ความ จริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะกว่าที่แอ็คติ้งจะผ่าน ไดอะล็อก จะไหลลื่นมันก็ต้องผ่านการฝึกซ้อมและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ยิ่งถ้ามา เจอบทบู๊แอ็คชั่นที่ต้องอาศัยเอฟเฟ็คท์ช่วยด้วยแล้ว ทุกอย่างต้องเป๊ะเพราะถ้าพลาด นั่นหมายถึงเจ็บตัว
และแม้การแสดงบทบู๊ แอ็คชั่น เล่นกับเอฟเฟ็คท์จะเป็นเรื่องค่อนข้าง หวาดเสียวก็จริงอยู่ แต่ก็มีนางเอกหลายคนที่ใจกล้า รับแสดงละครแนวนี้ มีใคร บ้างนั้นมาดูกัน
‘แก้ม’ จากนางงามสู่นักบู๊
มีดีกรีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี 2551 การันตีความสวย แถมคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมจากเวทีมิสเวิล์ดมาครองได้ในปีเดียว กัน... สำหรับ “แก้ม-กวินตรา โพธิจักร” ที่มีดีทั้ง ความสวยและความสามารถบนเวทีขาอ่อนให้ชาวไทยได้ประจักษ์ต่อสายตามาแล้ว...บาง คนมองว่าเธอเป็นสาวเรียบร้อยอ้อนแอ้นอรชร เหมาะแล้วกับการที่ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ แต่ตัวจริงกลับตรงข้าม เพราะ “แก้ม” เป็นสาวห้าวผิดกับลุคส์ที่ได้เห็น หลังจาก ปฏิบัติภารกิจจนครบวาระ เส้นทางบันเทิงก็เปิดรับเธออย่างเต็มตัว เมื่อนางงามคนสวยมีโอกาสได้ประเดิมละครบู๊แอ็คชั่นเรื่องแรก “เสาร์ ๕” ละครภายใต้การผลิตของ “อาหลอง-ฉลอง ภักดีวิจิตร” ที่ได้ชื่อว่าเจ้าพ่อหนังละครระเบิดภูเขาเผากระท่อม และเขี้ยวกับการทำงาน แฟนๆ จึงค่อนข้างเป็นห่วงนางเอกน้องใหม่ไม่น้อย ด้วยเกรงว่างานนี้จะหนักเกินไปสำหรับเธอ
แต่ “แก้ม” ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดู เมื่อ “เสาร์ ๕” ออกอากาศ เพราะไม่คิดมา ก่อนว่าเจ้าตัวจะออกลีลาบู๊แอ็คชั่นได้ทะมัดทะแมง คล่องตัวขนาดนี้ จากเรื่องแรกก็มาเรื่อง ที่สอง “นักฆ่าขนตางอน” ที่เสียงตอบรับยังชื่นชมในความสามารถชนิดไม่ห่วงสวย และอีกไม่นานละครบู๊เรื่องใหม่ “เสาร์ ๕ ภาค 2” ที่กำลังถ่ายทำ ก็คงจะลงจอให้พิสูจน์ความสามารถ กันอีกแล้ว
‘สา’ จากแคทวอล์คสู่ลีลาแอ็คชั่น
“สา-มาริสา อานิต้า” เริ่มเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี กับภาพยนตร์เรื่อง “เสียดาย 2” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยสมัยนั้นนิยมนางเอกลูกครึ่ง บวกกับความสามารถทางการ แสดงที่โดดเด่นทำให้ “สา” เป็นที่เอ่ยถึงในวงกว้าง จากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มต้นเข้าสู่เวทีนางแบบด้วยความสูงเกินวัย 15 ปี
