เรือ “เอ็มวี อัปสรา” เป็นบูติคโฮเต็ลลอยน้ำสุดหรูที่จอดเทียบท่าอยู่ริมฝั่ง
ทะเลสาบเว็มบานาด* ในเขตโรงแรมเดอะปาร์ค ตัวเรือมีความยาว 28 เมตร ภายใน
ประกอบด้วย ห้องพักสุดหรู จำนวน 8 ห้อง พร้อมห้องพักลูกเรือ, ห้องครัว, ห้องอาหาร,
บาร์, มุมอาบแดด ฯลฯ ทุกห้องล้วนได้รับการออกแบบและตกแต่งโดยเน้นความหรูหรา
สะดวกสบายทั้งในสไตล์โมเดิร์นและคอนเทมโพรารี ภายในห้องพักบนเรือลำนี้ ประกอบ
ด้วย เตียงขนาดใหญ่, โต๊ะทำงาน, ตู้เซฟ, ไฮสปีดอินเตอร์เน็ท, ห้องน้ำ, ทีวี, เครื่องเล่นดีวีดี
ทั้งยังมีแผ่นหนังและเพลง ตลอดจนหนังสือ ให้เลือกมากมาย
* ทะเลสาบเว็มบานาด มีความยาวประมาณ 96.5 ก.ม. บริเวณที่กว้างที่สุดมีขนาด 14 ก.ม.
และลึกที่สุดประมาณ 12 ม. ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบ “ยาวที่สุดในอินเดีย” และ “ใหญ่ที่สุดใน
รัฐเกรละ”
บนเรือลำดังกล่าว ยังมีอาหารทะเลรสจัดจ้านสไตล์ฟิวชั่นไว้คอยบริการ พร้อมผลไม้และ
ผักพื้นเมือง ทั้งยังมีบริการนวด ตลอดจนแพทย์อายุรเวท คอยให้คำแนะนำและปรึกษา
ด้านสุขภาพตลอดระยะเวลาที่เรือล่องไปตามลำน้ำเป็นระยะเวลา 2-3 คืน ส่วนอัตราค่า
บริการเริ่มต้นที่กว่า 3.6 หมื่นบาท (สำหรับโปรแกรมล่องลำน้ำเป็นเวลา 2 คืน) รวมค่า
อาหาร 3 มื้อ, เครื่องดื่ม, บริการนำส่งสนามบิน, ภาษี ฯลฯ
คิง แปซิฟิก ลอดจ์ (King Pacific Lodge)
ถึงแม้จะมีอัตราค่าเข้าพักค่อนข้างแพง แต่ที่พักลอยน้ำสุดหรู “คิง แปซิฟิก ลอดจ์” ซึ่งได้
ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และได้รับรางวัล “รีดเดอร์ส’ ชอยส์ “จาก
“คอนเดนาสท์ ทราเวเลอร์” ในฐานะ “รีสอร์ทดีที่สุดในแคนานาดา” ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน
ก็มอบสุดยอดประสบการณ์ในการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติให้กับแขกผู้มาเยือน
เนื่องจากโรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่ท่ามกลางป่าดิบชื้นที่ยังบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ในเขต
“เกรท แบร์ เรนฟอเรสท์” ทั้งยังอยู่ริมชายฝั่งของเกาะ “ปริ๊นเซส รอยัล” ซึ่งนับเป็นดิน
แดนอันไกลโพ้น (ที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่และมีสัตว์ป่าชุกชุม) ทางตอนเหนือของรัฐบริติช
โคลัมเบีย การเดินทางไปเยือนโรงแรมดังกล่าวจึงต้องใช้เครื่องบินน้ำเป็นพาหนะเท่านั้น
ภายในที่พักลอยน้ำของโรงแรมแห่งนี้ มีห้องพักสุดหรูทั้งหมด 17 ห้อง ซึ่งก็มีให้เลือกทั้ง
แบบที่ให้มุมมองของท้องทะเล และแบบที่มองเห็นป่าดิบชื้น, น้ำตก ตลอดจนสัตว์ป่าและ
นกนานาชนิด โดยแต่ละห้องล้วนมีเตียงขนาดใหญ่ และมีอ่างอาบน้ำติดหน้าต่างกระจก
นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมีบริการนวดและสปา, อ่างจากุซซี่, สระว่ายน้ำ พร้อมทั้งอาหาร
ออร์แกนิค อาหารทะเลสดๆ และไวน์คุณภาพเยี่ยมไว้คอยบริการแขกผู้มาเยือนอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ บริเวณโดยรอบโรงแรมยังเต็มไปด้วยสัตว์ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลา
วาฬเพชรฆาต, วาฬหลังค่อม, หมีดำ, แมวน้ำ, สิงโตทะเล, นากทะเล และนกอินทรีย์ เป็น
ต้น ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจขณะเข้าพักก็มีให้เลือกทำหลายอย่าง ทั้งการเดินป่า, พายเรือ
คายัคในทะเล, ล่องเรือชมปลาวาฬ, ดูนก, ตกปลา (มีบริการนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตกปลา
ยังสถานที่อื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง), ปีนเขา (ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงตามจุดต่างๆ ซึ่งทาง
โรงแรมจะจัดข้าวกล่องมื้อกลางวันไว้ให้) และ ทัวร์วัฒนธรรม (ตามรอยบรรพบุรุษของ
ชาวบริติชโคลัมเบีย) เป็นต้น
สำหรับอัตราค่าเข้าพักเริ่มต้นที่ประมาณ 1.5 แสนบาทต่อคนต่อ 3 คืน ราคาดังกล่าวรวม
ค่า อาหาร, เครื่องดื่ม, กิจกรรมต่างๆ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากสนามบิน
แวนคูเวอร์ไปยังโรงแรม
เรือนแพ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts)
เรือนแพ “ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์” หนึ่งใน Unseen Paradise Thailand ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.
