เอเซียรามา ราค้อน นกยักษ์ผุ้อาภัพ

เอเชียรามา: "ราด้อน" นกยักษ์ผู้อาภัพ โดย ฟ้าธานี 18 เมษายน 2554 13:04 น.  
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น




โผล่แจมกับก็อตซิลล่า
ปรากฏตัวใน Godzilla : Final War
ใบปิดฉบับต่างประเทศ

หนังสัตว์ประหลาดเป็นตระกูลหนังที่มีประวัติศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน มี “สัตว์ยักษ์” ตัวแล้วตัวเล่าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาถล่มกรุงโตเกียวในช่วงกว่าครึ่งศตวรรณ ที่ผ่านมา สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนหนัง รวมถึงเจ้า “ราด้อน” นกยักษ์ที่มีอายุ 54 ขวบในปีนี้แล้วด้วย
       
       ในจำนวนหนังสัตว์ประหลาดยักษ์แดนอาทิตย์อุทัยชื่อของ “ก็อตซิล่า” อยู่บนจุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย ติดตามมาด้วย “กาเมร่า” เต่ายักษ์บินได้ของ “ไดเอะ” , เจ้ามังกรสามหัว “คิงกิโดร่า” หรือจะเป็น “ม็อธร่า” ก็เรียกว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของแวดวงนี้กันทั้งนั้น เทียบกันแล้ว “ราด้อน” อาจจะเรียกว่าเป็นแค่พระรอง หรือกระทั่งตัวประกอบอดทน แต่ความจริงแล้ว นกยักษ์ผู้อาภัพของเรา มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่านั้นมาก
       
       ราด้อน เป็นสัตว์ประหลาดตัวเด่นของหนัง Radon ผลงานของทีมงานที่เคยสร้างสรรค์ ก็อตซิล่า จนโด่งดัง และมีอายุมากกว่า 50 ปีแล้ว นับเป็นสัตว์ประหลาดรุ่นคลาสิคของ “โตโฮ” อีกตัวหนึ่ง
       
       หนังที่มีชื่อเต็มยศว่า “ราด้อน สัตว์ประหลาดยักษ์แห่งท้องฟ้า” (Radon, Giant Monster of the Sky) เล่าเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่คนงานเหมืองในประเทศญี่ปุ่นแห่ง หนึ่ง ถูกเล่นงานโดยแมลงยักษ์รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดที่มีชื่อว่า “เมกานูลอน” กลายเป็นว่าแมลงเหล่านั้นหลบขึ้นมาเป็นพื้นผิวโลก เพราะหนีจากการตกเป็นเหยื่อของ “ราด้อน” สัตว์ปีกขนาดยักษ์ ที่กบดาลอยู่ในถ้ำของปล่องภูเขาไฟ
       
       เมื่อเหล่า เมกานูลอน เริ่มร่อยหรอลงเรื่อย ๆ ราด้อน จึงบินขึ้นมาบนพื้นผิวโลก และออกล่ามนุษย์เพื่อเป็นอาหาร ทั้งเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกต่างระส่ำระสาย จนกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น จึงได้ออกปฏิบัติการ ระดมทั้งกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เต็มไปด้วยแสงยานุภาพ หวังโค่นเจ้ายักษ์ใหญ่ตัวนี้ให้ลงได้
       
       ต้องบอกกันซักหน่อยว่าหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ในยุคบุกเบิกนั้น “ซีเรียส” และจริงจังกว่าหนังแนวเดียวกันในยุคนี้มาก สัตว์ประหลาดไม่ได้โผล่หน้าโชว์ตัวกันทุก 5 นาที แต่หนังให้เวลากับการปูเรื่อง อธิบายความอยู่นานพอสมควร ถึงกระนั่น Radon ก็ยังเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ และทำลายล้างบ้านเมืองอันยิ่งใหญ่ตระการตา อาคารบ้านเรือนและยานพาหนะจำลองถูกสร้างด้วยความประณีต ขณะที่ฉากการต่อสู้กลางเวหาของนกยักษ์และฝูงบินจากกองทัพอาการคือ จุดขายของหนังเรื่องนี้
       
       และที่ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวก็คือ ฉากการทำลายล้างเมืองด้วยลมพายุจากปีกของ ราด้อน ที่พัดพาทำลายทุกสิ่งให้ราพณาสูรในชั่วพริบตา ซึ่งก็ต้องอย่าลืมนะครับ ว่าฉากถล่มบ้านเมืองในลักษณะนี้ ทำได้หนเดียวเทคเดียวจบ ถ้าต้องการถ่ายใหม่ก็ต้องสร้างบ้านเรือนจำลองขนาดเล็กชุดใหม่ขึ้นมาด้วย เหมือนกัน ก็ต้องนับถือควาใจเด็ดของทีมงานในยุคนั้นจริง ๆ
       
