“รักมั้ยคะ” นางเอกเอวี..โยโกะ ซันจิกิ
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
2 เมษายน 2554 02:08 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ซูฉี + มิยาบิ นางแบบแนวเซ็กซี่ ที่โยโกะต้องดูเป็นต้นแบบสาวเอวี
ประกบคู่กับสองหนุ่มหล่อ ธันวา, บอม ในภาพยนตร์ 'เลิฟซัมเมอร์'
เคยทำงานเป็นพริตตี้ของฮุนได งานมอเตอร์โชว์
เปล่านะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเธอเป็นนางเอกหนังโป๊เอวีจากแดนอาทิตย์อุทัย แต่เธอกำลังสวมบทบาทเป็น “มิยาบิ” นางเอกเอวีชื่อดังในภาพยนตร์เรื่องใหม่ “เลิฟซัมเมอร์” ซึ่ง กำลังเปิดกล้อง เธอต้องใส่ชุดบิกินี โชว์เซ็กซี่สุดแรง แม้หนังยังไม่ฉายแต่ชื่อของ โยโกะ ซันจิกิ ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นคนนี้ฮอตอยู่ในกระแสออนไลน์ เธอเป็น “เจ้าแม่บล็อก Multiply” ที่มีช่างภาพถ่ายรูปเธอเก็บไว้มากที่สุดคนหนึ่ง ไม่เชื่อลองเสิร์ชชื่อเธอดูสิ! จะปรากฏภาพเซ็กซี่ น่ารัก สดใส อยู่เป็นร้อยๆ ภาพ ชีวิตจริงเธอไม่ได้เซ็กซี่อย่างเดียว เรียนจบอักษรศาสตร์ ศิลปากร มีฝันเล็กๆ ที่หนุ่มๆ ต้องติดตามกัน
M-Lite ไม่พลาดที่ จะนัดคุยกับนางเอกสาวสวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เพื่อที่จะทำความรู้จักกับเธอมากขึ้น เสน่ห์ของสาวคนนี้อยู่ที่ใบหน้าสวยได้รูป นัยน์ตาเซ็กซี่ และมีรอยยิ้มสดใสจีบปากนิดๆ เผยลักยิ้มแก้มบุ๋ม น่ารักสุดๆ เราพบกับเธอเป็นครั้งที่สอง หลังจากได้เจอเธอครั้งแรกในวันทำพิธีบวงสรวงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ที่เธอกำลังจะมีคิวถ่ายทำในเดือนเมษายน วันนี้เธอสวมชุดเสื้อสายเดี่ยวลายดอกไม้ สวมกางเกงยีนส์ เป็นชุดสบายๆ ที่ดูสดใส เธอสั่งเครื่องดื่มเป็นน้ำช็อกโกแลตปั่นแก้วโตพร้อมทั้งเอ่ยว่า “ลองไหมคะ อร่อยนะคะ” เธอชักชวนแบบแก้เขิน สังเกตว่าเธอดูประหม่า และยังเกร็งนิดๆ ในการตอบคำถาม คงเป็นเพราะเธอตื่นเต้น และยังรู้สึกใหม่กับวงการฯ นี้อยู่มาก
โล่งใจ..คุณพ่อชาวญี่ปุ่นปลอดภัย
จากการพูดคุยก็ทำให้ทราบว่าคุณพ่อของ เธอเป็นชาวญี่ปุ่น ทำงานเป็นพนักงานบริษัทอยู่ที่เมืองชิบะ และวันที่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่น ตรงกับวันที่เธอต้องเข้าพิธีบวงสรวงหนังเรื่องใหม่พอดี เธอมาทราบข่าวเอาก็ตอนเย็นแล้ว และพยายามติดต่อคุณพ่ออยู่หลายวัน จนในที่สุดก็ทราบว่าคุณพ่อเธอปลอดภัยดีแล้ว
"คุณ พ่อปลอดภัยดีค่ะ อยู่ที่บริษัท วันที่เกิดเหตุการณ์เป็นวันเดียวกับวันบวงสรวงฯ โยเพิ่งรู้ข่าวตอนเย็น ก็รีบโทร.ไปหาคุณพ่อเลยค่ะ ช่วงแรกติดต่อไม่ได้เลยสัญญาณที่นู่นขาดหาย คุณแม่ก็ตกใจมาก เพราะเห็นจากในข่าวเกิดเหตุการณ์รุนแรงมาก ทั้งแผ่นดินไหว ทั้งสึนามิ รถไหลอย่างกับของเล่น พอติดต่อได้เราก็ถามว่าคุณพ่อว่า เป็นยังไงบ้างท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง แต่ท่านก็เล่าให้ฟังว่าตกใจมาก คนส่วนใหญ่ก็ยังตกใจกันอยู่ และบอกว่าอีกนานกว่าประเทศญี่ปุ่นจะฟื้นก็น่าจะประมาณ 4-5 ปีเลยค่ะ มีคนสูญหายเป็นหมื่นๆ
ส่วนเรื่องงานคุณพ่อบอกว่าไม่มีปัญหา เมืองที่คุณพ่ออยู่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไร มีกระทบเรื่องแผ่นดินไหวข้าวของหล่นลงมา ตอนนี้เราทราบว่าท่านปลอดภัยก็โล่งใจค่ะ แต่ก็ยังเป็นห่วงคุณพ่อมาก แต่ก็มองว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ แล้วประเทศญี่ปุ่นก็มีศักยภาพในการรับมือได้ดี ปีหน้าโยวางแผนไว้ว่าจะไปเยี่ยมคุณพ่อที่นู่นค่ะ โยไม่กลัวนะคะ คิดว่าสิ่งต่างๆ ถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
ฝันอยากเป็นแอร์ฯ จะได้บินไปหาพ่อบ่อยๆ
สาวโยโกะ เกิดและโตที่ประเทศไทย เรียนโรงเรียนไทยมาตลอด ตอนเด็กจึงมักโดนเพื่อนๆ ล้อเกี่ยวกับชื่อของเธอเพราะแปลกกว่าคนอื่น บ้างก็ตั้งชื่อใหม่ต่อท้ายให้เธอว่า โยโกะเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเธอมองว่าเป็นเรื่องตลกขำๆ ซะมากกว่า เรียกว่าถูกแซวบ่อยจนเธอชินแล้ว
"โยเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นค่ะ เกิดที่ประเทศไทย รพ.บำรุงราษฎร์ คุณ พ่อเป็นคนญี่ปุ่นชื่อ ฮิโรซารุ ซันจิกิ ทำงานเป็นพนักงานบริษัทอยู่ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ท่านเป็นคนตั้งชื่อให้โยว่าโยโกะ แปลว่า "ทะเลสีฟ้า" ส่วนคุณแม่อยู่ที่ไทยค่ะ เมื่อก่อนเคยเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้คุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดี ก็เลยมาอยู่บ้าน
ด้วยความที่เราเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ตอนเด็กๆ ก็มีเพื่อนๆ มาล้อบ้างค่ะ ล้อเราว่า โยโกะเอนเตอร์เทนเมนต์ (หัวเราะ) ก็ตลกดี ขำๆ ค่ะ ช่วงนั้นมีบริษัทชื่อเดียวกับโยก็เลยโดนล้อ ชื่อนี้มันก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อดีคือเพื่อนๆ จะจดจำได้เพราะเราชื่อแปลก เพื่อนก็จะเข้ามาสนใจว่าทำไมเราชื่อโยโกะ เขาก็จะถามว่าเป็นคนญี่ปุ่นเหรอ ก็ทำให้เราสามารถเข้ากับเพื่อนได้ ก็เลยกลายเป็นเป็นเรื่องที่เราชินมากกว่าค่ะ”
แม้ว่าจะมีคุณพ่อเป็นคนญี่ปุ่น และสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นสนทนากับคุณพ่อได้ระดับหนึ่ง แต่พอโตขึ้นมาเธอก็เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม เพราะคิดว่าจะได้มีโอกาสทำงานที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาญี่ปุ่น และแอบหวังว่าในอนาคตจะได้ไปบินไปหาคุณพ่อที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยขึ้น
