หิมะ เป็นรูปหนึ่งของการตกลงมาของน้ำจากบรรยากาศ อยู่
ในรูปของผลึกน้ำแข็งจำนวนมากเรียก เกล็ดหิมะ จับตัวรวมกัน
เป็นก้อน ดังนั้นหิมะจึงมีเนื้อที่หยาบเป็นเกล็ด และมีโครงสร้าง
ที่กลวงจึงมีความนุ่มเมื่อสัมผัสหิมะนั้นเกิดจากละอองน้ำเกิด
การเกาะรวมตัวกันในชั้นบรรยากาศที่อุณหภูมิต่ำว่า 0 °C
(32 °F) และตกลงมา นอกจากนี้หิมะยังสามารถผลิตได้จาก
เครื่องสร้างหิมะเทียม(snow cannon)
ความสมมาตรของส่วนที่ยื่นออกมาของเกล็ดหิมะนั้น จะเป็น
สมมาตรแบบหกด้านเสมอ เนื่องมาจากเกล็ดน้ำแข็งปกตินั้นมี
โครงสร้างผลึกหกเหลี่ยม(หรือที่รู้จักกันในชื่อ ice Ih) บน
ระนาบฐาน(basal plane)คำอธิบายถึงความสมมาตรของเกล็ด
หิมะนั้นโดยทั่วไป มีอยู่ 2 คำอธิบาย คือ1. อาจเป็นไปได้ที่
จะมีการสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างส่วนที่ยื่นออกของ
เกล็ดหิมะ ซึ่งส่งผลให้การงอกออกของแต่ละก้านนั้นส่งผลถึง
กัน ตัวอย่างของรูปแบบที่ใช้ในการสื่อสารนั้นอาจเป็น ความตึง
ผิว หรือ โฟนอน(phonon)2. คำอธิบายที่สองนี้จะค่อนข้าง
แพร่หลายกว่า คือ แต่ละก้านของเกล็ดหิมะนั้นจะงอกออกโดย
ไม่ขึ้นแก่กัน ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิ ความชื้น และสภาพ
แวดล้อมอื่นๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบ
กับขนาดของเกล็ดหิมะแล้วเชื่อว่าสภาพแวดล้อมจะมีสภาพที่
เหมือนกันในช่วงขนาดสเกลของเกล็ดหิมะ ซึ่งส่งผลให้
การงอกออกของก้านในแต่ละด้านนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหมือน
กัน จึงทำให้ลักษณะการงอกออกนั้นเหมือนกัน ในลักษณะ
เดียวกับที่รูปแบบการเติบโตของวงแหวนอายุในแกนของต้นไม้
ในสภาพแวดล้อมเดียวกันจะมีรูปร่างเหมือนๆกัน ความแตกต่าง
ของสภาพแวดล้อมที่ระดับสเกลใหญ่กว่าเกล็ดหิมะนั้นส่งผลให้
รูปของเกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกัน
Credit : http://th.wikipedia.org
อย่างไรก็ตาม แนวความคิดที่ไม่มีเกล็ดหิมะใดที่มีรูปร่าง
เหมือนกันนั้นไม่ถูกต้อง เกล็ดหิมะสองเกล็ดนั้นมีโอกาส
เหมือนกันได้ เพียงแต่โอกาสนั้นน้อยมาก American
Meteorological Societyได้บันทึกการค้นพบเกล็ดหิมะ
ที่มีรูปร่างเหมือนกันโดย แนนซี่ ไนท์(Nancy Knight)
ซึ่งทำงานที่National Center for Atmospheric
Research ผลึกที่ค้นพบนั้นไม่เชิงเป็นเกล็ดหิมะซะที
เดียวที่เป็นรูป ปริซึมหกเหลี่ยมกลวง (hollow
hexagonal pris )
รูปเกล็ดหิมะ โดย วิลสัน เบ็นท์ลีย์(Wilson Bentley) ค.ศ. 1902