ผุดผาดน้อย วรวุฒิ อดีตนักมวยชื่อดัง สมญา หมูแข้งทอง

ผุดผาดน้อย วรวุฒิ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ข้อมูลส่วนตัว ชื่อจริง ผ่อน ออมกลิ่น ฉายา ไอ้หมูแข้งทอง วันเกิด 25 มิถุนายน พ.ศ. 2494 สถานที่เกิด จังหวัดขอนแก่น รุ่น ฟลายเวท
จูเนียร์เฟเธอร์เวท
จูเนียร์ไลท์เวท
ไลท์เวท สถิติ ชก   ชนะ   ชนะน็อก   แพ้   เสมอ  

ผุดผาดน้อย วรวุฒิ มีชื่อจริงว่า ผ่อน ออมกลิ่น เกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2494 ที่จังหวัดขอนแก่น มีชื่อเล่นว่า "หมู" เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 10 ขวบตามบรรดาพี่ชาย ในชื่อ "ผุดผาดน้อย จ.หาญผจญ" (พี่ชายคนโตใช้ชื่อมวย "ผุดผาด จ.หาญผจญ") แต่บิดา (นายผ่อง ออมกลิ่น)ไม่สนับสนุน อยากให้เรียบจบมศ.3 ก่อน เมื่อเรียนจนจบ มศ.3 ที่ขอนแก่น ได้ฝึกเชิงมวยกับเพื่อนของพี่ชายชื่อ "ศรทอง ลูกเครื่องมือกล" และได้ตระเวนชกทั่วภาคอีสานเป็นจำนวนกว่า 60 ครั้ง โดยไม่แพ้ใครเลย ในปีพ.ศ. 2512 เมื่ออายุได้ 18 ปี ก็ได้เดินทางเข้าชกมวยที่กรุงเทพจากการชักนำของเพื่อนนักมวยของพี่ชายอีกคน ชื่อ "ศักดิ์มนู วรวุฒิ" จึงได้มาอยู่กับค่ายวรวุฒิ ของ ม.ร.ว.พรพุฒิ วรวุฒิ นับแต่บัดนั้น ใช้ชื่อมวย "ผุดผาดน้อย วรวุฒิ" ชกครั้งที่เวทีราชดำเนินในรายการเดิมพัน ชนะน็อคด้วยการเตะก้านคอ ต่อมาในปีเดียวกันได้แชมป์ "ขวัญใจโลลิต้า" ในรุ่น 108 ปอนด์

ช่วงเวลากลางวันที่ไม่มีการซ้อมมวยทำให้ผุดผาดน้อยเกิดอาการเบื่อหน่าย จึงได้ไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยช่างกลสยาม รุ่นที่ 6 แผนกช่างยนต์ เมื่อจบปวช. จึงสมัครเรียนต่อที่วิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ รุ่นที่ 1 แผนกช่างยนต์เหมือนเดิม เรียนอยู่ 3 ปี แต่ไม่จบ เพราะไม่ถนัดพวกวิชาคำนวณและวิทยาศาสตร์ช่าง

ผุดผาดน้อย รุ่งโรจน์บนสังเวียนมวยไทยระหว่างปี 2513 - 2519 ขึ้นชกประมาณ 130 ครั้ง แพ้เพียง 10 กว่าครั้ง เป็นแชมป์ 3 รุ่น คือ ฟลายเวท, จูเนียร์เฟเธอร์เวท และจูเนียร์ไลท์เวท ของเวทีลุมพินี และยังได้แชมป์ของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการชนะ "ขุนพลน้อย เกียรติสุริยา" รวมทั้งแชมป์ "ยอดมวยอีสาน" ในการชิงกับ "เริงศักดิ์ พรทวี" ผุดผาดน้อยมีค่าตัวเรือนแสน ซึ่งในยุคเดียวกันนั้นมีเพียงเขา ,วิชาญน้อย พรทวี, พุฒ ล้อเหล็ก, และ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์

ผุดผาดน้อย เมื่อรุ่งขึ้นมาไม่นาน ก็แทบหาคู่ชกในรุ่นเดียวกันไม่ได้ ต้องแบกน้ำหนักตลอด และได้ปราบยอดมวยไทยชื่อดังในยุคเดียวกันมาแล้วหลายคน อาทิ วิชาญน้อย พรทวี, อภิเดช ศิษย์หิรัญ, ณรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต, เนตร ศักดิ์ณรงค์, ฟ้าใส ทวีชัย, ไชยยุทธ สิทธิบุญเลิศ, ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์, ยอดสิงห์ ส.พญาไท, ขุนพลน้อย เกียรติสุริยา เป็นต้น และไฟต์ที่แฟนมวยรุ่นเก่าไม่มีวันลืมคือการชกกับขุนค้อนเพชรฆาต "หัวไทร สิงห์เมืองนคร" ในยก 4 ผุดผาดน้อยโดนหมัดของหัวไทรลงไปให้กรรมการนับแปด 2 ครั้งติดๆ กัน ขณะกำลังซวนเซลงไปนอนอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการแพ้น้อคทันที เขาได้สวมหัวใจสิงห์บวกด้วยศอกซ้ายจนคู่ต่อสู้ลงไปกอง