“เพิ่ง เรียนจบคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น โทบรรณารักษ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่เลือกเรียนคณะนี้ก็เพราะว่าคุณพ่อเป็นคนญี่ปุ่น เราก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ สื่อสารได้ตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อพูดกับเราเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็ได้มาเรียนเขียน-อ่านเพิ่มเติมตอนโต จริงๆ โยชอบภาษามาตั้งแต่เด็ก เรียนสายศิลป์มาตั้งแต่ ม.ปลายแล้ว ก็เลยเลือกเรียนเกี่ยวกับภาษา แล้วที่เลือกเรียนเอกภาษาญี่ปุ่น ก็คิดว่าภาษาญี่ปุ่นมันสามารถต่อยอดได้ ไม่ว่าจะติดต่อสื่อสาร ทำธุรกิจหรือทำการค้าต่างๆ ภาษาจีนกับญี่ปุ่นก็มาแรง
เรื่องงานตอนแรกก็มองไว้ว่าอยากจะเป็นล่าม หรือเป็นนักแปล แต่ งานที่ฝันอยากทำตั้งแต่เด็กๆ ก็คือ แอร์โฮสเตส คิดแค่ว่าจะได้บินไปหาพ่อได้สบาย แล้วก็เป็นอาชีพที่ดูดี ดูสวย ได้ไปนู่นไปนี่ มองว่าเป็นอาชีพที่ดีอาชีพหนึ่งเลย ตอนนี้ก็ยังอยากเป็นอยู่ เตรียมตัวสอบ TOEIC เอาไว้แล้ว พอถ่ายหนังเรื่องนี้จบ ถ้ามีสายการบินไหนเปิดรับ ก็คิดว่าจะไปสอบแอร์ฯ ค่ะ โยไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาทำงานในวงการฯ เลยค่ะ ก่อนหน้านี้โยจะไปสอบแอร์ฯ อยู่แล้ว พอดีติดหนังก็เลยยังไม่ได้สอบ”
ตัวตนอ่อนนอก...แข็งใน
ด้วยความที่คุณพ่อต้องไปทำงานที่ ญี่ปุ่นตั้งแต่เธอยังเด็ก ไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า คุณแม่จะเป็นฝ่ายที่คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดมาตลอดตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกใจที่ภายนอกโยโกะดูเป็นผู้หญิงบอบบาง ตัวเล็กๆ น่ารัก แต่ข้างในเธอกลับมีความเข้มแข็ง และสามารถทำอะไรได้เหมือนผู้ชาย
“ทุกวันนี้โยดูแลตัวเอง รถเอาเข้าศูนย์เอง เอาเข้าอู่เอง โยเป็นคนแมนนะ โยห้าว ไม่ชอบให้ใครมารับ มาส่ง ถือกระเป๋าเอง อาจจะเป็นเพราะโยอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็ก ดูแลตัวเองซะส่วนใหญ่ ก็เลยรู้สึกว่าเราทำอะไรได้เท่าเทียมกับเพศตรงข้าม
แม่โยเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ สอนให้เราเข้มแข็ง มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนนั้นโยประมาณ ป. 3 โยจูงหมาพันธุ์ลอดไวเลอร์ออกไป แล้วมันจะวิ่งไล่กัดคนอื่น มันก็ลากโยไป โยก็วิ่งตามหัวเข่าถลอกปอกเปิก กลับมาบ้านแม่ตีซ้ำ เพราะเราผิดที่เอาหมาออกไป พี่เลี้ยงทายาให้ แต่แม่โกรธ ดุเราว่าทำไมไม่มีความคิด ทำไมเอาหมาออกไป ตอนเด็กแม่ดุค่ะ แต่โตมาก็คุยกันได้หมด แม่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งนะ ทำให้โยดูเป็นแบบนี้ ไม่ค่อยเห็นคุณแม่ร้องไห้ แต่แม่โยเรียบร้อย ไม่ค่อยห้าวเหมือนโย"
