ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ คุณผู้หญิงวัยกลางคนทั้งหลาย จึงพากันขนานนามว่า "Mental fog" หรือภาวะสุขภาพจิตถดถอย ซึ่งสามารถจำแนกสาเหตุสำคัญดังนี้
1.ภาวะพร่องสารอาหาร
งาน วิจัยหลาย ๆ ชิ้น ได้แสดงว่า คุณผู้หญิงมักจะมีภาวะการพร่องสารอาหารมากกว่าคุณผู้ชาย รวมทั้งสารอาหารที่เกี่ยวกับสมอง และยิ่งถ้าคุณเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่นิยมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือน้ำตาลล่ะก็ ความสามารถในการคิด และจดจำในสิ่งต่าง ๆ ก็พลอยจะแย่ลงไปด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากแอลกอฮอล์ ที่คุณทานเข้าไปนั้น สามารถทำให้เกิดภาวะการพร่องวิตามิน B ตามมา ซึ่งเจ้าวิตามินนี่แหละที่จำเป็นต่อสุขภาพที่ดีของสมองและการจดจำ ส่วนคาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่ม ชา กาแฟ โคลา แสนอร่อย หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการจดจำ และเจ้าน้ำตาลตัวดีหรือแม้แต่สารให้ความหวานอื่น ๆ เช่น Aspartame ก็เช่นเดียวกันก็อาจจะส่งผลร้ายต่อสติปัญญาของคุณได้
ดังนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลาย ก็ควรจะรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน โดยอาจจะเลือกบริโภคอาหารที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธี ที่ทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร เช่น เลือกทานข้าวซ้อมมือหรือข้าวโอ๊ตที่ไม่ได้มีการขัดสี หรืออาจรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ๆ
2.ภาวะซึมเศร้าและปัญหาทางร่างกาย
ภาวะซึมเศร้าได้ส่งผลต่อความจำ สมาธิ และความรวดเร็วในการคิดต่อสิ่งต่าง ๆ ในคุณผู้หญิงได้มากกว่าคุณผู้ชายถึงเท่าตัว จนอาจนำไปสู่ภาวะของร่างกายและจิตใจที่เบื่อหน่ายและท้อแท้ , ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และความผิดปกติของสมดุลฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจลุกลามไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การอุดตันของหลอดเลือดต่าง ๆ ในระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะก่อให้เกิดพยาธิสภาพของสมองและระบบประสาทได้ในที่สุด
ดัง นั้น คุณผู้หญิงทั้งหลาย ควรทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ขจัดความเศร้าหมอง และต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเดิน วิ่ง เต้นรำ ตีลังกายกหกสูง ว่ายน้ำแบบกรรเชียง หรือแม้แต่เตะ ๆ ต่อย ๆ แบบกังฟูก็เถอะ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยคุณป้องกันปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องความ จำ โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน สมดุลของฮอร์โมน ภาวะซึมเศร้า ความเครียด และการนอนไม่หลับ และที่สำคัญอีกประการก็คือ ได้มีงานวิจัยออกมายืนยันว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท ลดโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมได้
3.วิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละคน
ภาวะเครียดเรื้อรัง ของคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านทั้งเรื่องงานและครอบครัว อาจจะนำไปสู่ภาวะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดผลต่อระบบการทำงานของสมอง เกิดความเบื่อหน่ายทั้งร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่ภาวะที่ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าตามมา
การสูบบุหรี่ การวิจัยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่สุขภาพจิตจะเสื่อมถอย และมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมตามมาได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
การใช้ยาต่าง ๆ เช่น ยากล่อมประสาท ยาแก้ปวด ซึ่งกรณีที่หากนำมาใช้รวมกันหลาย ๆ ตัว ก็อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างที่เกี่ยวกับภาวะทางสมอง เช่น ภาวะสุขภาพจิตถดถอย การขาดสมาธิหรือความตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆ แย่ลง
การนอนหลับไม่เพียงพอ การวิจัยพบว่า ผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้การเรียนรู้ จดจำ และสร้างสมาธิต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ดีเท่ากับผู้ที่นอนหลับเพียงพอ
นอก จากนี้พบว่าการใช้สมุนไพรบางอย่าง อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่เอามาใช้ เพื่อผ่อนคลายความเครียดของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ในที่นี้ โสม (Panax ginseng) และ คาวา คาวา (Piper methysticum) ดูจะเป็นสมุนไพรที่ลดความเครียดได้ดีที่สุด หรืออาจจะดื่มชาคาโมไมล์ (Chamomilla recutita) 1 ถ้วย หรือรับประทาน แคลเซียม 500 mg. และ แมกนีเซียม 250 mg. เสริมก่อนนอน ซึ่งจะช่วยทำให้หลับง่ายขึ้น หรืออาจจะไปใช้วิธีเล่นโยคะ(Yoga) หรือนั่งฌาน เพิ่มสมาธิ (Meditation technique) ก็ได้
4.ภาวะขาดสมดุลฮอร์โมน
คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน อาจจะเคยประสบปัญหาที่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนขึ้น ๆ ลง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน หรือช่วงที่ใกล้จะหมดประจำเดือนในสตรีวัยทอง ทั้งนี้เป็นเพราะการขาดเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ ได้แก่ Pregnenolone ,DHEA, Melatonin และ Growth hormone ก็จะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของความจำตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลาย จึงควรจะเข้ารับการตรวจหาระดับของฮอร์โมนที่มี อยู่ รวมทั้งขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพ เพื่อคัดเลือกสารทดแทนฮอร์โมนที่มาจากธรรมชาติให้เหมาะกับคุณ