ผุดผาดน้อยพลิกกลับมาชนะน็อคอย่างเหลือเชื่อ ผู้ชมในเวทีลุมพินีลุกขึ้นตะโกน "ไอ้หมูใจเพชร" พร้อมๆ กัน ผุดผาดน้อยเป็นนักมวยเชิงดี ชกสวย มีลูกเตะเป็นอาวุธหลัก คือแข้งซ้าย จนได้รับฉายาว่า "ไอ้หมูแข้งทอง" จากสื่อมวลชน มียอดมวยร่วมยุคเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ชกกัน คือ "พุฒ ล้อเหล็ก" เพราะเป็นเพื่อนสนิท ฝึกซ้อมอยู่ด้วยกัน และเป็นมวยในสังกัดของ "ครูเฒ่า" ชนะ ทรัพย์แก้ว เหมือนกัน ผุดผาดน้อย ประกาศแขวนนวมแบบสายฟ้าแลบเมื่อมีอายุเพียง 25 ปี หลังจากนั้นได้เดินทางไปทำงานกับคนไทยในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ราว 2 ปี กลับมาเมืองไทยเมื่อบิดาเสียชีวิต และลงท้ายเหมือนยอดมวยหลายๆ คนคือการกลับมาชกอีกครั้ง แม้ทำได้สวยงาม เอาชนะ "วังไพร โรจนสงคราม" ในการกลับมาครั้งแรก แต่ที่เหลืออีก 4 ครั้ง แพ้รวด เนื่องจากการร้างลาเวที ร่างกายที่ไม่ฟิตเต็มร้อยเหมือนเดิม บวกกับชีวิตส่วนตัวที่มีเพื่อนฝูงมากมาย และเริ่มดื่มหนักขึ้น


หลังแขวนนวมชื่อของผุดผาดน้อย วรวุฒิ ได้ถูกบรรจุในหอเกียรติยศของเวทีมวยราชดำเนิน เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2527

ซึ่งประกอบด้วย

ผล พระประแดง สุข ปราสาทหินพิมาย ชูชัย พระขรรค์ชัย ประยุทธ์ อุดมศักดิ์ อดุลย์ ศรีโสธร อภิเดช ศิษย์หิรัญ วิชาญน้อย พรทวี พุฒ ล้อเหล็ก ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์

ในปี 2523 ได้มีเจ้าของยิมในฝรั่งเศส เดินทางมาติดต่อให้ไปสอนมวยไทยที่กรุงปารีส ผุดผาดน้อยตอบตกลงโดยไม่ลังเล และกลายเป็นครูมวยไทยคนแรกในยุโรป เมื่อฝรั่งนายจ้างจะขึ้นป้าย THAI BOXING หน้ายิม เขาค้านและยืนยันให้ใช้ชื่อ MUAY THAI ยิมนี้จึงมีชื่อ "FRANCE MUAY THAI" และกีฬาประจำชาติไทยนี้ก็ได้รับการเรียกขาน "มวยไทย" โดยฝรั่งนับแต่นั้น ไม่นานต่อมามีค่ายมวยไทยผุดขึ้นเต็มฝรั่งเศส และขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป ผุดผาดน้อยเป็นครูมวยไทยในฝรั่งเศสอยู่ 23 ปี ก่อนเดินทางไปเป็นครูมวยไทยสมัครเล่นให้ทีมชาติสวีเดน 3 ปี ทีมชาติฟิลิปปินส์อีก 2 ปี และกลับมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ต้นปี 2553

เมื่อปี 2539 ได้เปลี่ยนชื่อ "ผ่อน ออมกลิ่น" เป็น "ผุดผาดน้อย ออมกลิ่น" มีบุตรสาวกับอดีตภรรยาชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรีย 1 คน ชื่อ "น้อยหน่า" อนุตรา ออมกลิ่น เกิดเมื่อปี 2524 น้อยหน่าแต่งงานกับหนุ่มเยอรมัน มีหลานสาวให้คุณตาไปเมื่อปลายเดือนมกราคม 2554 และในโอกาสที่เขาจะมีอายุครบ 60 ปีในเดือนมิถุนายน ปี 2554 ก็ได้ออกพ็อกเก็ตบุ๊กชีวประวัติ ชื่อ "ไวน์ชีวิต 60 ปี ผุดผาดน้อย วรวุฒิ" เรียบเรียงโดย วิฑูรย์ รักปลอดภัย อดีตนักข่าวที่พบเจอกันขณะลงเรือลากจากสวีเดนมายังประเทศไทยเมื่อปี 2550 เพื่อลากเรือดำน้ำสงครามเย็นของอดีตสหภาพโซเวียต ซื้อโดยพิพิธภัณฑ์ยานพาหนะ "เจษฎาเทคนิคมิวเซี่ยม"

เมื่อปี 2528 มิสเตอร์แตงโม ได้ทำเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งในโอกาสครบรอบ 300 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - ฝรั่งเศส มีเนื้อหายกย่องผุดผาดน้อย ชื่อเพลง หมูแข้งทอง มีสไตล์การร้องเร็วแบบแร็พ ซึ่งว่ากันว่าเป็นเพลงแร็พเพลงแรกของไทย

Credit: วิกิพีเดีย
7 เม.ย. 54 เวลา 06:16 4,947 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...