นักเรียน ม.6 เครียดจัด ที่ผลการเรียนตกต่ำและไม่มีที่เรียนต่อปริญญาตรี เขียนจดหมายระบายความในใจต่าง ๆ นานา ก่อนผูกคอตายหนีปัญหา ผู้ปกครองเด็กจวกยับ ชี้มาตรฐานข้อสอบมีปัญหา
เมื่อวันที่ 7 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิต แถวถนนจันทร์เกษม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายเก่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ที่บริเวณห้องเก็บของชั้นล่าง โดยผูกคอติดกับลูกกรงเหล็กหน้าต่างสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร เสียชีวิต เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง โดยในที่เกิดเหตุพบกระดาษตกอยู่ 1 แผ่น พิมพ์ข้อความถึงพ่อแม่ แสดงถึงความน้อยใจว่า เรียนไม่จบ ไม่สามารถให้พ่อแม่ภูมิใจได้ จึงตัดสินใจผูกคอตาย
โดยนายเก่ง เป็นลูกชายคนเดียวของ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเพิ่งจะเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด และอยู่ระหว่างกำลังหาที่ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เกิดความเครียดเกี่ยวกับผลการเรียนที่ตกต่ำ ประกอบกับยังหาที่เรียนต่อในระดับปริญญาตรีไม่ได้ และไม่เป็นไปตามความมุ่งหวังของพ่อแม่ จนเกิดอาการเครียดจัด และตัดสินใจผูกคอตายเพื่อหนีปัญหา
ทั้งนี้จากการแถลงสรุปผลวิเคราะห์การทำแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ของนักเรียน พบว่าโดยภาพรวมการสอบใน 8 กลุ่มสาระ ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีนั้น นักเรียนทำได้ดีในวิชาสุขศึกษา ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเกินร้อยละ 50 ส่วนวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด
นอกจากนี้ การที่ สทศ. อนุญาตให้นักเรียนสามารถดูกระดาษคำตอบได้หลังจากปิดสมัครแอดมิดชันกลางไปแล้ว ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งกล่าวว่า การทำเช่นนี้จะเกิดประโยชน์อะไร มีแต่จะสร้างความเครียดให้เด็กเพิ่มขึ้นเท่านั้น ส่วนผู้ปกครองอีกรายกล่าวว่า ข้อสอบน่าจะมีปัญหา โดยเห็นได้จากการที่คะแนนเฉลี่ยเด็กไทยจะตกต่ำลงพร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งเมื่อได้ทำการพูดคุยกับเด็กหลายคนต่างก็พูดตรงกันว่า ตั้งใจทำข้อสอบ แต่จากคำถามของข้อสอบในปีนี้มีลักษณะที่กำกวมไม่ชัดเจน บางข้อตอบได้ 1 ข้อ บางข้อตอบได้มากกว่านั้น จึงทำให้เกิดความสับสน