การสั่งสอนของแม่ ทำให้โยเป็นสาวที่มีความคิดเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเองอย่างทุกวันนี้ "ตอน วัยรุ่นอาจจะมีหลงทางบ้าง อยากไปเที่ยว แต่ไม่ถึงขั้นไปติดยา หรือทำอะไรไม่ดี เราคิดว่าต้องรักชีวิตของเรา ถ้าเราไม่รักตัวเองก็ไม่มีใครมารักเรา ทุกวันนี้โยใช้ชีวิตให้มีความหมายและมีค่า และทำทุกวันให้เต็มที่ ทุกอย่างที่เราเจอ บวกกับคำสอนจากคุณแม่ จะสอนเราเองว่าเราควรใช้ชีวิตแบบไหน ควรทำอย่างไร เลือกคบคนดีก็พาเราไปเจอสิ่งที่ดี"
ตอนเด็กเธออาจจะเคยสงสัยว่าทำไมพ่อ แม่ไม่อยู่ด้วยกัน และเคยคิดว่าอยากให้คุณพ่อมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แต่พอโตขึ้นมาเธอก็เข้าใจ และมองว่าไม่ควรนำเรื่องของครอบครัว มาทำให้ตัวเองเป็นเด็กมีปัญหา
"ตอนเด็กๆ เคยคิดอยากให้พ่อมาอยู่ด้วยกัน แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจว่าทุกคนต้องมีวิถีชีวิตของตัวเอง ถึงพ่อไม่ได้อยู่กับแม่ แต่โยเฉยๆ มากเลย ไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อย หรือเอามาเป็นปัญหาเลย อยากบอกเด็กสมัยนี้ เลยว่าอย่าเอาเรื่องพ่อแม่ ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเป็นข้ออ้างทำให้ตัวเองเสีย เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม
โยคิดว่าโยได้จากคุณพ่อมาหลายอย่างนะ อย่างหน้าตาโยก็จะคล้ายคุณพ่อมากกว่า แล้วโยก็ชอบฟังเพลงญี่ปุ่น ชอบวัฒนธรรมของเขา การใช้ชีวิต กิจวัตรประจำวัน ความเป็นระเบียบ ความสุภาพ นอบน้อม แต่บางเรื่องโยก็รู้สึกว่าเข้มงวดมากเกินไป ก็เลยคิดว่าถ้าเอาวัฒนธรรมไทย กับญี่ปุ่นมาหารสองน่าจะดี คือไม่เอื่อยเฉื่อยเกินไป และไม่ต้องเร่งรีบเกินไป อยู่ตรงกลางของความพอดี ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่โยก็ผูกพันกับพ่อนะ รัก เป็นห่วงตลอดเวลา”
สาวโยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ทุกวันนี้เกิดมาครบ 32 เราก็พอใจแล้ว มีคนลำบากต้องดิ้นรนกว่าเราเยอะใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวันก็พออีกไม่กี่ปีโลกก็จะแตกแล้ว”
เซ็กซี่ครั้งแรกในหนัง 'เลิฟซัมเมอร์'
ก่อนหน้านี้เธอมีงานถ่ายแบบ ถ่ายภาพนิ่ง และมีงานโฆษณามาบ้าง หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาบ้างแล้ว เพราะผลงานส่วนใหญ่ของเธอมักจะถูกโพสต์ในอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเว็บบอร์ด และเว็บไซต์ของช่างภาพอย่าง Multiply.com แต่สำหรับงานในวงการบันเทิง ถือว่าเธอเป็นนางเอกหน้าใหม่ เพราะเพิ่งได้รับโอกาสแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกจากผู้กำกับหนุ่มไฟแรง 'ไตรลักษณ์ มรรคมีองค์แปด'
