กลายเป็นข่าวลือที่สร้างความตกใจให้กับหลายฝ่าย เมื่อมีกระแสจากโลกออนไลน์ถึงเรื่องที่ว่า นักแสดงสาวแห่งวงการหนังเอวี "มิยาบิ" หรือ "มาเรีย โอซาว่า" ได้ยอมรับว่าเธอติดเชื้อ "เอชไอวี" และยังขอโทษไปถึงนักร้องชาวไทยรายหนึ่งที่เธอเคยมีสัมพันธ์ด้วย
       
       กลายเป็นข่าวที่ถูกส่งต่อตามเครือข่ายสังคมต่าง ๆ มามากกว่า 1 สัปดาห์แล้ว กับเรื่องที่ว่า มิยาบิ หรือ มาเรีย โอซาว่า นักแสดงชื่อดังแห่งวงการเอวีชาวญี่ปุ่นติดเชื้อเอดส์
       
       โดยข่าวจากฟอร์เวิร์ดเมล์ที่อ้างอิงรายงานของ สำนักข่าวอัลจาซีรา ให้ข้อมูลว่า มิยาบิ ได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าเธอได้ไปตรวจร่างกายที่ “โรงพยาบาลอังโคะคุจิ” และผลตรวจเลือดปรากฏว่าเป็นบวก กระทั่งนาย “แพทย์โฮเนะคาว่า” เป็นผู้ยืนยันว่าเธอได้ติดเชื้อเอดส์
       
       "เมื่อได้ทราบเรื่องนี้ก็ตกใจมาก ทางพ่อแม่ที่เคยตัดสัมพันธ์เมื่อครั้งเริ่มเล่นหนัง AV ก็ให้อภัย และให้ฉันกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด แต่ฉันตั้งใจว่าจะไปบวชในวัดห่างไกล เพื่อบำเพ็ญภาวนาจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต" ข่าวลือดังกล่าวอ้างคำพูดของนักแสดงสาวคนดัง
       
       มาเรีย โอซาว่า นักแสดงเอวีวัย 25 ปีที่เริ่มมีผลงานตั้งแต่เมื่อปี 2005 นับเป็นดาวเด่นแห่งวงการหนังประเภทนี้ที่มีผลงานมากมาย และมีแฟนคลับชื่นชอบจำนวนมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยข่าวลือยังระบุว่า "ค่ายหนังอีกหลายค่ายที่เคยใช้บริการของมิยาบิ ได้ระงับการถ่ายทำหนัง AV เพื่อส่งตัวเหล่านักแสดงไปตรวจเลือดเสียก่อน คิดเป็นค่าเสียหายในการนี้กว่าร้อยล้านเยน"
       
       ในส่วนท้ายของข่าวดังกล่าวยังอ้างคำพูดของมิยาบิ ที่ฝากขอโทษไปถึง “ผู้กำกับหนังที่เมืองไทย และนักร้องเพลงร็อคหัวล้านๆ ที่เมืองไทย” ซึ่งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเธออาจจะทำให้เขาทั้งสองต้องรับเคราะห์ไปด้วย
       
       โดยข่าวดังกล่าวกลายเป็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในหมู่ชาวไทย อย่างไรก็ตามหลังจากการตรวจสอบแล้ว ยังไม่สามารถพบข่าวอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ ได้
       
       นอกจากนั้นรายละเอียดบางอย่างในข่าวจากฟอร์เวิร์ดเมล์ที่อ้างว่าได้รับข้อมูลมาจากสำนักข่าวอัลจาซีรา ยังประกอบไปด้วยรายละเอียดที่น่าสงสัยหลายประการ รวมถึงชื่อโรงพยาบาล “อังโคะคุจิ” ที่ไปพ้องกับชื่อวัดในการ์ตูนเรื่อง “อิคคิวซัง” และชื่อนายแพทย์ “โฮะเนะคาว่า” ซึ่งพ้องกับชื่อสกุลของตัวละคร “ซุเนะโอะ” ในเรื่อง “โดราเอมอน” ก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นไปอีก
       
       โดยข่าวเริ่มถูกแพร่กระจายมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเพียงมุขตลกใน “วันเมษาหน้าโง่” หรือ “วันเอพริลฟูลส์” เท่านั้น