ในปี ค.ศ.1890 ที่เมืองแมสซิก นาดี แคว้นคาลาเบรีย อิตาลี เกิดฝนตกลงมีแดง เมื่อนำ
ไปพิสูจน์ดูพบว่ามันเป็นเลือดของนก ซึ่งตอนนั้นมีการสันนิษฐานว่านก ที่กำลังบินอพยพ
เกิดไปเจอลมแปรปรวน จนร่างนกเหล่านั้นฉีดขาดและเลือดปลิวกระจายเหมือนฝน
แต่ปัญหาที่ตามมาคือ หากเป็นเช่นนั้นจริง แต่ทำไมถึงไม่มีเนื้อหนังหรือกระดูกหล่นมาให้
เห็นด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถึงบันทึกในวารสารวิทยาศาสตร์ Popular Science News
ฉบับ 35 (ไม่ทราบปีพิมพ์)
วันที่ 1 กันยายน 1969 ที่ฟาร์มของเจ.ฮันดันสัน ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่แคลิฟอร์เนีย
เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน เพียงแต่คราวนี้มีเศษเนื้อปลิวลงมาด้วยนานถึงสามนาที ซึ่ง
สันนิษฐานว่าจะเป็นเนื้อของเหยื่อที่ล่ามาได้แล้วบินผ่านไป
17 สิงหาคม 1841 ที่ไร่ยาสูบในเมืองเลบานอน รัฐเทนเนสซี เวลาเที่ยงวัน จู่ๆ มีเมฆ
ประหลาดลอยผ่านบริเวณนั้น แล้วมีฝนตกลงมาพร้อมเศษเนื้อและไขมันยาวประมาณ
1.58 นิ้ว กลิ่นแรงมาก บทความถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Ameican Journal of Science
ฉบับ ที่ 44
แต่เหตุการณ์ที่น่าพิศวงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2001 ที่อินเดีย เมืองเกราลา ในช่วงเดือน
กรกฎาคมถึงกันยายน ที่เดียวกับมหาลัยมหาตมะ คานธี โดยฝนมีลักษณะคล้ายกับเลือด,
สีเหลืองเขียว และสีดำ ซึ่งฝนเหล่านี้ตกเหมือนฝนทั่วๆไป และมีฟ้าผ่าตามมา จากการ
ตรวจสอบพบว่าฝนแดงเหล่านี้มีเซลล์บางอย่างที่เหมือนกับเป็นเซลล์สิ่งมีชีวิต หากเรื่อง
พิศวง คือเมื่อทำการตรวจสอบโดยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คทรอนที่มีกำลังขยายหลายหมื่นเท่า
พบว่าโครงสร้างเซลล์นั้นประกอบด้วยคาร์บอนและออกซิเจน แต่ไม่ปรากฏ DNA แต่อย่างใด
จนทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเซลล์เหล่านี้ไม่ใช้เซลล์ที่อยู่บนโลก หรือคือสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่
จากนอกโลกที่มาพร้อมกับดาวหาง หรือเข้ามาบนโลกพร้อมเศษอุกาบาตก็เป็นไปได้….