“มีพี่ทีมงานในหนัง เขาเห็นรูปเราจากอินเทอร์เน็ตที่เราถ่ายแบบ เห็นว่าเราน่าสนใจ ผู้กำกับก็เรียกเรามาแคสต์ ตอนเข้ามาแคสต์ เขา ก็ให้โยแสดงตามคาแร็กเตอร์ในหนังเลยเล่นเป็นสาวญี่ปุ่นพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด คาแร็กเตอร์ก็จะเป็นนางเอกหนังเอวีชื่อมิยาบิ บินมาจากญี่ปุ่นเพื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย อยากหลีกหนีจากชีวิตที่มีแต่ความวุ่นวาย แล้วก็ได้มาพบกับเพื่อนกลุ่มใหม่จากสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างธันวา บอม ใบเฟิร์น
โยคิดว่าคาแร็กเตอร์ของเราคงตรงกับ ที่ผู้กำกับเขาต้องการ เขาก็ให้เราพูดภาษาญี่ปุ่น เราก็พูดได้ก็ถือว่าได้รับโอกาส ตัวโยเองก็ชอบที่จะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ เพราะเป็นการแสดงเรื่องแรกของโยเลย ก็อยากให้ทุกคนช่วยดู สามารถติ วิจารณ์ได้เลย เพราะโยยังอ่อนต่อการแสดงมาก”
ได้ยินชื่อ มิยาบิ หลายคนอาจจะแอบสงสัยว่าจะใช่ดาราเอวีของญี่ปุ่นเลยหรือเปล่า สาวโยรีบตอบข้อสงสัยว่าเล่นเป็นมิยาบิแบบตัวจริงเลย แต่จะเซ็กซี่ได้เหมือนตัวจริงหรือเปล่า อันนี้สาวโยบอกให้ติดตามจากภาพยนตร์และให้คนดูตัดสิน
"ภาพยนตร์ เรื่องนี้ โยเล่นเป็นมิยาบิ ดาราเอวีชื่อดังของญี่ปุ่น คาแร็กเตอร์คล้ายกับมิยาบิที่หลายคนรู้จักเลยค่ะ เป็นนางแบบชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวที่ไทย ภูเก็ต หัวหิน ก็อาจจะมีฉากเซ็กซี่ ใส่บิกินี อะไรอย่างนี้ค่ะ ก็อยากให้ติดตามกันนะคะ ถ้าถามว่าโยเป็นคนเซ็กซี่ไหม ก็คงจะตอบว่าต้องพยายามทำให้เซ็กซี่มากขึ้นค่ะ"
พอถามเธอถึงความรู้สึกที่ได้มาเป็น นางเอกหนัง แถมเรื่องแรกยังได้รับบทเซ็กซี่ โชว์เรือนร่างขาวๆ ให้หนุ่มๆ เห็น เธอตอบว่ารู้สึกประหม่า และเกร็งมาก แต่เมื่อได้รับโอกาสซึ่งไม่ได้หาง่ายๆ เธอก็อยากที่จะทำให้เต็มที่
“ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะได้เล่น เพราะเราอ่อนประสบการณ์มาก ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นเลย ผู้กำกับเขาให้เราพูดภาษาญี่ปุ่นแนะนำตัว พูดชีวิตประจำวัน ให้เราลองแอ็กติ้ง เราก็ทำให้เขาดู พอบอกว่าเราได้เล่น ก็ดีใจมากเลยค่ะ
ส่วนเรื่องเซ็กซี่โยไม่ค่อยกังวลนะคะ ก็ให้พี่เขาช่วยดู ว่าเราทำได้แค่ไหน แต่ยอมรับเลยว่าประหม่ามาก ไม่มั่นใจเลยว่าภาพเราจะเซ็กซี่ออกมายังไง แต่พี่เขาก็ให้กำลังใจบอกกับเราว่า เขาเห็นว่าเราน่าจะทำได้ เราก็บอกเขาว่าให้บอกเราได้หมดเลยนะ อยากให้เราทำแบบไหน อะไรยังไง"
