ก็แค่ขนาดเพิ่งปล่อยคลิปวิดีโอ "ครัวกากๆ" ในนามบริษัท "หางแดง" ทางเว็บไซต์ยอดฮิต "ยูทูบ" ไป ได้เพียง 2 เดือนยอดวิวปาเข้าไปเกือบล้าน ดังจนมีแฟนคลับเพียบ ถึงขั้นพวกเขาจะทำเสื้อออกขายตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ในเร็ววันนี้ด้วย
เหตุความดังมันเริ่มมาจาก "ความรักสนุก" ของ 3 เพื่อนซี้สมัยมหาวิทยาลัยอย่าง"คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง, ศาสวัต บุญศรี และภานุวัฒน์ อยู่ชัง" ที่คนแรกทำกับข้าวเก่ง อีกคนชอบนักเรื่องชิม ส่วนคนสุดท้ายถนัดเรื่องการถ่ายทำและตัดต่อ
พอมาเจอกันการเข้าครัวตามปกติเลยไม่ปกติ เพราะถูกถ่ายเก็บเป็นคลิปวิดีโอ ก่อนตัดต่อส่งไปให้เพื่อนๆ ได้ฮากัน ภายใต้ชื่อ "ครัวกากๆ"
"มัน มีความหมายหลายนัย" เชฟหมี เอ้ย! คมกฤชในชุดลำลองต่างจากภาพติดตาที่เป็นชุดเสื้อกล้าม แว่นตาและผ้ากันเปื้อน บอกเล่าที่มาของชื่อรายการ ก่อนไล่ให้ฟังเป็นข้อๆ
เริ่ม ต้นเหตุผลแรก ไม่พ้นการเป็นคำสบถติดปากวัยรุ่น ที่อะไรนิด อะไรหน่อยก็กาก กาก กาก แถมยังตรงคอนเซ็ปท์รายการเป๊ะ! ก็ไอ้ของเหลือๆ ในตู้เย็นที่มาใช้เป็นวัตถุดิบจะเรียกว่าอะไร? ถ้าไม่ใช่ "กาก" ส่วนสุดท้าย "กากๆ" กับเสียงหัวเราะ "ก๊ากๆ" เห็นมะ ฟังแล้วคล้ายจนแทบแยกกันไม่ออก
และเมื่อคลิปดีบวกกับคอนเซ็ปท์โดน พออัพโหลดลงยูทูบ ความดังจึงบังเกิดในชั่วข้ามคืน
"พวกเราก็งงอยู่ว่าทำไมมันถึงดังได้" เชฟคนเดิมเล่าให้ฟังพลางเกาหัว
แม้เจ้าของคลิปจะมึนๆ แต่เขาก็ยังได้คนใจดีช่วยวิเคราะห์ให้เสร็จสรรพว่า "มันแหวกขนบรายการที่เกี่ยวกับการทำอาหาร"
พูด ง่ายๆ คือภาพมันต่างจากรายการสอนทำอาหารทั่วไป ไม่หรู ไม่สุภาพ แต่ทุกอย่างล้วนจริงใจ และแม้ในคลิปจะเฮฮา แต่อาหารก็ไม่กะโหลกกะลา เพราะมัน "กินได้ทุกครั้ง อร่อยทุกครั้ง" (แบบเกินความคาดหมายเสียด้วย ฮ่า)
ที่เป็นแบบนี้เพราะเชฟหมี ทำอาหารกินเองตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แถมยังมีคุณแม่เป็นเจ้าของร้านอาหารในจังหวัดระนองซะอีก
ส่วน วิธีการทำอาหารแปลกๆ อย่างบดถั่วด้วยส้นรองเท้าหรือ ตำน้ำพริกด้วยลูกบิดประตู เชฟหมีว่า ส่วนหนึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกส่วนก็เป็นมุขที่เขาจงใจใส่ลงไปขำๆ
"น้ำพริก ถ้าเอารองเท้าก็ดูน่าเกลียด แต่ถั่วทำได้เพราะถุงหนา เราก็มีมุขบ้างอะไรบ้าง ตอนแรกจะให้ช้างเอาใส่ถุงหลายๆ ชั้นแล้วก็เคี้ยวแล้วเทออกมา แต่มันดูเสื่อมไปหน่อย" ดีแล้วที่ไม่ได้ทำ (ฮา)
เขาก็ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทำอาหารเป็นอาชีพ แต่เผอิญอยู่กับครัว อยู่กับแม่ และชอบดูรายการอาหารเลยรู้เรื่องต่างๆ
"เหมือน ที่บอกในรายการ รู้จักการใช้มีด รู้จักความร้อน รู้จักเรื่องความเค็ม (เครื่องปรุง) และรู้คุณสมบัติของวัตถุดิบ แล้วจะทำอาหารอะไรก็ได้"
