นายโรเบิรต์ ซิกเลอร์ ผู้อำนวยการสถาบันข้าว ระหว่างประเทศ กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะที่
พื้นที่ปลูกข้าว ลดลงเรื่อย ๆ เพราะการขยายตัวของเขตเมือง และการเปลี่ยน
แปลง สถาพภูมิอากาศโลก แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มผลผลิตข้าวให้ได้ 15%
ต่อปี เพื่อสนองตอบความต้องการในการบริโภคที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มฉวงปริมาณการผลิตใน
อนาคต ที่ ไม่ ไกลนัก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นภายใน 10 ปี ข้างหน้า เว้นเสียแตว่าจะทำ
อะไรบางอย่างเพื่อพลิกฟื้น แนวโน้มของอัตราการผลิตที่ชะลอตัว และการผลิตที่
ให้ประสิทธิผลต่ำจากการบริหารทรัพยาการแบบไม่ยั่งยืน และแม้ว่าหลายชาติได้
ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์ผลผลิตในปีหน้า รวมถึง ปากีสถานที่เผชิญภาวะน้ำ
ท่วม และจีนประสบภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง ปริมาณสำรองข้าวอาจไม่ถึงขั้นวิกฤติ
แต่เป็นไปได้ว่า จะตึงตัว
ทั้งนี้ การผลิตข้าวเพิ่มขึ้น อย่าง ต่อเนื่อง นับจาก ทศวรรษหลังปี 2503 จนถึง
ทศวรรษ 2533 ก่อนเริ่มลดลงในอัตรา 1% ต่อปี ส่วนไทยกับเวียดนาม ซึ่ง ทั้งสอง
ประเทศเป็นผู้ส่งออก ข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ก็กำลังสูญเสียพื่นที่เพาะปลูกจาก
การขยายตัวของเมืองและปํญหาดินเค็ม ในพื้นที่ปากแม่น้ำ อันเนื่องมาจากน้ำ
ทะเลหนุน
บทความสิ่งแวดล้อมจาก วารสาร ฟ้าสวยน้ำใส โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม