นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนมาก อันเป็นผลพวงมาจากสภาวะโลกร้อน ทำให้ ประชาชนไทยเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหลายโรค ที่ สธ.เป็นห่วง และให้ทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันอย่างเข้มงวดในขณะนี้คือ โรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมักพบบ่อย เกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป
แต่โรคที่ยังมีการพูดถึงกันน้อยมากคือ โรคลมแดด ซึ่งเกิดในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด ทางการแพทย์เรียกว่า “ฮีทสโตรก” เป็นภาวะวิกฤติของร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ มีข้อมูลในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีประชาชนเสียชีวิตปีละประมาณ 400 คน ในประเทศไทยยังไม่เคยมีใครเสียชีวิต อาการผิดปกติที่เกิดจากความร้อนมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับที่ไม่เป็นอันตรายที่รู้จักกันทั่วไปคือ เป็นลม มีอาการมืดหน้า เป็นตะคริว แต่ที่อันตรายที่สุดคือ การเป็นลมแดด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการได้รับความร้อนเป็นเวลานาน
โฆษก สธ.กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการเป็นลมแดด ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกคอ ตัว รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ ร่วมกับการใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน หรือเทน้ำเย็นราดลงบนตัวเลย เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลง และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ในรายที่อาการยังไม่มาก ควรให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคฮีทสโตรก ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องกินยาควบคุมความดัน เช่น ยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีผลขับสารโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดปกติของระดับเกลือแร่ได้เร็วกว่าผู้อื่น ที่สำคัญคือ ผู้ที่ดื่มเหล้าหรือเบียร์ในขณะที่สภาพอากาศร้อน จะมีผลทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม นอกจากนี้ คนอ้วนยังเสี่ยงเป็นโรคฮีทสโตรกได้มาก เนื่องจากผิวหนังของคนอ้วนมีไขมันใต้ผิวหนังมาก เปรียบเสมือนเป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้คนอ้วนสามารถเก็บความร้อนได้ดี.
อากาศมันร้อนจริงๆนี่ครับ