เป็นกระแสน้ำที่พัดในแนวตั้งฉากกับชายฝั่งออกสู่ทะเล
โดยเกิดจากการที่น้ำทะเลถูกอุปสรรคใต้น้ำปิดกั้นมิให ้ไหลกลับคืนท้องทะเลได้สะดวก
นอกจากบางช่องทางเท่านั้ น หรือเกิดจากการที่น้ำไหลพัดสอบมาปะทะแล้วไหลย้อน
กลับ ออกไปในทะเล
อุปสรรคเช่น แนวหิน แนวปะการัง หรือสันทรายที่อยู่ใต้น้ำ แนวหินหรือแนวปะการังมักจะ
อยู่คงที่ และเจ้าหน้าที่สามารถบอกเตือนกันได้ แต่แนวสันทรายมักจะมีการเคลื่อนพังหรือ
ก่อตัวขึ้นใหม ่ยากแก่การระวังป้องกัน
อันตรายของ Rip Current จะเกิดกับคนที่ไม่รู้วิธีรับมือกับมันเมื่อตกเข้าไปในกระแสของ
มัน เพราะธรรมชาติของคนเรามักจะว่ายน้ำสวนทวนกระแสของ Rip Current ซึ่งก็มักจะ
แพ้และหมดแรงต้านทานในที่สุด
เมื่อประสบกับ Rip Current จงอย่าว่ายสวน กระแส แต่ให้ว่ายไปในระนาบของ
ชายฝั่ง ซึ่งเราจะหลุดพ้นจากกระแสได้ในที่สุด จากนั้นจึงค่อยว่ายเข้าฝั่งเมื่อรอด
พ้นจากอิทธิพลของมัน
Rip Current ที่เกิดจากแนวสันทรายให้น้ำ มักเกี่ยวพันกับฤดูกาล และสภาพอากาศ
หลังฝนตกหนัก หรือ ในช่วงวันที่คลื่นน้ำทะเลปั่นปวน มักจะมีผลให้ทรายตามชายหาดพังไหลย้อน
ลงไปตกตะกอนนอกแนวขอบชายฝั่งทะเล ซึ่งทรายเหล่านี้เองเป็นสันทรายใต้น้ำที่ขัดขวางการ
ไหลย้อนกลับของน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าฝั่งด้วยอิทธิพลของคลื่น น้ำทะเลจำนวนมากถูกบังคับให้
ไหลกลับออกไปในช่องเปิดของสันทราย และกลายเป็น Rip Current ที่ทรงอานุภาพพร้อมจะปลิด
ชีพของคนที่ไม่รู้จักมัน
เพราะฉะนั้น หลังฝนตกหนัก หรือ หลังจากวันที่ทะเลปั้นป่วน จงงดลงเล่นน้ำทะเลสักสองสามวัน
เพราะหลังจากนั้นสันทรายทะเลที่เกิดขึ้นจะพังและทราย ก็จะถูกกอบขึ้นมากองบนหาดทรายตาม
เดิม