หนังสือพิมพ์ของกองทัพประชาชนเวียดนามรายงานว่า รถถังยูเครนที่กองทัพไทยซื้อเป็นรุ่น T-84 "โอพลอต" ไม่ใช่
T-92 ตามที่มีรายงานในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อการพัฒนาทางด้านการป้องกัน
ประเทศของไทย.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ — สื่อของกองทัพเวียดนามให้ความสนใจข่าวเกี่ยวกับ
กองทัพไทยซื้อรถถังหลัก จากสาธารณรัฐยูเครน จำนวน 200 คัน เพื่อนำเข้า
ประจำการแทนรถถังรุ่นเก่าที่ผลิตในสหรัฐฯ และใช้งานมานานหลายสิบปีแล้ว และ
ยังระบุด้วยว่ารถถังที่ไทยตัดสินใจเลือกเป็น T-84 “โอพลอต” ไม่ใช่ T-92
เป็นที่ทราบกันดีว่า การจัดซื้อรถถัง 200 คันนี้ อยู่ในแผนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
ในระยะ 10 ปี ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล หนังสือพิมพ์กวานโดยเญินซเวิน (Quân đội
Nhân dân) หรือ “กองทัพประชาชน” รายงานในฉบับวันจันทร์ 28 มี.ค.นี้ อ้างข้อมูลจาก
วงการค้าอาวุธ
หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในกรุงเทพฯ รายงานก่อนหน้านี้ 2 วัน ระบุว่า ไทยได้
ตัดสินใจซื้อ T-92 “โอพลอต” ซึ่งยังไม่มีการผลิต
ก่อนจะตัดสินใจเลือก T-84 กองทัพไทยได้พิจารณารถถังหลัก หรือ MBT (Main
Battle Tank) ที่ผลิตในประเทศอื่นจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง K-1 ซึ่งกองทัพเกาหลีใต้พัฒนา
ต่อจากรถถัง “เอบรามส์” ของสหรัฐฯ T-90 จากรัสเซีย และ ลีโอพาร์ด-2A4 ของเยอรมนี
การตัดสินใจเลือก T-84 “โอพลอต” ก็เนื่องจากรถถังยูเครนมีราคาถูกกว่า และมี
ประสิทธิภาพสูง กองทัพไทยจ่ายเพียง 7,000 ล้านบาท (232 ล้านดอลลาร์) สำหรับ 200
คัน กวานโดยเญินซเวิน กล่าว
กองทัพไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่อีกรายหนึ่งของอุตสาหกรรมกลาโหมแห่งยูเครน ก่อน
หน้านี้ไทยได้เซ็นสัญญาซื้อยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BTR-3E1 จำนวน 96 คัน มูลค่า
123 ล้านดอลลาร์ และคาดว่า จะสั่งซื้อเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งในอนาคต
รถถัง T-84 พัฒนาจากต้นแบบรุ่น T-80UD รถถังหลักที่ผลิตในยุคสหภาพโซเวียต
ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ซึ่งยูเครนเป็นรัฐหนึ่งในนั้น และ T-84 เริ่มเข้าประจำการในกอง
ทัพยูเครนมาตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงรุ่น Oplot-M
T-84 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1,200 แรงม้าหุ้มเกราะ ความเร็วสูงสุด 65 กม./ชม.ระยะ
ปฏิบัติการ 540 กม.ติดปืนใหญ่ 125 มม.ติดขีปนาวุธต่อสู้รถถังที่ยิงจากลำกล้อง และติด
ปืนกลอีก 2 ขนาดคือ 62 กับ 12.7 มม.
ไม่เพียงแต่กองทัพไทยเท่านั้นที่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสาธารณรัฐยูเครน ปลายปี
ที่แล้วกัมพูชาก็ได้รับส่งมอบรถถัง T-55 กับยานลำเลียงพล ที่ซื้อจากยูเครนเช่นกัน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ “กองทัพประชาชน” พลโทอาวุโสเหวียนฮวีเฮียว
(Nguyễn Huy Hiệu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เพิ่งเดินทางไปเยือน
ไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-26 มี.ค.ที่ผ่านมา
คณะของ รมช.กลาโหมเวียดนาม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.
กลาโหมของไทย และไปเยี่ยมชมกิจกรรมการกู้วัตถุระเบิดสมัยใหม่ และแสดงความ
ประสงค์ที่จะขอศึกษาเรื่องนี้่จากกองทัพไทย ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติ
ศาสตร์และวัฒนธรรมอีกจำนวนหนึ่ง
พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความยินดีกับฝ่ายเวียดนามที่จัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม
อาเซียนอย่างประสบความสำเร็จในเดือน ต.ค.2552 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการนำรัฐมนตรี
กลาโหมสหรัฐฯ จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งอินเดีย มาพบกันในเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนมีผลประโยชน์ในภูมิภาค และต่างก็เป็นคู่กรณีกันไม่ทางใดก็
ทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ฝ่ายเวียดนามได้ยื่นหนังสือเชิญจาก พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phùng
Quang Thanh) รมว.กลาโหมเวียดนาม ให้ รมว.กลาโหมไทยไปเยือนเวียดนามอีกด้วย
“กวานโดยเญินซเวิน” กล่าว
"โอพลอต" In Action