2519 โดยแพดังกล่าวทอดตัวเป็นแนวยาวอยู่บนลำน้ำแควท่ามกลางธรรมชาติที่อุดม
สมบูรณ์ ตัวอาคารออกแบบโดยชาวฝรั่งเศส ซึ่งเลือกใช้ไม้ไผ่คุณภาพเยี่ยมเป็นวัสดุหลัก
ในการตกแต่งผนัง ภายในมีห้องพักทั้งหมด 110 ห้อง แต่ละห้องมีชานด้านหน้า พร้อม
เปลญวน และเตียงอาบแดด
เนื่องจากที่นี่มีแนวคิดในการส่งเสริมและรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงมีการ
สร้างถังเก็บกักและกำจัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ ทั้งยังสร้างเรือนแพโดยใช้ไม้ที่
ตายแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ ภายในห้องพักยังได้รับไอเย็นจากผิวน้ำตลอดเวลา ทำให้ผู้
เข้าพักรู้สึกเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ แถมที่นี่ยังใช้ตะเกียงน้ำมันเเทน
ไฟฟ้า จึงให้บรรยากาศสุดแสนโรเเมนติกในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ เรือนแพ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ ยังเน้นส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรม ตลอดจน
วิถีชีวิตของชุมชนชาวมอญดั้งเดิม ด้วยการจ้างและสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ ทั้งยังมี
เรือนแพโรงระบำมอญ ที่จะแสดงระบำมอญให้แขกผู้มาเยือนได้ชมทุกวันหลังอาหารเย็น
(มีเรือนแพห้องอาหารแยกออกจากแพที่พัก)
สำหรับกิจกรรมน่าสนใจ ที่ทางเรือนแพริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ เตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เช่น นั่งช้าง, สำรวจถ้ำ, เที่ยวน้ำตก, ดูนก, ตกปลา ฯลฯ ตลอดจนกิจกรรมทางน้ำบนแม่น้ำแคว และทัวร์แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์/วัฒนธรรม เป็นต้น
สำหรับอัตราค่าเข้าพักเริ่มต้นที่ 1,750 ต่อคน/คืน (ราคาดังกล่าวรวมอาหารเช้าและเย็น)
ซอล์ท แอนด์ ซิลล์ คลาเดสโชลเมน (Salt & Sill Klädesholmen)
เดิมที “ซอล์ท แอนด์ ซิลล์” เป็นภัตตาคารอาหารทะเลอันเลื่องชื่อที่เริ่มเปิดบริการเมื่อปี ค.
ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ต่อมาจึงขยับขยายจนกลายเป็นโรงแรมลอยน้ำแห่งแรกของประเทศ
สวีเดน ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่งตะวันตกของเกาะ “คลาเดสโชลเมน” ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ
ที่มีปลาเฮอร์ริ่งชุกชุมและเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง (เนื่องจากเป็นเกาะขนาดเล็ก
มาก จึงไม่มีพื้นที่เหลือให้สร้างโรงแรม เจ้าของจึงต้องสร้างเป็นโรงแรมลอยน้ำแทน โดย
ทำการก่อสร้างที่เกาะอื่นซึ่งอยู่ใกล้เคียง แล้วใช้เรือลากมาจอด ณ ที่ตั้งในปัจจุบัน)
โรงแรมดังกล่าวประกอบด้วยอาคารลอยน้ำ 2 ชั้นจำนวน 6 อาคาร ภายในมีห้องพักทั้ง
หมด 23 ห้อง (46 เตียง) พร้อมห้องประชุม 5 ห้อง ห้องพักทุกห้องตกแต่งในสไตล์ “โม
เดิร์น สแกนดิเนเวียน” แต่ละห้องมีทางเข้าส่วนตัวและเชื่อมต่อกับมุมนั่งเล่นบริเวณด้าน
นอก ทั้งยังให้มุมมองที่สวยงามของหมู่เกาะที่อยู่ใกล้เคียง
นอกจากที่พักลอยน้ำริมชายฝั่งแล้ว โรงแรม “ซอล์ท แอนด์ ซิลล์” (แปลว่า เกลือและปลา
เฮอร์ริ่ง) ยังมีอาคารซาวน่าลอยน้ำ 2 ชั้น ที่ผู้ใช้บริการสามารถอบซาวน่า พลางล่องทะเล
ชมวิวด้วยความเร็วสูงสุดถึง 15 นอต (เกือบ 28 ก.ม./ช.ม.)
สำหรับอัตราค่าเข้าพักภายในโรงแรมแห่งนี้ เริ่มต้นที่ประมาณ 4 พันบาท ต่อคน/คืน (ห้อง
สวีท คืนละกว่า 1.4 หมื่นบาท)