ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 15.40น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยเต๋อโจว ในมลฑลซานตง (ชานตุง) ประเทศจีน ได้มีเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กสีแดงลำหนึ่งลงจอดกลางสนามหญ้าของมหาวิทยาลัย โดยเสียงเครื่องยนต์และใบพัดที่ดังกระหึ่มของเฮลิคอปเตอร์ได้สร้างความตื่น ตระหนกให้กับบรรดานักศึกษาของวิทยาลัย โดยหลังจากเฮลิคอปเตอร์สีแดงลงจอดก็มีชายในชุดดำผู้หนึ่งเดินลงมาพร้อม โทรศัพท์แนบหู และหลังจากนั้นไม่นานก็มีนักศึกษาสาวผู้หนึ่งวิ่งมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และบินจากไป
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว มีนักศึกษาของวิทยาลัยเต๋อโจว บางส่วนได้ควักโทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อมาบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ได้ และหลายวันต่อมาได้นำมาเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของจีน ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับชาวจีนเป็นอย่างมาก โดยมีรายงานว่าภายในเวลา 12 ชั่วโมง ที่วิดีโอคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Youku.com ก็มีผู้เข้าชมกว่า 1.2 ล้านครั้ง
ทั้งนี้ชาวเน็ตจีนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่า หากกรณีนี้เป็นกรณีที่พ่อแม่ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับลูกที่เป็นนักศึกษากลับ บ้านก็สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมความฟุ่มเฟือยของบรรดาเศรษฐีในเมืองจีน ขณะที่บางส่วนนินทาว่ากรณีนี้อาจจะเป็นมหาเศรษฐีจีนส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ “ภรรยาน้อย” ที่เป็นนักศึกษา หรือ ลูกมหาเศรษฐีขับเฮลิคอปเตอร์ (富二代; Wealthy second-generation) มารับแฟนสาวไปกินข้าวก็เป็นได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวของมณฑลซานตงได้พยายามสืบเสาะว่า เรื่องราวดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร และหญิงสาวคนที่ว่าเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเต๋อโจวจริงหรือไม่ โดยเมื่อวันอังคารที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมาสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ทางวิทยาลัยเต๋อโจวได้เรียกประชุมบุคลากรเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
ผลการประชุมสรุปว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยจริง ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็เป็นเฮลิคอปเตอร์ของบริษัทการเกษตรแห่งหนึ่ง ในเมืองเต๋อโจว ซึ่งบิดาส่งมารับบุตรสาวกลับบ้าน โดยก่อนหน้าที่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวจะลงจอดในวิทยาลัยก็เพิ่งไปปฏิบัติพ่น ยาฆ่าแมลงมาก่อน และแวะมารับลูกสาวกลับจากโรงเรียน โดยหญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อเล่นว่า “อาฉิง” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในหมู่นักศึกษาว่าเป็นสาวสวย
ขณะที่คนในแวดวงบันเทิงจีนตั้งข้อสังเกตว่า กรณีดังกล่าวอาจมีเบื้องหลังคือ อาจเป็นบันไดขั้นแรกในการจัดฉากเพื่อโปรโมต “อาฉิง” ให้เข้าสู่วงการบันเทิงก็ได้
ชี้นโยบายจีนส่งเสริมเครื่องบินส่วนตัว
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน 2553 สื่อจีนและสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานว่า รัฐบาลและคณะกรรมการกลางการทหารของรัฐ ได้มีจดหมายเวียนระบุว่า “จีนจะค่อยๆ เปิดน่านฟ้าบางส่วนที่ระดับต่ำกว่า 1,000 เมตร ให้กับสายการบินเอกชน เพื่อส่งเสริมภาคการบินทั่วไปของประเทศ”
ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่า การปฏิรูปมาตรการการบินในน่านฟ้าระดับล่าง จะส่งเสริมให้ผู้คนมีเครื่องบินส่วนตัวมากขึ้น และให้การส่งเสริมภารกิจการบินพลเรือนอื่นๆ อาทิ การบรรเทาภัยทางอากาศ การขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ เป็นต้น ส่วนข้อมูลของนิตยสารฟอร์บส์ก็ระบุว่า ขณะนี้จีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐีระดับพันล้านมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ หลายฝ่ายจึงมองว่า ตลาดการบินภาคเอกชนและการบินเพื่อการท่องเที่ยวของจีนจะมีศักยภาพในระยะยาว