ครีมกำจัดจิ้งจก อาจถึงตาย !

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือนอย่าหลงเชื่อ “ครีมกำจัดจิ้งจก” เร่ขายตามหมู่บ้าน หลังตรวจสอบพบสารเคมีอันตราย มีพิษร้ายแรง หากถูกตาจะทำให้พร่ามัวและหากกินอาจถึงตายได้  ...

อธิบดีกรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องปลวก มด และแมลงสาบที่พบในบ้านเรือน ที่พักอาศัย นอกจากจะก่อให้เกิดความรำคาญแล้ว ยังสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินอีกด้วย สำหรับการแก้ไขหรือป้องกันนั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะซื้อผลิตภัณฑ์กำจัด ปลวกมาใช้เอง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกใช้ หลายรูปแบบ

เช่น ชนิดเป็นผงโรย สเปรย์ เหยื่อ เป็นต้น สารเคมีที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก คือ กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต กลุ่มไพรีทรอยด์ กลุ่มคาร์บอเนต และ กลุ่มฟีนิลไพราโซล สำหรับผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก มด และ แมลงส่วนใหญ่เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ระบุให้ต้องขออนุญาตมีไว้ในครอบครอง

เพื่อ เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกและ แมลง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้ตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด รวม 32 ตัวอย่าง พบว่า ได้มาตรฐาน 25 ตัวอย่าง (ร้อยละ78) และ ไม่ได้มาตรฐาน 7 ตัวอย่าง (ร้อยละ 22) โดยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเนื่องจาก มีปริมาณสารสำคัญไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดเกณฑ์ ค่าคลาดเคลื่อนจากปริมาณที่กำหนดไว้ของสารสำคัญในวัตถุอันตรายที่สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยามีหน้าที่รับผิดชอบ พ.ศ. 2538 และพบว่าสารออกฤทธิ์ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ร้อยละ 83.3 เป็นสารในกลุ่มไพรีทรอยด์

นอกจากนี้ ยังได้เก็บตัวอย่างครีมกำจัดจิ้งจก แมลงสาบ และแมงมุมจากรถเร่ ที่ตระเวนเร่ขายตามหมู่บ้าน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีลักษณะเป็นครีมข้น สีเขียว มีกลิ่นหอมเล็กน้อย บรรจุอยู่ในกระป๋องพลาสติก ติดฉลากแจ้งชื่อผลิตภัณฑ์ วิธีการใช้ และราคา แต่ไม่ระบุชื่อที่อยู่ผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตและเลขทะเบียนขออนุญาต เมื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พบสารเคมีกำจัดแมลงประเภทคาร์บาเมต (Carbamate) ชนิดเมทโธมิล (Methomyl) จัดเป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษร้ายแรง หากได้รับสารชนิดนี้โดยการสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทาง เดินหายใจ วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย หายใจติดขัด ถ้าสัมผัสทางผิวหนังจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง การสัมผัสถูกตาอาจจะทำให้ตาพร่ามัว และหากรับประทาน อาจทำให้เสียชีวิตได้

13 พ.ย. 52 เวลา 04:35 4,615 8 118
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...