"ดร.อาจอง"เผย" หิมะตก"ในเประเทศ
ไทย ม.ค.ปีหน้า ชี้ห่วงคนเมืองกาญจน์
ตายยกจังหวัด เขื่อนมีสิทธิแตก ต้องลด
ปริมาณน้ำในเขื่อนด่วน พร้อมระบุอีก
30 ปีน้ำท่วมภาคกลาง ผลจากน้ำแข็ง
ขั้วโลกละลาย ต้องย้ายเมืองหลวง แนะ
พื้นที่เหมาะสมอีสานตอนใต้ เพราะสูงกว่าระดับน้ำทะเล วอนรัฐออก ก.ม.ก่อสร้างบ้าน
ป้องกันแผ่นดินไหว 6 ริคเตอร์ ขณะที่ ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 24 จังหวัด คลี่
คลายแล้ว 16 จังหวัด จากกรณีน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง
สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง โดยมีบ้านเรือนและพื้นที่ทาง
การเกษตรได้รับความเสียหายหลายแสนไร่ตามที่เสนอ ข่าวไปแล้วนั้น
ด้าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่อง
ภาวะโลกร้อนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของ
ประเทศที่ส่งสัญญาณมาทางพายุหมุนทอร์นาโด ขนาดเล็ก ณ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์
และพัทยา ว่าปกติแล้วพายุทอร์นาโดมีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ในต่างประเทศ แต่
ประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากอุณหภูมิสูงขึ้น
และขณะนี้ทั่วโลกอุณหภูมิ สูงขึ้นเกือบ 1 องศาแล้ว แม้ภาพรวมจะไม่เห็นชัดเจนนัก แต่ที่
ผ่านมาก็ส่งผลให้ประชากรในยุโรปเสียชีวิตแล้ว 20,000 คน จากความร้อนที่สูงขึ้นมีผล
กระทบโดยตรง ประเทศที่อยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเยอะ ที่ผ่าน
มามีหิมะตกครั้งแรกในเวียดนาม เคนยา และมีความเป็นไปได้ที่ในเดือน ม.ค. 2552 นี้จะ
มีหิมะตกในภาคเหนือของประเทศไทย
ดร.อาจอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ภาวะ โลกร้อนยังส่งผลให้
ภาวะน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิด
ขณะนี้มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์ก ไหลสู่ทะเล
หมายความว่าน้ำในทะเลจะค่อย ๆ กินชายฝั่งทะเลบ้านเราไป
เรื่อย ตอนนี้เราสูญเสียแผ่นดิน 1 กม. ที่ชายทะเลบางขุนเทียน
และทั่วโลกเจอปัญหาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ สหรัฐอเมริกา ออกมาพูดแล้วว่าต่อไปเมือง
ไมอามี่ ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลจะไม่เหลือ
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร เมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นมาเกินกว่า 1 เมตร
กรุงเทพฯ พร้อมกับ จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี พระ
นครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี ครึ่งจังหวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ และนั่นหมายความว่าพื้นที่
ผลิตข้าวในภาคกลางจะหมด ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะแหล่ง
ปลูกข้าวในภาคกลางเลี้ยงคนเกือบทั้งโลก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของแผนที่นาซาว่า
ภายใน 30 ปี น้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 เมตร
ดร.อาจอง กล่าวอีกว่า เพื่อรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงตั้งแต่เดี๋ยวนี้เพราะ
ต้อง ใช้เวลาเป็น 10 ปี ในการย้ายเมือง และภายใน 6 ปีจะเริ่มเห็นระดับน้ำทะเลสูงขึ้นใน
ระดับท่วมขังแล้ว จะสูบออกได้ยาก
นอกจากสร้างเขื่อนกั้นน้ำเหมือนกับประเทศเนเธอร์แลนด์ จะป้องกันได้ แต่ล่าสุดตนไป
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนที่แล้ว เขาบอกว่า
จะรับไม่ไหวแล้วเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูบน้ำออกจากเขื่อนทำได้ลำบาก
สถาปนิกของประเทศเริ่มออกแบบบ้านอยู่บนแพกันแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายเมืองใหม่