สาวหัดเซ็กซี่เล่าให้ฟังว่า พอรู้ว่าต้องแสดงหนังเรื่องนี้ อ่านจากบท คาแร็กเตอร์ที่ตนเองต้องแสดง จึงต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้นเยอะ โดยหาข้อมูลสาวเซ็กซี่ต้นแบบ แล้วลองนำมาปรับใช้กับคาแร็กเตอร์ของตัวเองดู
เธอหัวเราะขำๆ นิดหนึ่งแล้วเล่าว่า "เขา ให้เราไปดูว่าผู้หญิงเซ็กซี่เขาทำกันยังไง เขาอธิบายให้เราฟังว่า ผู้หญิงเซ็กซี่ไม่จำเป็นต้องไปแก้ผ้าหมด หรือไปยั่ว แค่สายตาที่มอง แค่บุคลิก บางสิ่งบางอย่างก็สามารถทำให้เราเซ็กซี่ได้แล้ว เขาก็สอนเรา เราก็ไปหาต้นแบบสาวเซ็กซี่ ก็จะมี ซูฉี ที่พลาดไม่ได้เลยก็ มิยาบิ คนที่เราจะเล่นเป็นเขา ดูว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง สายตาที่เขามองท่าทางการเดิน หรืออิริยาบถต่างๆ แล้วจำมาปรับใช้กับตัวเรา โยคิดว่าคงดึงส่วนที่เราคิดว่าทำได้มา คงไปเทียบเขาไม่ได้ เราเป็นตัวของเราดีกว่า”
'เจ้าแม่' เว็บไซต์ Multiply
หากใครเป็นนักท่องอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะหนุ่มๆ คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาสาวโยโกะเป็นอย่างดี เพราะลองเสิร์ชคำว่า Yoko Multiply จะเจอภาพของสาวโยโกะขึ้นมาเยอะมาก ทั้งแนวสดใส น่ารัก ไปจนถึงเซ็กซี่ ชุดกระต่าย ชุดพยาบาลมีหมด เรียกว่าเป็นเจ้าแม่เว็บไซต์ Multiply เลยทีเดียว แต่เธอออกตัวว่าไม่ถึงกับเป็นเจ้าแม่ คงเป็นเพราะเธอเป็นคนคุยง่าย ไม่เรื่องมาก บรรดาช่างภาพถึงให้ความสนใจ และขอนัดถ่ายรูปอยู่เสมอ
“โยคิดว่าพี่ๆ ช่างภาพเขาคงเห็นอะไรในตัวโย เริ่มจากเราเคยรับงานเป็นพริตตี้ของฮุนได งานมอเตอร์โชว์ พี่ช่างภาพเขาก็ชวนมาถ่ายพอร์เทรต ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ แต่ไม่ถึงเป็นเจ้าแม่หรอกค่ะเรียกว่าพี่เขาเมตตามากกว่า เห็น เราเป็นคนไม่เรื่องมาก แล้วก็เราชอบถ่ายรูปด้วย ชอบเป็นนางแบบให้เขาถ่าย จะให้พี่ๆ คอยสอนโพสท่า คอยถามว่าทำหน้าแบบไหนถึงจะดี แต่เขาบอกว่ารูปเราที่ดีที่สุด คือธรรมชาติ ยิ้มไปเลยไม่ต้องเกร็ง แต่เราจะเกร็งไง กลัวไม่สวย
ส่วนใหญ่รูปที่ถ่ายจะออกแนวสดใส ไปจนถึงเซ็กซี่ แต่บิกินี่ ยังไม่เคยถ่ายนะ ส่วนตัวโยชอบถ่ายแบบน่ารักสดใสค่ะ ธรรมชาติๆ แต่ถ่ายเซ็กซี่ก็ท้าทายนะ แต่ยากค่ะ พี่เขาให้ทำหน้าเซ็กซี่ โยก็ทำหน้าง่วงนอน เขาก็แซวทำไมน้องต้องทำหน้าง่วงนอนด้วย (หัวเราะ) เราก็บอกว่าเนี่ยก็เซ็กซี่ของหนู เขาก็จะขำค่ะ สนุกค่ะhพอถามว่าเธอถ่ายแบบไปประมาณกี่ครั้งแล้ว เธอยิ้มเขินแล้วตอบสั้นๆ ว่า "เยอะค่ะ"
ไม่ขอตามกระแสเกาหลี ญี่ปุ่น
มองภายนอกจะดูเป็นสาวมั่น ที่มีการแต่งตัวเป็นสไตล์ของตัวเอง แต่เมื่อได้พูดคุยกลับรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้ติดหรูหรา หรือตามกระแสแฟชั่น เหมือนที่สาวๆ สมัยใหม่นิยมตามกระแสเกาหลี ญี่ปุ่น เธอให้เหตุผลว่า เป็นคนไทยก็สวยแบบไทยๆ ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปตามกระแสแฟชั่นของต่างประเทศ เลือกดูแลความสวยให้เหมาะสมกับตัวเองจะดีกว่า