นี่เป็นที่มาของรายการอาหารพิลึกพิลั่นอย่าง "ขนมเข่งช็อกบอลเคลือบถั่วและมาม่า", "น้ำพริกสตรอเบอรี่", "หมูทอดทงคัตสึที่ใช้มาม่าแทนเกล็ดขนมปัง" ฯลฯ คือเข้าใจว่าแต่ละอย่างรสชาติยังไง น้ำพริกไทยนอกจากมะนาวก็ใช้ผลไม้หลายชนิดทำ มีความเข้าใจก็ทำได้ ไม่ใช่ที่บ้านมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีปลากระป๋องก็ทำบะหมี่สำเร็จรูปใส่ปลา กระป๋องแค่นั้น
เหมือนจะกากแต่แอบ "ลึกซึ้ง" นะเนี่ย
ใคร จะคาดว่าเห็นกากๆ แบบนี้ในยูทูบแต่พวกเขามีหน้าที่การงานดีๆ เป็นพ่อพิมพ์ของชาติอย่างภานุวัฒน์เป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาของบริษัททศกัณ ฐ์ฟิล์ม ฟากคมกฤชและศาสวัตเป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยศิลปากร ต่างที่ศาสวัตสอนภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่วนเขาอยู่ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์
ฟังแล้วชักอึ้ง เพราะสองคนหลังที่ออกหน้ากล้องตลกโปกฮากลับเป็นพ่อพิมพ์ของชาติซะงั้น
ที่สำคัญเขากำลังจะเปิดหลักสูตรที่เหมือนเอาครัวกากๆ มาเป็นเรื่องวิชาการอย่าง"ปรัชญากับอาหาร" ซึ่ง เป็นเรื่องของอาหารที่มีนัยยะทางปรัชญา เช่น อาหารคืออะไร อาหารในแง่จริยศาสตร์ อย่างการกินเนื้อสัตว์หรือไม่กิน เรื่องความอร่อย ฯลฯ และหลักสูตรก็อนุมัติแล้ว
"ผมเป็นอาจารย์แล้วไปเล่นบทโจร แต่ผมก็ไม่ได้เป็นโจรจริงๆ มันเป็นอีกบทบาทหนึ่ง" คมกฤชว่า
ถ้า ภาพลักษณ์ที่ออกไปขัดใจใครเขาก็ขอโทษ แต่เขาก็ถือคอนเซ็ปท์ว่าทำให้เพื่อนดูมีหยาบบ้างเหมือนเพื่อนคุยกันจริงๆ ถ้าไม่ชอบก็ขอว่าอย่าดูก็ละกัน
แน่นอนว่าหลังจากดังตอนนี้มีคนติดใจ ชวนครัวกากๆ ไปร่วมงานด้วยหลายเจ้าทั้งโฆษณา อีเวนท์ และรายการทีวี ซึ่งพวกเขาก็คิดหนัก เพราะไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวเอง อยากทำรายการแบบนี้กับเพื่อนๆ มากกว่า ทว่า ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับ "เวลา" เพราะเขาบอกสั้นๆ "ทุกคนมีงานประจำทำ" และทั้งหมดนี้เป็นแค่งานอดิเรก
และมันเริ่มไม่สนุก ทั้งคนดูและคนทำนั่นคือสัญญาณบอกว่าใกล้ได้เวลาหยุดแล้ว
ฟังไปฟังมาชักรู้สึกได้ว่าคนในครัวกากๆ กลับ "ไม่กาก" แฮะ
"ผมมีหลายอารมณ์ ทั้งเศร้า เหงา ครุ่นคิด โรแมนติค" ทว่า "พอเราออกตัวอย่างนั้น คนก็คิดว่าเราต้องแบบนั้นตลอดเวลา"
"จะ โมโหทุกครั้งที่คนพูดเรื่องตัวตน เราเป็นตัวเองมาสิบปี ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นยังไง แกเป็นใครวะมารู้จักตัวตนเราด้วย แต่โอเคเราเป็นคนที่คนรู้จัก แต่ต้องเข้าใจเงื่อนไขอยู่ในครัวกากๆ ก็เงื่อนไขหนึ่ง แต่พอไปอยู่ในอีกที่ก็แบบหนึ่ง เพราะมันมีเงื่อนไขต่างกัน"
ทำให้สนุกก็พอ