ยังคงมีการค้นพบประชากรใหม่อยู่เรื่อยๆ ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง และ ชั่วเวลาข้ามเดือนมานี้นักวิทยาศาสตร์ได้ประกาศการพบประชากรใหม่อีก 2 ชนิด เป็นงูเขียวหางไหม้กับคางคกแคระ ที่มีรูปร่างหน้าตาหน้าตาประหลาดยิ่ง ทั้งหมดพบในป่าเขตเขาของเวียดนาม ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ออสเตรเลียนและเวียดนาม ได้ประกาศการค้นพบคางคกดังกล่าวในเขตป่าลางเบียน (Lang Bian) จ.เลิมโด่ง (Lam Dong) ในเขตที่ราบสูงภาคกลางของประเทศ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500-1,900 เมตร และพบจำนวนหนึ่งในเขตป่า จ.แค๊งฮวา (Khanh Hoa) ที่อยู่ติดกันด้วย
คางคกที่มีหน้าตาเหมือนมาจากดาวพระเคราะห์ดวงอื่น ยังมีเท้าเป็นพังผืด นิ้วเท้ายาวและมีนัยน์ตาขาวยาวรี แบบ "เอเชียนอายส์" (Asian eyes) มีลายปล้องตามขาทั้ง 4 ข้างและ มีสันตามแนวยาวบนหลังเจ้าตัวเล็กที่ได้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Leptobrachium leucops มีลำตัวยาวเพียง 4.5 ซม. เท่ากับแมงทับตัวโตๆ นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาวงจรชีวิตของสมาชิกใหม่ตัวนี้ ตลอดจนอาหารการกินและนิสัยใจคอของมัน ปัจจุบันทราบเพียงว่าเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน ซึ่งทำให้มันเล็ดรอดสายตาของเพื่อนร่วมอนุภูมิภาคมาตลอด
ไม่นานก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มเดียวกันนี้ได้ประกาศการค้นพบ "ปาดแดร็กคิวล่า" (Rhacophorus vampyrus or Vampire Tree Frogs) ที่ผสมพันธุ์และออกไข่ในโพรงที่มีน้ำขังบนต้นไม้สูง เจ้าตัวเล็กที่เกิดมาจะมีเขี้ยวงอกออกมาทั้งสองข้างแบบเดียวกับท่านเค้าท์ในตำนานแห่งทรานซิลเวเนีย ปาดพวกนี้ยังสามารถ "บิน" หรือร่อนไปมาระหว่างต้นไม้ใหญ่ได้อีกด้วยแต่นอกเหนือไปจากนี้แล้วนักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีรายละเอียดโดยสิ้นเชิง
สัปดาห์ปลายเดือน มี.ค.นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบานกอร์ (Bangor University) สหราชอาณาจักร ได้ประกาศการค้นพบงูเขียงหางไหม้ชนิดใหม่ที่อาศัยในป่าชายแดนเวียดนาม-กัมพูชา หลังจากถูกละเลยมานาน โดยทุกฝ่ายเข้าใจกันว่า มันเป็นชนิดเดียวกับเจ้าหางไหม้ตาโตนัยน์ตาเหลือง (Cryptelytrops macrops) อย่างไรก็ตามเจ้าตัวที่พบใหม่นี้มีนัยน์ตาสีแดงฉานเป็นสีเลือด (Cryptelytrops rubeus) และ มีนิสัยดุร้ายกว่าเครือญาติในย่านเดียวกัน การพิสูจน์ทางยีนส์วิทยาทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกมันออกจากเจ้าตาโตได้
หลายปีมานี้นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกกับนักวิทยาศาสตร์ในอนุภูมิภาค ได้ร่วมกันศึกษาและค้นพบประชากรใหม่ๆ หลายชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาย สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์น้ำและสัตว์ปีก ซึ่งรวมทั้งตุ๊กแกชนิดใหม่ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์ฮอลลีวูด และ กบอีกชนิดหนึ่งที่เคยพบเมื่อกว่า 100 ปีก่อนในภาคใต้เวียดนาม แต่กลับมาพบใหม่อีกครั้งในเขตที่ราบสูงภาคกลาง อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงยังเป็นดินแดนที่มีความสมบูรณ์ทางชีวะนานาพันธุ์มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในโลก มีระบบป่าเขตร้อนชื้นกับระบบแม่น้ำที่สลับซับซ้อน
ปีที่แล้วนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งได้ค้นพบพืชจำพวกหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดใหม่ที่มีรูปร่างประหลาดคล้ายอวัยวะเพศชาย และยังเป็นพันธุ์ที่อดทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดีกว่า โดยฝังลำต้นเอาไว้ในดิน โผล่ออกมาเพียงส่วนที่เป็นหม้อรูปร่างประหลาด คอยล่อจับแมลง.
หน้าตาประหลาดล้ำแต่หล่อเหลาใช้ได้ นี่คือเจ้า Leptobrachium leucops ประชากรใหม่ล่าสุด ที่มีเอกลักษณ์ของเอกบุรุษอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยน์ตาแบบ Asian Eyes สันบนหลัง และนิ้วท้าวที่ยาวมากกว่าคางคกทุกตัวที่พบในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง
เจ้าปาดตัวโตนี้หมดทางสู้ หลังจากเจ้า Cryptelytrops rubeus ฝังเขี้ยวพิษลงบนหัวจนจมมิด ฆ่าชีวิตหนึ่งเพื่อให้อีกชีวิตหนึ่งอยู่รอดเป็นกฎแห่งป่า แสงไฟแฟลชทำให้นัยน์ตาของมันเปลี่ยนไปจากสีแดง นี่คือประชากรใหม่รายที่ 2 ในชั่วเวลาข้ามเดือน
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ ถึง 163 ชนิดในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง แห่งดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดนั้นกลับตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงสภาวะโลกร้อน ทั้งนี้เป็นการรายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF)
ติดตามอ่านรายละเอียดที่นี่...