"เห็นดูห้าวๆ แบบนี้ แต่เราเป็นผู้หญิง ก็มีดูแลตัวเองเหมือนผู้หญิงทั่วไป มีขัดผิว เข้าสปาบ้าง เครื่องสำอางก็ใช้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงมาก แค่ดูว่าอะไรเหมาะกับเรา จะได้ไม่แพ้ หรือเป็นกระ เป็นฝ้า แต่โชคดีไม่ใช่ผู้หญิงผิวบาง ก็เลยไม่ค่อยแพ้อะไรง่ายๆ โยมองตัวเองว่าไม่ได้เป็นคนสวยมาก แต่โยจะชอบมองผู้หญิงสวยๆ จนเพื่อนทักว่าเราเป็นทอมหรือเปล่า เรามองว่าเขาทำยังไงถึงสวย เห็นใครน่ารักก็จะมองตาม อยากใส่แบบนั้นจัง
ไลฟ์สไตล์ของโยจะเป็นผู้หญิงปกติ ธรรมดามาก เวลาว่างไปชอปปิ้ง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ยูเนียนมอล สยามเดินประจำ เป็นคนที่ใส่ได้หมด กางเกงยีนส์เสื้อยืด แบบลุยๆ ก็ชอบใส่ ไปไหนมาไหนสะดวก บางครั้งก็แต่งหวาน เท่บ้าง แต่ชุดที่ไม่ชอบใส่คือชุดที่มันรัดทุกสัดส่วน ใส่แล้วไม่มั่นใจ โย ไม่ค่อยติดแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่นเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง เราคิดว่าคนไทยก็มีความเป็นไทยอยู่บ้าง จะไปตามเขาตลอดก็ไม่ใช่ เราก็เป็นตัวของเรา อันไหนใส่แล้วดูดีก็ใส่ อันไหนใส่แล้วไม่มั่นใจก็ไม่ใส่”
เห็นหุ่นดี ผอมบางแต่ซ่อนรูปแบบนี้ พอถามถึงเรื่องเคล็ดลับการดูแลหุ่น เธอบอกว่าเป็นคนชอบกินมาก กินได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะของหวาน แต่ช่วงที่ต้องลดน้ำหนักก็จะลดแบบจริงจัง ยิ่งช่วงนี้ต้องแสดงหนังด้วย ยิ่งต้องดูแลตัวเองพิเศษ
“สมัยก่อนกินไม่เลือก ชอบกินลูกชิ้นปิ้งมากกินได้ 5-6 ไม้ กินกุ้งเป็นกิโล หมูเกาหลี ชอบกินไขมันเยอะเดี๋ยวนี้ลดลงแล้วค่ะ ต้องดูแลตัวเองนิดหนึ่ง แต่บางทีก็หลุด กินบุฟเฟต์ทั้งอาทิตย์ โดยเฉพาะของหวานอย่างเค้กชอบมาก เค้กช็อกโกแลต ส้ม วานิลลา กินได้ทุกอย่าง แต่เวลาลดน้ำหนักก็จะลดจริงจัง แล้วก็ต้องไปออกกำลังกาย เพราะผิวเราจะหย่อน ต้องไปเฟิร์มหุ่น ช่วงนี้ก่อนเปิดกล้องหนังพี่เขาจะให้เราไปออกกำลังกายเยอะๆ หุ่นจะได้สวยๆ
เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีหลาย บุคลิก หวาน เปรี้ยว เท่ ห้าว ได้หมด บางมุมก็จะมีโลกส่วนตัวของตัวเอง เล่นกับสุนัขตัวโปรด ไม่ก็นอนอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ที่บ้าน
“ถ้ามีเวลาว่างจริงๆ ส่วนใหญ่โยจะชอบเล่นกับสุนัขอยู่ที่บ้าน ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นการ์ตูนผู้ชาย การ์ตูนตาหวาน หมึกจีน อ่านแล้วติด ต้องอ่านตลอด รอว่าเมื่อไหร่จะออกสักที ชอบอ่านฮันนะซัง เคียวแต่ช่วงยุ่งๆก็หยุดไป
 
Credit:
ผุ้จัดการออนไลน์