1 เปลี่ยนสถานการณ์การตำหนิ
มุ่งประเด็นไปที่เรื่องของการงานมากกว่าการตัวบุคคล แทนที่จะพูดว่า “คุณต้องทำงานนี้ให้เสร็จก่อนพรุ่งนี้” ลองเปลี่ยนเป็น “รายงานโปรเจกต์นี้ฉันต้องนำไปเสนอลูกค้าพรุ่งนี้นะคะ”
2.การเปิด โอกาสและยอมรับฟังคำวิจารณ์งานของคุณในที่ประชุม ไม่ได้หมายความว่าคุณเปิดโอกาสให้ตัวเองโดนจับผิด ที่สำคัญอย่าให้คำพูดเหล่านั้นทำลาย
ความมั่นใจของคุณ แปรเปลี่ยนเป็นการพัฒนาปรับปรุงงานให้ดีขึ้นดีกว่า
3.เมื่อมีเรื่องผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานและคุณจำเป็นต้องบอก ลองใช้วิธีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวหรือโทรศัพท์ถึงโดยตรงน่าจะดีกว่าการบอก ในที่สาธารณะหรือทางอีเมล์ที่ผู้รับอาจตีความหมายผิดจากที่คุณต้องการบอก
4.โดยปกติคนเรามักจะสนใจกับข้อผิดพลาดของคนอื่น ลองเปลี่ยนมาสังเกตข้อดี การกระทำที่ถูกต้องหรือความสามารถของเพื่อนร่วมงานดูบ้าง คำชมหรือคำวิจารณ์ในแง่ดีจะไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกโจมตี
5.นิสัยขี้บ่นของเพื่อน คุณไม่สามารถแก้นิสัยขี้บ่นของเขาหรือเธอ แต่หลบเลี่ยงที่จะไม่ฟังเหล่านั้น อย่าใช้คำถามหรือพูดเปิดประเด่นให้จอมบ่น เช่น “เป็นอย่างไรบ้าง” และทำตัวให้ดูยุ่งกับการงานตลอดเวลา
6.เป็นเรื่องปกติไปแล้วในวงเม้าท์ที่มักเริ่มทุกเรื่อง เมื่อได้ยินคำนี้ให้ลองดึงบทสนทนากลับเข้าสู่เรื่องการงานทุกครั้งขาเม้าท์มักวงแตกเสมอถ้าต้องคุยเรื่องงานแบบจริงจัง
7.เมื่อต้องเข้าพบหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาเพื่อเสนอประเด็นหรือปัญหาต่างๆ ควรจดประเด็นสำคัญที่ต้องการนำเสนอเพื่อให้แน่ใจว่าความคิดของคุณถูกต้องแน่นอนเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว กำหนดตารางการเข้าพบ อย่าตื่นเต้นและทำทุกอย่างแบบมืออาชีพ
8.เมื่อมีคนวิจารณ์หรือติเตียนชนิดไม่สนว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร ลองใช้โอกาสนี้แสดงให้เขาเหล่านั้นเห็นว่าคุณมีแนวทางที่จะพัฒนาปรับปรุง งานอย่างไร นี่คือโอกาสสำคัญที่คุณจะแสดงให้เห็นเป้าหมายในหนทางสู่ความเจริญก้าวหน้า
การ หางาน หรือการ ไปสมัครงาน ใหม่ยังมิใช่ทางออกที่ดีนัก หากแต่คุณได้หลบหลีกปัญหาไปได้ชั่วขณะ แต่ไม่นานก็จะเจอปัญหาที่คล้ายๆ กันอีก ทางที่ดีควรศึกษาเทคนิคเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมคนทำงานได้อย่างสะบายใจ