“สา” ห่างหายจากการแสดงไปพักใหญ่ เนื่องจากหันไปเอาดีทางการเดินแบบจนกลายเป็นสาวเต็มวัยจึงหันมาแสดงละครอีก ครั้ง และได้รับการกล่าวถึงกระหึ่มเมื่อ“สา” กระโดดลงจอละครเรื่อง “ทอง 9” ที่สร้างความเซอร์ไพรส์คนดูเมื่อภาพสาวเซ็กซี่บนเวทีเดินแบบของเธอถูกสลัด ออกไป และมาสวม บทนางเอกนักบู๊
แม้หุ่นของ “สา” จะบอบบางด้วยงานหลักเป็นนางแบบ แต่เมื่อเธอสวมคาแรคเตอร์ในละคร เจ้าตัวก็สู้ตายถวายชีวิต บู๊ระห่ำได้สะใจพระเดชพระคุณ พร้อมส่งต่อภาพนางเอกนักบู๊ของตัวเองอีกครั้งใน “เสาร์ ๕, นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว” และปิดท้ายที่ “เหนือมนุษย์” ล้วนเป็นละครที่ “สา” ได้โชว์แอ็คชั่นเต็มสตรีมทั้งนั้น แฟนละครจึงจำภาพเธอในฐานะนางเอกนักบู๊ได้ติดตา
‘รุกฆาต’ ส่ง ‘เชียร์ฟีเวอร์’
แฟนละครทางจอแก้วติดลุคส์นางเอกมาดทอมบอยของนางเอกสาวห้าว “เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธาอภินันท์” มาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ถึงเจ้าตัวจะได้รับคาแรคเตอร์และบทบาทการแสดงที่แตกต่างกันไปในหลายเรื่อง แต่ก็ไม่มีคาแรคเตอร์ไหนที่แฟนละครจะถูกใจเท่า กับบท “ตะเภา” สาวแก่น เซี้ยว ห้าว และเก่งใน “คมแฝก” อีกแล้ว
ช่วงที่ “เชียร์” รับแสดงบทนี้ในละคร “คมแฝก” แฟนละครพากันโอดครวญไม่น้อย เมื่อเธอแทบไม่ได้โชว์... แอ็คชั่นให้ได้เห็นเท่าไหร่...แต่เมื่อ “รุกฆาต” ละครภาคต่อออนแอร์ คนดูก็ปรบมือเฮลั่นเมื่อได้เห็นสาว“เชียร์” โชว์บู๊... กระจายสมใจนึกสักทีด้วยคาแรคเตอร์ส่วนตัวที่ห้าวเกินหญิง...และฝีมือทาง การแสดงที่นับวันยิ่งเข้าฝัก ส่งให้เกิดกระแส “เชียร์ฟีเวอร์” ไปพร้อมๆ กับละคร
ความแรงของละครเรื่องนี้ยัง ส่งผลให้นางเอกสุดห้าวได้รับรางวัล “ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม ท็อป อวอร์ดส 2009” ไปครอง เรียกว่าภาพนางเอกนักบู๊ของ “เชียร์” ติดตาตรึงใจมหาชนไปเต็มๆ
‘ชมพู่’ บู๊เต็มสตรีม ใน ‘รหัสทรชน’
แม้จะผ่านงานแสดงมาหลายเรื่อง แถมยังเคย ผ่านบทแอ็คชั่นมาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยมีเรื่องไหน ที่นางเอกสาวอย่าง “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ได้บู๊เต็มสตรีมเท่ากับ “รหัสทรชน” ของค่ายยูม่าอีกแล้ว และครั้งนี้ถือเป็นการพลิกคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมาก อีกครั้งของเธอ
“ชมพู่” แสดงละครมาเกือบจะทุกบทบาทแล้ว การหันมาชิมลางแอ็คชั่นสุดมันส์เต็มรูปแบบครั้งนี้ของเธอจึงเป็นเรื่อง ท้าทายความสามารถของตัวเองไม่น้อย และยังเป็นการเซอร์ไพรส์คนดูที่ได้เห็น นางเอกอ้อนแอ้นบอบบางอย่าง “ชมพู่” ในบทบาทที่ต่างออกไป
จากการโชว์คิวบู๊อย่างคล่องแคล่วทะมัดทะแมง ของเธอคนดูที่ติดตาม “รหัสทรชน” ถึงกับเอ่ยปาก ชมเปาะถึงความสามารถอีกด้านหนึ่งที่แฟนๆ แทบ ไม่เคยเห็นกันมาก่อน
และเป็นการพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าถึงจะต้อง ลุยแค่ไหนเธอก็สู้ไม่ใช่แสดงเป็นแต่บทเดียวเท่านั้น
‘นักฆ่าขนตางอน’ แจ้งเกิด ‘หยก’
“หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์” เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่โลดแล่นในโลกมายามาหลายปี แต่ไม่ดังเปรี้ยงปร้างสมใจนึกสักที แม้แรกเริ่มจะประเดิมด้วยบท “คุณมิลค์” นางเอกสาวจากหนัง “หนูหิ่นอินเดอะมูฟวี่” ที่หลายคนคาดการณ์กันว่า เกิด เกิด เกิด แน่นอน แต่พอกระแสภาพยนตร์จางไป... ชื่อของ “หยก” ก็แทบจะหายไปด้วย
แต่เมื่อ “หยก” ได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ก็เริ่มมีผลงาน ละครให้เห็นหน้าค่าตากันอีกครั้ง แม้กระแสจะยังไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร แต่ เมื่อดูที่ฝีมือการแสดงแล้ว ต้องถือว่า ทำได้น่าพอใจ
รอเวลาแจ้งเกิดจริงๆ จังๆ อยู่พักใหญ่ ในที่สุด “หยก” ก็ทำสำเร็จ เมื่อราชาหนัง ละครบู๊... “อาหลอง-ฉลอง ภักดีวิจิตร” เห็นหน่วยก้านในตัว “หยก” เลยพลิกบทให้ขึ้นแท่น... เป็นนางเอกนักบู๊ ประเดิมเรื่องแรกกับ “นักฆ่าขนตางอน” ที่ความสวยสังหารของเธอคว้าใจแฟนละครไปได้เป็นกอบ เป็นกำ แถมเรทติ้งก็ไปได้สวยไม่แพ้กัน งานนี้ทั้งสวยและเซ็กซี่ สมกับนักบู๊จริงๆ
‘ยุ้ย’ สวยดุ ใน ‘พระจันทร์ลายพยัคฆ์-ป่านางเสือ’
เดินสายกวาดรางวัลด้านการแสดงมาหลายเวทีแล้ว “ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ที่คร่ำ หวอดในวงการบันเทิงมาหลายปี เปิดตัวครั้งแรกกับบทนางเอกเจ้าน้ำตาใน “คมพยาบาท” ที่ทำเอาคนดูสงสารและอินไปกับโชคชะตา ของนางเอกสาว จนทำให้คนดูติดภาพของ “ยุ้ย” ในละครดราม่าต่อมน้ำตาแตก
กระทั่งมาเริ่มพลิกบทบาท ใน “บ้านภูตะวัน” ของค่ายเป่า จิน จง กับบทนักฆ่าสาวที่ด้านหนึ่งเป็นสาวพิการ แต่อีกด้านกลับแข็ง แกร่ง เรื่องนี้เป็นบู๊เบาๆ ที่ไม่เข้มนัก แต่ที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด คงไม่พ้น “พระจันทร์ลายพยัคฆ์”
ซึ่งเรื่องนี้ร้ายได้ใจ...แถมแอ็คชั่นแอนด์ บู๊ทั้งเรื่อง ผสมกับฝีมือลายมือที่คงเส้นคงวาส่งให้ “ยุ้ย” ได้รับรางวัล “ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม ท็อป อวอร์ดส 2010” ไปครอง ส่งให้ภาพนางเอกนักบู๊ฉายแววชัดขึ้น ล่าสุด “ป่านางเสือ” กับคาแรคเตอร์นางโจรสาวที่สวยดุแอ็คชั่นตลอดเวลา ก็ส่งให้ “ยุ้ย” ได้รับคำชมไม่ขาดปากเช่นกัน...
Credit:
Tvpoolonline