       ราด้อน นั้นแผลงมาจากคำว่า เทอราโนดอน (Pteranodon) ไดโนเสาร์อีกชนิดหนึ่งนั่นเอง ในขณะที่ชาติตะวันตกจะรู้จักชื่อของมันในนาม “โรดาน” (Rodan) เสียมากกว่า ซึ่งก็มีเหตุผลหลายประการครับ บ้างบอกว่าเป็นความผิดพลาดของการสื่อสารระหว่างเจ้าของหนังและผู้จัดจำหน่าย ชาวสหรัฐฯ แต่ก็มีข้อมูลบางกระแสระบุว่าทางตะวันตกไม่อยากจะใช้คำว่า Radon เพราะไม่อยากจะให้สับสนกับชื่อของธาตุกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง จึงเลี่ยงไปใช้ชื่ออื่นแทน
       
       ตามข้อมูลในภาพยนตร์ ราด้อน มีรูปร่างลักษณะใกล้เคียงกับสัตว์โลกล้านปีอย่างเทอราโนดอน แต่มีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่า เมื่อโตเต็มวัยอาจจะมีส่วนสูงถึง 100 เมตร และน้ำหนักถึง 200 ตันเลยก็เป็นได้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควรจะสูญพันธ์ไปแล้ว แต่ก็สามารถรอดชีวิตมาได้ ด้วยการจำศีลอยู่ในถ้ำปล่องภูเขาไฟมาเป็นเวลานานนับล้านปี
       
       นั่นคือเรื่องในหนังครับ ส่วนความเป็นจริงนั้น ราด้อน สวมบทบาทโดยนักแสดงชื่อดัง “นารุโอะ นากาจิม่า” ผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตภายใต้ชุดสัตว์ประหลาดที่ทั้งหนัก, ร้อน และอึดอัด ตั้งแต่ก็อตซิล่าภาคแรก จนกลายเป็นตำนานแห่งวงการหนังญี่ปุ่นไปแล้ว
       
       หลังปรากฏตัวในหนังที่มันเป็นพระเอกตัวเด่นสุดของเรื่องเมื่อปี 1956 แล้ว ราด้อน ก็ถูกผนวกเข้ากับจักรวาลของก็อตซิลล่า และกลายสภาพเป็นตัวประกอบอดทนในเวลาต่อมา เป็นทั้งศัตรูคู่ปรับ และสหายร่วมรบ ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาของ ก็อตซิลล่า รวมถึงได้โผล่หน้ามาในหนังเรื่องสุดท้าย (ในขณะนี้) อย่าง Godzilla : Final War เมื่อ 6 ปีก่อนด้วย
       
       ด้วยทีมงานระดับ “เกรดเอ” ของ “โตโฮ” ในยุคนั้น ราด้อน กลายเป็นงานที่น่าพึงพอใจอีกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบท หรือเทคนิคพิเศษ ฝีมือของบุคลากรระดับตำนานนั้นเชื่อมือได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ “อิจิโร ฮอนดะ”, นักทำเทคนิคพิเศษระดับตำนาน “เอยิ ซึบูราญ่า” ก็อยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       ราด้อน เป็นผลงานในยุคทองของ “โตโฮ” บริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่แห่งประเทศญี่ปุ่น ในช่วงที่ทั้งความมุ่งมั่น และเทคนิคเรียกว่าสุกงอมจนเต็มที่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณภาพของหนังจะออกมาดีเยี่ยม และเนี๊ยบชนิดหนังรุ่นหลัง ๆ ยังทาบไม่ติด ซึ่งต้องถือว่า โตโฮ ลงทุนและให้ความสำคัญกับหนังเรื่องนี้มาก ในฐานะที่เป็นหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ถ่ายทำกันด้วยระบบสีเป็นเรื่องแรก หลังจากโด่งดังกับ ก็อตซีล่า ในยุคหนังขาวดำมาแล้ว
       
       นอกจากงานสร้างที่ทำกันได้อย่างพิถีพิถัน ทั้งตัวสัตว์ประหลาดยักษ์ และฉากทำลายล้างบ้านเมืองสุดอลังการ (โปรดอย่างเปรียบเทียบกับเทคนิคพิเศษทางคอมพิวเตอร์ในยุคนี้อย่างเด็ดขาด ครับ) ที่สำคัญ “ราด้อน” ไม่ได้ย่อหย่อนในเรื่องเนื้อหา และคุณภาพความเป็นหนัง ผู้กำกับ อิจิโร ฮอนดะ ยังคงใส่ประเด็นความขัดแย้งของมนุษย์และธรรมชาติลงไป โดยไม่ได้ชี้นิ้วยัดเยียดบทผู้ร้ายให้กับใคร โดยเฉพาะในฝ่ายของสัตว์ยักษ์ที่นอกจากจะได้รับความเป็นธรรมแล้ว ยังจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้ชมในตอนท้ายของเรื่องด้วย
       