อันดับแรกต้องย้ายรัฐสภาไปก่อน เพราะเป็นศูนย์กลางของเมืองใหม่ เมื่อย้ายไปหน่วย
ราชการต่าง ๆ จะตามไป จุดเหมาะสมที่จะย้ายเมืองหลวงคือ อีสานตอนใต้ ขณะที่ภาคใต้
จะเจอพายุรุนแรงมากขึ้น จะเกิดสตอม เซอจมาถึงกรุงเทพฯ อย่างที่ ดร.สมิทธ บอกไว้
ส่วนภาคตะวันตกจะมีพายุไซโคลนเข้ามา โชคดีที่ผ่านมาพายุนาร์กีสเข้าไปที่พม่ายังมา
ไม่ถึง ประเทศไทย
อดีตนักวิทยา ศาสตร์นาซา กล่าวต่อว่าก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้ว
ว่าเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ใน จ.กาญจนบุรี อยู่ใต้รอยร้าวของเปลือก
โลก แต่วิศวกรแย้งว่าได้ออกแบบการก่อสร้างเขื่อนให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเกิดแผ่น
ดินไหวรุนแรง อย่างไรก็ตาม ถ้าเอาเขื่อนมาเขย่าในความแรง 8 ริค เตอร์ เขื่อนก็
สามารถทนได้ แต่ถ้ารอยร้าวเคลื่อน ที่สลับกัน จะทำให้เขื่อนแตก และน้ำจะไหลลงมา
ท่วม จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ใต้เขื่อน และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รัฐบาลต้องให้นัก
ธรณีวิทยาไปศึกษาดู เบื้องต้นต้องรีบปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือน้อยลง แม้ว่าเขื่อน
แห่งนี้จะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของพื้นที่ภาคกลางก็ตามที จำเป็นต้องเสียสละไฟฟ้า
เพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ และต่อไปการสร้างบ้าน สร้างอาคารในแนวที่มีรอยร้าวแผ่นดินไหว
ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ กรุงเทพฯ อีสานตอนเหนือ ต้องออกฎหมายรับรอง การทนทานต่อ
แผ่นดินไหวอย่างน้อย 6 ริคเตอร์
ส่วน นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวว่าใน
ช่วงเดือน ม.ค. 2552 จะมีหิมะตกในประเทศไทย ว่า การที่จะมีหิมะตกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ
มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่เข้าปก คลุมในประเทศไทยช่วงนั้นว่ามีความหนาว
เย็นมากแค่ไหน โดยต้องดูเรื่องระดับความสูงของพื้นที่ในไทยด้วย ซึ่งโดยรวมคิดว่าน่า
จะเกิดแม่คะนิ้งตามภูเขาและดอยในเชียงใหม่ และเชียงรายมากกว่า ไม่ใช่หิมะ
ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รัง
สิต กล่าวว่า เรื่องที่จะเกิดหิมะตกในเมืองไทยถือเป็นเรื่องที่ไกล
ตัวและมีโอกาสเกิดขึ้น ได้น้อยมาก เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์
ของประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นและไม่ได้ อยู่ติดกับประเทศจีนเหมือนพื้นที่
ภาคเหนือของเวียดนาม ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การเกิดหิมะตกอุณหภูมิต้อง
ติดลบ แต่ลักษณะภูมิอากาศของไทยยังไม่ถึงขั้นติดลบ โอกาสที่จะเกิดหิมะตกจึงเป็นไป
ได้ยาก คงมีแต่โอกาสที่จะเกิดลูกเห็บตกและเกิดแม่คะนิ้งบน ดอยสูงมากกว่า
สำหรับในเรื่องอีก 30 ปี จะเกิดน้ำท่วม กรุงเทพฯ เรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง หากดูจาก
เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2538 ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกหนักเหมือนปี 2538 ประกอบกับ
แผ่นดินที่ทรุดตัวลงทุก ๆ ปี รวมกับน้ำเหนือที่ไหลลงมา และเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้น หาก
ปัจจัยต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี โดยพื้นที่ที่จะเกิดน้ำท่วม
ก่อน คือ จ.สมุทรปราการ แต่การท่วมจะเป็นไปในลักษณะเหมือนน้ำขึ้น-น้ำลงตามระดับ
จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาทางรับมือตั้งแต่ตอนนี้เพื่อ ให้เกิดผลกระทบ
และความเสียหายน้อยที่สุด
ขอขอบคุณ http://www.puen.in.th