่งไปครอบครอง
ที่มา http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=110942