       ความน่านับถือของทั้ง อิจิโร ฮอนดะ และเอยิ ซึบูราญ่า ก็คือทั้งคู่ไม่ได้ใส่ใจเพียงหุ่นตัวประหลาด หรือฉากวินาศสันตะโรแต่เพียงอย่างเดียว คนทำหนังระดับตำนานทั้งสองยังใส่ใจในเนื้อหา และสารที่ต้องการสื่อออกไปด้วย
       
       อดีตทีมงานของ โตโฮ คนหนึ่งกล่าวว่าทั้ง ฮอนดะ และ ซึบูราญ่า เชื่อในแนวคิดที่ว่า “ธรรมชาติเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ของโลก ที่มนุษย์ไม่ควรจะต้านทานได้” เนื้อหาด้วยแนวคิดดังกล่าวถูกถ่ายทอดผ่านงานอย่าง Godzilla ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี รวมถึง Half Human และมาสุกงอมอีกครั้งใน Radon
       
       ในช่วงระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นต้องตกอยู่ภายใต้ภัยพิบัติแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ซึนามิ ภาพแห่งความเป็นจริงนั้นน่าสะพรึงกลัวกว่าหนังเรื่องใด ๆ ที่เคยสร้างกันมา … แต่ความหมายของมันเป็นสิ่งเดียวกับที่ ฮอนดะ และ ซึบูรายะ พยายามพูดถึงมาตลอด ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าเราจะจินตนาการได้
       
       ในช่วงท้ายจุดไคลแม็กซ์ สัตว์ยักษ์ถูกไล่ต้อนโดยกองกำลังป้องกันตัวเอง ด้วยไม้ตายสุดท้ายของมนุษย์ อย่างการยิงจรวดเข้าไปในถ้ำใต้ดินอันเป็นรังของมัน เพื่อปะทุภูเขาไฟใต้ดินให้ระเบิดออกมา หวังทำลายล้างเผ่าพันธุ์นกยักษ์ให้สิ้นซาก จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมของ ราด้อน ที่ตัดสินใจทิ้งโอกาสที่จะหนีรอด เพื่อจบชีวิตไปพร้อม ๆ กับคู่ของมันที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของมนุษย์ไปแล้ว … หนังจบลงด้วยชัยชนะของมนุษย์พร้อมกับบทสรุปที่ตั้งเป็นคำถามให้กับผู้ชมว่า ระหว่างสัตว์ประหลาดยักษ์ และมนุษย์โลก ใครกันแน่ที่เป็นหายนะของโลกนี้
       
         
       
        เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
       ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
       ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
       ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
       *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก   ข่าวล่าสุด ในหมวด เอเชียรามา: "ราด้อน" นกยักษ์ผู้อาภัพ เอเชียรามา: “จัวอี้หัง” จอมยุทธ์ผู้อ่อนไหว กับ “นางพญาผมขาว” สุดยอดหนังกำลังภายในยุค 90s เอเชียรามา: มังกรหยก ฉบับชอว์ บราเดอร์ ... คลาสสิค หรือ ตกรุ่น ? เอเชียรามา: การ์ตูนญี่ปุ่น ... ฉบับหนังจีน เอเชียรามา: Naked Killer … เพชฌฆาตกระสุนเปลือย     5 อันดับข่าวยอดนิยมของหมวด รวมเด็ดดาราถ่ายบิกินีรับลมร้อน “มาช่า” แก้ไม่หมดแต่แรงชนะเลิศ ไล่มนต์ดำ “ปลิงปากหวาน” แม่พา “ครี” สาดน้ำมนต์ “ลูกโป่ง เอเอฟ4” เปิดซิงถ่ายชุดว่ายน้ำ โว กระแสดีเกินคาดขนาดไม่ได้ถอดทุกชิ้น Hot Girl of the Week : "หลินเข่อตง" เซียวเหล่งนึ่ง แห่งโลกออนไลน์ เก็บตกภาพดาราทวิตเตอร์โพสต์รูปเล่นสงกรานต์     เครื่องมือจัดการเว็บ ส่งบทความนี้ต่อ พิมพ์หน้านี้ ข่าวที่มีผู้ส่งมากที่สุด แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ด แบ่งปันให้เพื่อน  
Credit: ผุ้จัดการออนไลน์
#ภาพยนต์
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
19 เม.ย. 54 เวลา 06:14 1,946 1
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...