3 สาวโชว์อึ๋มสีลมใส่โม่งมิดชิดมอบตัวแล้ว อายุแค่13-16 เผยทำเพราะอารมณ์พาไป
ตำรวจบุกถึงบ้านพักย่านอ้อมน้อย เมืองสมุทรสาครเชิญ “3 สาววัยโจ๋” อายุ 13-14 และ 16 ปี พร้อมผู้ปกครองไปเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท ข้อหาโชว์อนาจารในที่สาธารณะ หลังเต้นโชว์เปลือยอกกลางงานสงกรานต์ถนนสีลม อ้างทำไปเพราะความคึกคะนอง ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตจนตกเป็นจำเลยของสังคม ด้านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผย ยังไม่เข้าข่ายป่วยทางจิต เป็นพฤติกรรมชอบโชว์เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง โดยมีแอลกอฮอล์และเสียงเชียร์เป็นแรงกระตุ้น คล้ายพวกผู้ชายที่ชอบโชว์อวัยวะเพศ ส่วนเทศกาลสงกรานต์หลายพื้นที่ยังสนุกกันต่อ ทั้งงานวันไหลนาเกลือ-พัทยา ที่เกาะสีชังมีประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ
กรณี “3 สาวนิรนามเต้นเปลือยอก” กลางงานฉลองสงกรานต์ที่สีลม เมื่อคืนของวันที่ 15 เม.ย. บริเวณกลางสี่แยกถนนสีลมตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ยังคงเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ของสังคมไทย ที่เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจท้องที่ คือ สน.ยานนาวา และหน่วยงานด้านวัฒนธรรมที่ออกมากระวีกระวาดประกาศจะตามเอา เรื่องจนถึงที่สุด รวมทั้งเร่งวางมาตรการล้อมคอกในการจัดงานฉลองสงกรานต์สีลมใน ปี 2555 ด้วย
ล่าสุดญาติของ “3 สาวโชว์เต้า” ประสานจะเข้ามอบตัวกับทางตำรวจแล้ว โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เม.ย. พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก. สน.ยานนาวาเผยว่า หลังจากที่ผู้เกี่ยวข้องแจ้งความแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 เม.ย. มีบุคคลที่รู้จักกับหญิงสาวทั้ง 3 คน ได้โทรศัพท์เข้ามาที่โรงพัก อ้างว่าจะพาตัวหญิงสาวทั้ง 3 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก สำหรับการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 388 ประมวลกฎหมายอาญา ข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
พ.ต.ท.บุญชู รัตนกิจนากร รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา เผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้ทำหนังสือประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อสืบหาต้นตอแหล่งเผยแพร่คลิปดังกล่าวมาดำเนินคดี ส่วนการติดตามตัวเจ้าของรถคันที่หญิงสาวขึ้นไปยืน คงเป็นขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนหลังจากพบตัวกลุ่มหญิงสาวแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่า มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าทั้งหมดเดินทางมาเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเปรียบเทียบปรับ ก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากเป็นคดีที่มีความผิดลหุโทษ ส่วนมาตรการลงโทษทางสังคมก็คงต้องไปว่ากันในลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชุดสืบสวนว่า หลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีพลเมืองดีให้ข้อมูลว่าเคยพบเห็นหญิงสาวทั้ง 3 คน มีบ้านพักอยู่ในเขตรับผิดชอบของ บก.น.9 โดย 1 ใน 3 เป็นลูกสาวของนายทหารเรือชั้นสัญญาบัตรด้วย
ด้านนพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวมาจาก 3 สาเหตุ คือ 1.ความมึนเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ หรือพฤติกรรมชอบโชว์ เพื่อสร้างความสนใจทางเพศ (Exhibitionist) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง การยอมรับในสังคม และ 3. เป็นกลุ่มที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศ เช่น กะเทย ที่ชอบโชว์ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าพฤติกรรมการเปลือยอกของหญิงสาวที่ถนนสีลม นอกจากมีพื้นฐานพฤติกรรมชอบโชว์ในตัวเองอยู่แล้วอาจยังถูก กระตุ้นด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ขาดสติและมักจะเกิดความอายต่อมาในภายหลัง นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเต้นโชว์เปลือยอกและมีคนส่งเสียงเชียร์ยั่วยุ ให้ถอดเสื้อผ้ายังเข้าข่ายจิตวิทยาหมู่ ทำให้เกิดอารมณ์พาไปเป็นหมู่คณะ ทุกคนที่อยู่แวดล้อมอารมณ์จะถูกชักพาโดยไม่รู้ตัวคล้ายถูก สะกดจิต ทั้งนี้พฤติกรรมชอบโชว์แม้ไม่เข้าข่ายป่วยทางจิต แต่เป็นพฤติกรรมที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองด้านเพศ อย่างมาก คล้ายกับพฤติกรรมการชอบโชว์อวัยวะเพศตามหอพัก ที่มักจะเลือกสถานที่ที่ตนเองปลอดภัย และหากมีคนสนใจก็จะรู้สึกยินดี แต่หากทำให้ผู้ที่โชว์สูญเสียความมั่นใจ เช่น การต่อว่าด้วยคำพูด ว่าเล็กไป หรือไม่น่าสนใจ ท้ายสุดก็จะเลิกพฤติกรรมไปเอง
ต่อมามื่อเวลา 19.30 น. คืนวันที่ 18 เม.ย. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.6 เดินทางไปรับตัวเด็กสาวทั้ง 3 คนที่หลบหนีด้วยความอับอาย หลังตกเป็นข่าวโด่งดังมีการเผยแพร่ภาพตามอินเตอร์เน็ตกระฉ่อนทั่วโลก จนต้องไปกบดานที่บ้านญาติแถวอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร พบเด็กสาวทั้ง 3 คน เป็นเยาวชนอายุ 13 ปี 14 ปี และ 16 ปีตามลำดับ มีผู้ปกครองร่วมเจรจาปรับความเข้าใจ ก่อนจะพาไปเปรียบเทียบปรับข้อหาทำอนาจารในที่สาธารณะที่ สน.ยานนาวา คนละ 500 บาท โดยเยาวชนทั้งหมดยอมรับสารภาพผิด อ้างทำไปเพราะความคึกคะนองหลังพากันไปเที่ยวสงกรานต์แถวสีลม แล้วอารมณ์พาไปจนเลยเถิดถึงขั้นเต้นเปลือยอกโชว์กลางถนนบนหลังคารถกระบะ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ ทางพนักงานสอบสวนจึงทำประวัติ เปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาทพร้อมว่ากล่าวตักเตือนก่อนจะปล่อยไป