สาวเลขาฯ นายแพทย์ดัง ลูกอดีต ส.ส. โร่ร้องปวีณา ถูกนายจ้างกักขัง ทุบ ตี ทำร้ายร่างกาย แถมขู่ฆ่าเหตุเข้าใจผิด กล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารโกงเงินบริษัท กระทั่งตรวจสอบพบความจริงยิ่งโมโหหนัก สุดทนปีนช่องลมหนี
น.ส.เอ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยมารดาและญาติเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา กรณีถูกเจ้านาย ซึ่งเป็นนายแพทย์ชื่อดัง กักขังและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
น. ส.เอ กล่าวว่า ทำงานเป็นเลขานุการให้ นพ.แจ๊ค เป็นระยะเวลา 1 ปีเศษ โดย นพ.แจ๊ค ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทดำเนินการคลินิกเสริมความงาม ระหว่างที่ทำงานได้รับทราบปัญหาของเจ้านาย และปัญหาของบริษัทมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 เจ้านายให้เตรียมเอกสารทางการเงินของบริษัทไปตรวจสอบที่บริษัทภายในตึก เอราวัณ หลังจากตรวจสอบแล้วเจ้านายไม่เชื่อตามเอกสาร และคิดว่าตนปลอมแปลงเอกสาร โดยร่วมมือกับบริษัทอื่นโกงเงินของบริษัท
ยืน ยันและบอกไปว่าไม่ได้โกง ทำให้ นพ.แจ๊ค โกรธมาก และใช้โทรศัพท์มือถือทุบมือตน จากนั้นก็ลงมือทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ เตะ ใช้ไวท์บอร์ด มีด ตุ๊กตาไม้ ตบ ตีจนบอบช้ำไปทั้งตัว นอกจากนี้ นพ.แจ๊ค ยังข่มขู่ว่า ถ้าไม่รับสารภาพจะจับไปเผานั่งยางที่ จ.กาญจนบุรี และจะฆ่าพ่อแม่ให้หมด
ถูก นพ.แจ๊ค กักขัง และทำร้ายร่างกายตั้งแต่เวลาประมาณห้าทุ่มวันที่ 2 พฤศจิกายน จนถึงตีสามวันที่ 3 พฤศจิกายน ได้รับบาดเจ็บบอบช้ำไปทั้งตัวจนทนไม่ไหว จึงจำยอมเซ็นเอกสารรับว่าโกงเงินไป เพื่อจะเอาตัวรอดจากความตาย หลังจากนั้น นพ.แจ๊ค ได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ระหว่างรักษาตัวก็มีผู้ชายลักษณะคล้ายตำรวจคอยเฝ้าไว้ไม่ให้หนี
ต่อ มาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นพ.แจ๊ค พาไปที่ห้องสำนักงานของโรงพยาบาลดังกล่าว เนื่องจากเมื่อไปตรวจสอบเอกสารแล้วไม่พบหลักฐานการโกงเงิน จึงโกรธมากและทำร้ายร่างกายตนอีกครั้งด้วยเฝือก (นพ.แจ๊ค ใส่เฝือกที่มือ เนื่องจากข้อมือหักจากการทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ) และขวดน้ำเกลือ พร้อมทั้งใช้เท้ากระทืบลำตัว หลัง ท้อง หน้า จนได้รับบาดเจ็บ และกักขังไว้ในห้องพักแพทย์ภายในโรงพยาบาล
กระทั่งวันที่ 6 พฤศจิกายน ตนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย เพราะ นพ.แจ๊ค บอกไว้ว่า ถ้าจะคิดหนีให้กระโดดตึกตายไปเลย แต่ไปเห็นช่องลมในห้องน้ำของห้องพักส่วนตัวนายแพทย์ จึงฉีกผ้าปูที่นอนมาผูกเป็นเชือกปีนออกทางช่องลมลงมาที่ชั้น 7 ซึ่งมีหน้าต่างห้องเก็บของเปิดไว้ จึงปีนเข้าไปในห้องดังกล่าว และหนีออกมาทางบันไดหนีไฟของโรงพยาบาล จากนั้นได้มาร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล เพราะนายแพทย์คนดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และรู้จักกับผู้ใหญ่หลายคน
นาง ปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าว จึงประสานไปยัง ผกก.สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว โดยผู้กำกับได้รับปากว่าจะให้ความเป็นธรรม และมอบหมายให้ สารวัตรเวร ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งนำส่งผู้เสียหายไปแจ้งความและตรวจร่างกายที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้กำกับจะออกหมายเรียกนายแพทย์ที่ก่อเหตุในวันที่ 9 พฤศจิกายน เพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป