มงกุฎหนาม นี้ถูกใช้สวมใส่ในครั้งที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน เป็นเป็นการทรมาน หนามของมงกุฎหนาม นี้เต็มไปด้วยเรื่องราว และประวัติ แต่ ในทางตรงกันข้างกับมีหลักฐานเพียงน้อยนิดในการยืนยันประวัิติความเป็มเป็นมาของมัน
มงกุฎหนาม ถูกปล้น จากกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Comstantinople ซึ่งเป็นเมืองหลวงของโรมัน) ในสงครามครูเสด ครั้งที่ 4 เมื่อราวปี ค.ศ.1200 ต่อมา มงกุฎหนาม ถูกนำมาขายต่อให้ แด่ พระเจ้าหลุยส์ ที่ 4 ของฝรั่งเศล ขณะที่พระองค์พำนักอยู่ที่เวนิส(Venice) พระเจ้าหลุยส์ที่4 ทรงสร้างโบสถ์นักบุญ(Saint Chapel) เพื่อเก็บรักษา มงกุฎ ล้ำค่านี้ไว้ ต่อมา พระเจ้าหลุยส์ที่4 ได้ทำการหักแบ่ง ส่วน หนาม บางส่วนออกจากมงกุฎ เพื่อ มอบให้แก่ผู้แต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ของพระองค์ เพื่อเป็นของกำนัล หนามของมงกุฎหนาม ส่วน นี้เป็นของ ควีนเมรี่แห่งสกอตส์ ที่ได้รับเมื่อครั้งแต่งงาน กับราชวงศ์ฝรั่งเศล และเมื่อถึงเหตุการณ์ ปฏิวัติในฝรั่งเศล ในปี 1587 หนามของมงกุฎหนาม นี้ถูกสิ่งมอบให้แก่ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ นามว่า Thomas Percy ก่อนที่พระนางจะถูกบั่นคอ ณ ปราสาท Fotheringhay Castle เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1587 หนามของมงกุฎหนาม นี้ได้ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นในตระกูล จาก Thomas Percy สู่ลูกสาวนามว่าElizabeth Woodruff ในเวลาต่อมา Elizabeth Woodruff ได้กระทำบาปบางอย่าง จำไปสารภาพบาทต่อบาทหลวง และได้มอบ หนามของมงกุฎหนาม ให้ แด่ บาทหลวงที่เธอสารภาพบาป ในช่วงปี ค.ศ.1600 บาทหลวง ได้นำ หนามของมงกุฎหนาม นี้ไปเก็บรักษาไว้ที่ วิทยาลัย Stonyhurst College หมู่บ้าน Clitheroe เมือง Lancashire จนถึงปัจจุบันนี้ wowboom
โดยทุกๆปีในวันสัปดาห์ศักธิ์สิทธิ์ หนามของมงกุฎหนาม จะถูกนำไปให้ คริสนิกชน ได้สักการบูชา ณ โบสถ์ Stonyhurst ต่อมา ทายาทรุ่นที่ 6 ของวิทยาลัย ได้รับการติดต่อ พิพิธภัณฑ์บริติส เพื่อนำ หนามของมงกุฎหนาม ไปจัดแสดง ณ กรุงลอนดอน ในนิทรรศการ สมบัติจากสวรรค์(Treasures of Heaven) โดยภายในนิทศการนี้ จะมีกาารจัดแสดง สมบัติศักธิ์สิทธิ์ จากเหล่านักบุญ และ พระเยซู จากทั่วยุโรป
ซ้าย : ภาพซูมหนามของมงกุฎ จะเห็นว่าบางส่วนมีการนำมุก มาถักรอบ
ขวา : ภาพจากภาพยนตร์ ตอนที่พระเยซู ถูกตรึงกางเขน จะเห็นได้ว่าที่พระเศียร จะถูกสวมด้วยมงกุฎหนามเพื่อ ทรมาน พระองค์