เปิดตำนาน "ฮูลิแกน" แฟนบอลพันธุ์เดือด

เปิดตำนานฮูลิแกน...แฟน(บอล)พันธุ์เดือด

 

หลายคนที่ดูรักการฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ หรือไม่ว่าจะเป็นนักดูแบบขาจรก็ตาม คิดว่าน่าจะพอได้ยินคำว่า "ฮูลิแกน" กันมาบ้าง

และถ้าจะให้นิยามคำนี้ออกมา ความหมายของแต่ละคนก็คงจะไม่ห่างไกลไปจากคำว่า "แฟนบอลอันธพาล" หรอกค่ะ แต่จริงๆแล้วหลายคนคงจะสงสัยกันว่าแล้วทำไมสื่อถึงไม่เรียกแฟนบอลพวกนั้นว่า "แฟนบอลอันธพาล" มันตรงๆเสียล่ะจะไปเรียกทับศัพท์ให้มันวุ่นวายทำไม...อย่ากระนั้นเลย...วันนี้เรามีเรื่องราวของฮูลิแกนแบบดั้งเดิม และที่มาของคำเท่ห์ๆ แต่สุดแสนจะอันตรายคำนี้มาฝากค่ะ

คำว่าฮูลิแกน(Hooligan)นี้ไม่ระบุที่มาอย่างแน่ชัดค่ะ แต่หลายทฤษฎีเชื่อตรงกันว่าต้นกำเนิดมาจากนามสกุลของนักเลงหัวไม้ชาวไอริชที่มีลูกน้องมากมายที่ชื่อ แพตทริก ฮูลิฮาน(Hoolihan) หรือบางที่ก็อ่านว่า Hooligan แต่บ้างก็ว่าคำๆนี้มีรากศัพท์มาจากภาษาไอริชว่า "ฮูลี่" หมายถึงความดิบเถื่อน

มีเรื่องเล่ามากมายที่ทั้งชัวร์และมั่วนิ่มเกี่ยวกับความเป็นมาของคำนี้ อย่างเช่นเรื่องของ "เออร์เนสต์ วีกลีย์" เขาเขียนหนังสือชื่อ "โรแมนซ์ ออฟ เวิร์ดส์" ในปี 1912 โดยระบุว่า ฮูลิแกนมาจากครอบครัวชาวไอริชที่ช่วยสร้างสีสันในชีวิตที่จืดชืดของผู้คนเขตเซาธ์วอร์กในกรุงลอนดอนเมื่อ 14 ปีที่แล้ว (ณ เวลานั้น)

นอกจากนี้ยังมีหนังสือ "ฮูลิแกน ไนต์ส" ของ "คลาเรนซ์ รู้กส์" ตีพิมพ์ในปี 1899 กล่าวถึงนักเลงเฝ้าร้านชื่อ "แพตทริค ฮูลิแกน" ซึ่งฆ่าตำรวจตายเลยต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตและเสียชีวิตในคุกในเวลาต่อมา

นอกจากนั้นก็ยัง มีบทบาท, สารคดี หรือภาพยนตร์ ที่นำเสนอเรื่องราวของฮูลิแกนบ่อยครั้ง เช่น บทความพิเศษของ BBC ที่เจาะลึกเรื่องราวของฮูลิแกน หรือภาพยนตร์เรื่อง Football Factory และ Hooligans และยังมีฮูลิแกนบางคนที่อดรนทนไม่ไหวที่สื่อบางที่นำเสนอเรื่องราวของพวกเขาอย่างบิดเบือน ว่าแล้วจึงเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของฮูลิแกนจริงๆ เช่น  หนังสือ Zulus ของแครอลีน เกล หรือ Naughty Forty  ของมาร์ค เชสเตอร์