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000113376
จากภาพตุ๊กแกลายเสือดาว หน้าตาราวกับว่า มาจากต่างจักรวาลอันไกลโพ้น พบในเขตป่าสงวนแห่งชาติเกาะก๊าตบ่า (Cat Ba) ติดเขตอ่าวฮาลอง ใน จ.กว๋างนีง (Quang Ninh)
ประหลาดซ้อนประหลาด กบมีเขี้ยว แถมยังนิยมเปิบพิสดารจับนกกินนกเป็นอาหาร WWF กล่าวว่า พบในป่าสงวนแห่งหนึ่งของไทย อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงมีความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ยิ่ง แต่ทั้งหมดกำลังถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
กบจริงๆ ไม่ใช่พวกตัวปาด ผิวขุขระ อาศัยตามต้นไม้ พบในเขตเขาเจืองเซิน (Truong Son) ชายแดนเวียดนาม-จีน เมื่อปีที่แล้ว WWF เผยแพร่ภาพนี้ในวันศุกร์ (25 ก.ย.25552)
ตีนเป็นพังผืดว่ายน้ำได้ แต่หางเป็นพวงเหมือนกระรอก เคยเชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อสัก 11 ล้านปีก่อน เพราะพบซากดึกดำบรรพ์ของญาติๆ ในแถบตอนใต้ของจีน แต่จู่ๆ เมื่อปี 2550 "ตัวขะหยุ" หรือ "ข่าหนู" ก็โผล่ออกมาให้ชาวโลกได้เห็นอีกครั้งในเขตเขาหินปูน แขวงคำม่วนของลาว จำนวนไม่น้อยถูกจับไปทำหนูย่างในตลาดส
ภาพของ WWF ถ่ายในปี 2551 เป็นงูพิษลายเสือจากเกาะเหิ่นเซิน (Hon Son) เมืองแหร็ก-หยา (Rach Gia) จ.เกียน-ซยาง (Kien Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงของประเทศ
ภาพของ WWF ถ่ายในปี 2551 เป็นอสรพิษร้ายลายเสืออีกตัวหนึ่ง จากเกาะเหิ่นเซิน (Hon Son) เมืองแหร็ก-หยา (Rach Gia) จ.เกียน-ซยาง (Kien Giang) เช่นกัน
ตุ๊กแกลายเสืออีกตัวมาจากป่าสงวนแห่งชาติก๊าตบ่า เช่นเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้ยังค้นพบตุ๊กแกหน้าตาประหลาดๆ อีกหลายชนิดในเขตเขา ทั้งในภาคใต้และภาคเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบหม้อข้าวหม้อแกงลิงในเขมรที่มีรูปลักษณ์เร้าใจ พืชกินแมลงชนิดใหม่พบในป่าเขมร
ภาพโดย Jeremy Holden จากเว็บไซต์ ScienceDaily เจ้าหน้าที่กัมพูชากำลังมองดูพืชกินแมลงตระกูลหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดหนึ่งในบรรดาหลากหลายชนิด ที่ขึ้นในป่าเทือกเขากระวัญ (Phnom Kravanh) ทางตะวันตกเฉียงใต้กัมพูชา ซึ่งเป็นดินแดนที่ยังมีความสมบูรณ์ทางชีวะนานาพันธุ์สูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักวิทยาศาสตร์จากหลายองค์กรและหน่วยงานยังคงค้นพบชนิดใหม่อยู่เรื่อยๆ ทั้งพืชและสัตว์ป่า
ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000162636
ภาพโดย Jeremy Holden จากเว็บไซต์ ScienceDaily มีการค้นพบใหม่ๆ มากมาย แต่ก็ยังไม่เคยมีหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดใดมีรูปลักษณ์น่าทึ่งเช่นนี้มาก่อน นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวอีกว่า เจ้า Nepenthes holdenii ที่พบใหม่นี้ ยังมีวิวัฒนาการไปมากกว่าญาติพี่น้องของมันในป่าเทือกเขากระวัญ (Phnom Kravanh) ทั้งหมด ที่นั่นเป็นดินแดนที่ยังมีความสมบูรณ์ทางชีวะนานาพันธุ์สูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภาพจากวิกิพีเดีย เป็นตระกูลหม้อข้าวหม้อแกงลิงเหมือนกัน แต่ต่างชนิดกัน เจ้าตัวนี้ได้ชื่อใหม่เรียบร้อยแล้ว คือ Nephentes edwardsiana ในป่าพนมกระวัญยังมีให้ค้นหาอีกเยอะ นักวิทยาศาสตร์กล่าว
ภาพจากวิกิพีเดีย ต้นนี้เป็นตระกูลหม้อข้าวหม้อแกงลิงเหมือนกัน ถูกจัดเป็นเครือญาติใกล้ชิดกับ Nepenthes holdenii ที่ค้นพบใหม่ ดูสวยงามกว่า แต่ไม่มีอะไรประหลาด ในป่าพนมกระวัญยังมีให้ค้นหาอีกเยอะ นักวิทยาศาสตร์กล่าว
คลิกไปดูหม้อข้าวหม้อแกงลิงอีกมากมาย