เริ่มต้นปฏิบัติการ สำรวจทะเลสาปใต้ธารน้ำแข็งวอสต็อก คาดว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์

ใหม่อาศัยอยู่ รวมถึงซากสิ่งมีชีวิตเมื่อ 15 ล้านปีที่แล้ว

นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเริ่มปฏิบัติการขุดเจาะมหาสมุทรแอนตา ร์กติก ที่ขั้วโลกใต้

เพื่อเก็บตัวอย่างของน้ำทะเลที่อยู่ก้นมหาสมุทร ซึ่งถูกชั้นน้ำแข็งปกคลุมไว้ จนกลายเป็น

สถานที่ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน โดยนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตสาย

พันธุ์ใหม่อาศัยอยู่ รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตเมื่อ 15 ล้านปีก่อนด้วย

สัปดาห์ก่อน ทีมนักวิทยาศาสตร์เริ่มตั้งแคมป์ ที่ทะเลสาปวอสต็อก หนึ่งในทะเลสาปใต้

ธารน้ำแข็งที่ลึกที่สุด กว้างที่สุด ในบรรดาทะเลสาปใต้น้ำแข็ง 150 แห่งในมหาสมุทรแอ

นตาร์กติก เพื่อติดตั้งฐานขุดเจาะ ซึ่งอาจต้องขุดลึกถึง 3,750 เมตร กว่าจะถึงก้น

มหาสมุทร และปฏิบัติการนี้อาจไม่สำเร็จได้ง่ายๆ เพราะทีมงานต้องรอให้สิ้นสุดฤดูหนาว

ก่อน ถึงจะปฏิบัติงานได้อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากทะลสาปวอสต็อกคือสถานที่ที่

หนาวที่สุดในโลก โดยมีอุณหภูมิติดลบ 89.2 องศาเซลเซียสจากการบันทึกไว้ในปี 2526

ซึ่งนายวาเลรี ลูกิน นักวิทยาศาสตร์จาก Russia's Arctic and Antarctic Research I

nstitute ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้ จะเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพ

อากาศที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดในโลกเคยเผชิญหน้ามาก่อน

ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์เคยสำรวจชั้นน้ำแข็งบริเวณทะเลสาปวอส ต็อกมาแล้วครั้ง

หนึ่ง โดยนายวลาดิมีร์ ลิเปนกอฟ หัวหน้าทีมนักธรณีวิทยาน้ำแข็งและธารน้ำแข็ง กล่าวว่า

พวกเขาเคยใช้เครื่องมือในการทำเหมืองมาขุดเจาะชั้นน้ำแข็งลึกลงไปประมาณ 3,500

เมตร ซึ่งเกิดขึ้นในยุคที่โลกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และขณะนี้ ทีมนักวิจัยมีตัวอย่างของชั้น

น้ำแข็งดังกล่าวขนาด 180 เมตร รอการทดสอบอยู่

การสำรวจมหาสมุทรแอนตาร์กติกา เริ่มต้นมาจากการค้นพบทะเลสาปใต้ธารน้ำแข็ง จาก

ภาพถ่ายทางดาวเทียมในปี 2533 ซึ่งเป็นการจุดประกาย ให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต้อง

การสำรวจดินแดนนี้ ซึ่งเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯและอังกฤษกล่าวว่า ทะเล

สาปใต้ธารน้ำแข็งบางแห่งในมหาสมุทรแอนตาร์กติก มีอุณหภูมิที่สูงกว่าทะเลสาปน้ำแข็ง

ทั่วๆไป เพราะ มีระดับความลึกใกล้กับแกนกลางของโลก ดังนั้น น้ำในทะเลสาปจึงไม่

เปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง