ผู้หญิง ร้อยทั้งร้อย เมื่อมีคนรักก็ย่อมที่จะมองอนาคตที่จะสร้างร่วมกันในวันข้างหน้า 
แต่จะเกิด อะไรขึ้น ถ้าหากคุณเพิ่งจะรู้ว่าผู้ชายของคุณเป็น "ผู้ชายป้ายเหลือง"! 
คนส่วนใหญ่มักรู้จักบาร์เกย์หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "ผู้ชายขายน้ำ" 
ที่คอยให้บริการทางเพศกันมาบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ WP อยากจะตีแผ่ก็คือ 
ผู้ชายขายบริการเหมือนกัน แต่จะให้บริการเฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้น 
ซึ่งคนกลุ่มนี้เรียกว่า "ผู้ชายป้ายเหลือง"

ถนนสาย Yellow
บน ถนน สายหนึ่งในกรุงเทพฯ จะเป็นแหล่งรวบรวมชายหนุ่มหล่อเท่ 
ชายหนุ่มเหล่านี้มีภารกิจที่ต้องทำแต่ละวันนั่นคือ 
การพูดคุยกับผู้หญิงและให้บริการเรื่องเซ็กซ์แก่หญิงสาว 
ร้านหรือผับที่ให้บริการจะเป็นแนว Bar Host ที่เป็นที่รู้กันว่า ห้ามสุภาพบุรุษเข้า 
รวมทั้งกะเทยและเกย์ด้วย บางร้านจะติดป้ายหน้าร้านไว้เลย 
รูปของชายหนุ่มขายบริการที่เป็นที่นิยมจะ ได้ขึ้นบอร์ดใหญ่ 
การแข่งขันในวงการนี้ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้วงการธุรกิจอื่นทีเดียว 
การจัดอันดับจึงมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา 
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหญิงสาวว่าพอใจในระดับไหน 


มี สถิติตัวเลขที่รวบรวมได้ เซ็กซ์ของหญิงหลังจากแต่งงาน 80% 
ส่วนใหญ่จะไปมีเซ็กซ์กับชายอื่น 
ตอนนี้ผู้หญิงชาวไทยมีแนวโน้มที่จะไม่นิยมแต่งงาน 
แต่กลับจะไประบายในทางนี้มากยิ่งขึ้น 
สาวออฟฟิศที่ลำบากตรากตรำทำงาน ยินยอมที่จะซื้อบริการจากชายหนุ่มหล่อ 
ยิ่งไปกว่านั้นบางคนมีลูกแล้ว กับงานบ้านที่ไม่ค่อยมี 
จึงใช้เงินจากสามีมาใช้บริการกับชายหนุ่มเหล่านี้

มีดีมานด์ ก็มีซัพพลาย
ผู้หญิง บางคนเสียเงินไปกับการซื้อบริการจากชายหนุ่มที่มีอายุ 27 ปี 
เป็นเงินถึง 300,000 บาทต่อเดือน 
ชายหนุ่มวัย 25 ปี ยอมรับกับ WP ว่า เขาเรียนหนังสือไม่เก่ง 
ได้เข้ามาทำงานในคลับย่านสุรวงศ์ได้เกือบหนึ่งปี 
ช่วงระยะเวลานี้ได้เป็นชายหนุ่มที่ฮอตฮิตที่สุดในผับ เขากล่าวว่า

"เมื่อเดือนที่แล้ว รายได้ที่ผมได้รับเท่ากับเงินเดือน
ที่ผมเคยทำงานมาตลอด 3 ปี 
ก็แค่ลูกค้ายินยอมเสียเงิน ผมก็ยอมทำทุกอย่าง
เพื่อทำให้พวกเขาได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้ว"

WP ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้ชายขายบริการ 3 คน 
กับลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นประจำ ที่เล่าว่า 

"บางครั้งก็มาใช้บริการเรียกหนุ่มๆ มาให้บริการคราวละ 6-10 คน 
รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงที่มีคนคอยรับใช้ เอาอกเอาใจมากมาย 
บางครั้งมาคนเดียวก็จะมาหาชายหนุ่มไว้พูดคุยกันเรื่องความรัก และอื่นๆ"


"ทำไมถึงมาทำอาชีพนี้คะ" WP ถามชายหนุ่มที่ให้บริการชื่อ "แม็ค" 
แม็คตอบว่า 

"เพราะผมไม่มีเงิน แถมยังเป็นหนี้ติดเงินคนอื่นอีก" ก่อนที่เขาจะกล่าวเสริมว่า 

"ผมเข้ามาหากินอยู่บริเวณนี้นานหลายเดือนแล้ว 
ก่อนหน้านี้ขายบริการอยู่แถบถนนสีลม แต่พอมีคนเข้ามายึดอาชีพนี้เยอะ 
มีเด็กรุ่นใหม่หน้าตาดี ทำให้รายได้น้อยลง ก็เลยเปลี่ยนมาที่สุรวงศ์แทน"

"ทำครั้งหนึ่งได้ประมาณเท่าไหร่"

"3,000-50,000 บาท" แม็คตอบ

"มีครอบครัวหรือเปล่า" WP ถาม

"มีลูกสาวหนึ่งคน ตอนนี้ไม่อยากให้ลูกรู้ว่าผมทำอาชีพอะไร ภรรยาก็ไม่รู้ 
แต่ถ้าเก็บเงินได้ ผมจะเปิดร้านเป็นของตัวเอง

ปรนนิบัติลูกค้าดั่งคนรัก
ลูกค้า ผู้หญิงที่มาใช้บริการผู้ชายประเภทนี้ 
ร้อยละห้าสิบจะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว 
ร้อยละสี่สิบเป็นพนักงานบริษัท 
และก็จะมีสาวบริการบ้าง 


"ลูกค้าส่วนมาก ที่มาใช้ บริการ จะเป็นกลุ่มผู้หญิงที่หาเงินเก่ง 
เพราะผู้หญิงเหล่านี้เขาจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน หาเงินอย่างเดียว 
จนเก็บกดความเหงาไม่ไหว พอถึงจุดขีดจำกัด เขาก็เลยมาใช้บริการที่นี่" 
ตี๋ ชายหนุ่มที่เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟของบาร์โฮสต์แห่งหนึ่ง
ย่านสุรวงศ์เล่าให้ WP ฟัง 


ตี๋ เล่าเสริมว่า ส่วนรายได้ของผู้ชายป้ายเหลือง พวกเขาจะไม่มีเงินเดือน 
แต่จะได้ค่าดริ๊งค์และค่าทิปที่ลูกค้ามาใช้บริการ 
และค่าออฟและทิปอีกทีตามความพอใจ 
ทิปครั้งละอย่างต่ำ 7,000-15,000 บาท จนกระทั่งสูงถึงหลักแสนก็มี 
นอกจากนั้น ผู้ชายป้ายเหลืองหลายคนก็จะออดอ้อนสาวแก่แม่ม่าย 
ขอถอยรถป้ายแดง นาฬิกาโรเล็กซ์ มือถือรุ่นแพงๆ เฟอร์นิเจอร์เครื่องเสียง 
และเงินค่าทิปค่าเทคแคร์ตามความพึงพอใจอีกมากมาย


ผู้ชาย ป้ายเหลือง จึงเลื่องชื่อมากเรื่องการเอาอกเอาใจผู้หญิงได้เก่ง
จนหญิงสาวส่วนใหญ่ติดใจ และพร้อมที่จะมอบเงินและทุกสิ่งทุกอย่าง
ให้ผู้ชายป้ายเหลือง เพียงเพื่อจะได้รับการปรนนิบัติอย่างนางพญา


อาร์ต หนึ่งในผู้ชายป้ายเหลืองที่ถนนสุขุมวิท เล่าให้ WP ฟัง
ถึงเทคนิคที่เขาสามารถมัดใจลูกค้าผู้หญิงให้พึงพอใจ
และกลับมาใช้บริการ เขาอีกเป็นประจำว่า 

"ผมจะเทคแคร์ลูกค้าเสมือนหนึ่งว่าพวกเขาเป็นคนรัก
หรือภรรยาของผมเลยทีเดียว เวลาไปดูหนังกับลูกค้า 
ถ้ามีราวบันไดอยู่ข้างเดียว ผมจะต้องทำให้ลูกค้าปล่อยมือจากราวบันได 
มือของผมจะต้องวางและคอยประคองลูกค้าไว้ 
ถ้าลูกค้ามองไปที่ขวดเหล้า ก็จะต้องรีบรินเหล้า 
หากลูกค้ามองไปที่ซองบุหรี่ ก็ต้องต่อไฟให้ลูกค้าสูบ 
โดยรวมแล้วผมต้องระมัดระวังและเอาใจลูกค้าอยู่ทุกนาที"