ดิคชันนารีของออกซ์ฟอร์ดระบุว่าคำนี้มีกำเนิดจากนามสกุลของครอบครัวคนพาลชาวไอริชในเพลงร้องสมัยทศวรรษที่ 1890 แต่มันได้ปรากฏครั้งแรกในสำนวนคดีของตำรวจอังกฤษในปี 1894 โดยใช้เอ่ยถึงแก๊งนักเลงวัยฉกรรจ์ชื่อ "ฮูลิแกนบอยส์" ในย่านแลมเบธของกรุงลอนดอน ต่อมาในปี 1898 เมื่อสมาชิกของแก๊งดังกล่าวก่อเรื่องฆ่าคนตาย หนังสือพิมพ์จึงนำคำนี้มาใช้แตกหน่อเป็นศัพท์ใหม่ๆ มากมาย อาทิ hooliganism, hooliganesque, hooliganic และกริยา hooligan แต่สุดท้ายเหลือเพียงคำว่า hooliganism ซึ่งใช้สื่อถึงพฤติกรรมการก่อความวุ่นวายที่ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ทีมฟุตบอลในแต่ละเมืองของอังกฤษมักจะมีฮูลิแกนประจำทีมอยู่แล้ว ใหญ่บ้างเล็กบ้างก็ตามแต่สัดส่วนของประชากรในเมืองนั้นๆ โดยแต่ละกลุ่มก็มีศัตรูเป็นทีมบอลฝั่งตรงข้ามหรือทีมที่เป็นอริกันตลอดกาล ฮูลิแกนที่ได้รับการกล่าวขานว่าแสบที่สุดในอังกฤษเห็นจะเป็นฮูลิแกนแห่งมิลวอลล์ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ได้รับกิตติศัพท์ว่าไม่ควรเข้าใกล้ เช่น กลุ่มซูลูจากเบอร์มิงแฮม และกลุ่มโซลครูว์จากคาร์ดิฟฟ์

ความจริงแล้วฮูลิแกนนั้นมีอยู่ทุกมุมโลกค่ะ แต่ใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เช่นฮูลิแกนของอิตาลีเรียกว่า Ultra ในแอฟริกาและอเมริกาใต้ก็มี (คาดว่าที่ไทยอาจจะมีในไม่ช้า) โดยที่ระดับของความรุนแรงนั้นไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าฮูลิแกนอังกฤษเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเราพูดว่าฮูลิแกน คนส่วนใหญ่มักนึกถึงบอลอังกฤษก็เพราะว่าความเป็นต้นฉบับ

การปะทะกันของฮูลิแกนเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ครั้งที่เป็นที่จดจำและน่าสลดที่สุด ก็คือเหตุการณ์รอบชิงชนะเลิศชิงแชมป์ถ้วยยุโรปเมื่อปี 1985 ระหว่างลิเวอร์พูลและยูเวนตุส ที่สนามเฮย์เซย์  เมืองบรัสเซลล์  จากความโกลาหลครั้งนั้นทำให้อัฒจันทร์ส่วนหนึ่งของสนามพังลงมาจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และทำให้ทีมฟุตบอลจากอังกฤษทุกทีมถูกแบนยาวไม่ให้ลงแข่งในบอลถ้วยยุโรปไปหลายปี ในระดับชาติก็มีเหมือนกันโดยเป็นนัดที่อังกฤษพบกับเบลเยี่ยมในบอลยูโร 1980 ที่อิตาลี จนตำรวจต้องพ่นแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อสงบศึก

คนส่วนใหญ่มองว่าแก่นแท้ของพวกฮูลิแกนไม่ได้มีสาระอะไร นอกจากตีรันฟันแทงเพื่อความสะใจของตนเท่านั้น แต่ในอีกแง่หนึ่งของความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ กับเพื่อนๆ เป็นเหมือนสิ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตของพวกเขา เพราะฮูลิแกนโดยมากมักจะมีปัญหาทางครอบครัว ขาดความรักความอบอุ่นในวัยเด็ก การได้รับการยอมรับในกลุ่มทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า แต่ก็มีฮูลิแกนหลายคนที่ยังมีความรู้สึกใฝ่ดีหลงเหลืออยู่ พวกเขารู้สึกสำนึกและพยายามที่จะกลับมาใช้ชีวิตสงบสุขเหมือนเดิม การออกไปทำร้ายฝ่ายตรงข้ามหรือผู้บริสุทธิ์ไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอีกทั้งยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอก หรือแม้แต่ในครอบครัวของตน (สภาพการจ้างงานในอังกฤษจะไม่รับฮูลิแกนเข้าทำงานถ้าจับได้ว่าเป็นจะถูกไล่ออกทันที)

 

 

 

 

 

ภาพจาก

http://www.coolhunterfc.com/images/column_1226172977/yank_00.jpg ,  blog.fukduk.tv/files/cover/01_09_09.jpg
http://newsimg.bbc.co.uk/media/images/42768000/jpg/_42768689_bloodpa_416.jpg

Credit: blog.fukduk.tv
5 พ.ย. 52 เวลา 21:39 10,574 33 294
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...