ช็อค ! วัยรุ่นไทยกินยาคุมฉุกเฉิน 20 กล่อง/เดือน

ช็อค!วัยรุ่นไทยกินยาคุมฉุกเฉิน 20 กล่อง/เดือน
25 มี.ค. 54 11.40 น. พิมพ์หน้านี้ สนับสนุนเนื้อหา
(+ให้คะแนนบทความ)
1
2
3
4
5
เปิดอ่าน 40 ความคิดเห็น 0

สสส.เตือนวัยรุ่นฮิตกินยาคุมฉุก เฉินหลังมีเซ็กส์สูงถึง 20 กล่องต่อเดือนชี้ใช้ยาผิดประเภท เสี่ยงติดเอดส์-ท้องไม่พร้อม ตะลึง ! ยอดขายสูงถึง 8 ล้านกล่องต่อปี

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2554 ณ ลานกิจกรรมชั้น 35 สสส. อาคาร SM ทาว์เวอร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยแผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) ร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายนักศึกษาระดับอาชีวศึกษา องค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (แพท), สมาคมเภสัชกรรมชุมชนแห่งประเทศไทย และมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จัดเสวนาเรื่อง "เปิดมุมมองพฤติกรรมการใช้ยาคุมฉุกเฉิน อันตรายเสี่ยงติดเอดส์-ท้องไม่พร้อม"เพื่อขับเคลื่อนการรณรงค์ให้ความรู้แก่ ประชาชน

โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงในการใช้ยาคุมฉุกเฉินผิดวิธี ให้เข้าใจและป้องกันตนได้ โดยจัดทำสื่อรณรงค์เรื่องการใช้ยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องเผยแพร่ผ่านเครือข่าย ร้านขายยาทั่วประเทศ และสนับสนุนให้เครือข่ายเยาวชนนำไปเผยแพร่รณรงค์ในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาตามสถานศึกษาต่างๆ เพื่อรณรงค์ปรับเปลี่ยนทัศนคติให้คนไทยหันมาใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิด การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เช่น เพศศึกษา และทักษะชีวิต ซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และที่สำคัญยังป้องกันโรคเอดส์ได้มากที่สุด

ผศ.ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการ กพย. กล่าวถึงพฤติกรรมการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินว่า ปัจจุบันคนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่นมีพฤติกรรมการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินมากกว่ายาคุมแบบปกติ และได้รับความนิยมมากกว่ายาทำแท้ง จากผลการวิจัยเรื่องความรู้เกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในนักศึกษาระดับ ปริญญาตรีในเขตกรุงเทพมหานคร ของนายเขมินท์ เอี่ยมน้อย พบว่า ผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินมากที่สุดคือกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 16- 24 ปี โดยกว่าร้อยละ 83.3 รู้จักยาคุมฉุกเฉิน และร้อยละ 81.85 เพื่อนแนะนำให้ใช้ อย่างไรก็ตามมากกว่าครึ่งเข้าใจผิดหรือใช้ไม่ถูกต้อง โดยประเด็นที่เข้าใจผิดมากที่สุดคือ เข้าใจว่าเป็นยาทำแท้ง

นอกจากนี้ในปี 2552 มีการผลิตและนำเข้ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินกว่า 8 ล้านกล่องต่อปี ซึ่งล่าสุดในเดือน ก.พ.2554 กพย. ได้สำรวจการจำหน่ายยาคุมฉุกเฉิน ในเครือข่ายร้านขายยา 45 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ผู้ซื้อยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่ร้อยละ 47.73 มีอายุระหว่าง 16-20 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 21-25 ปี ร้อยละ 36.36 กลุ่มอายุ 26-30 ปี ร้อยละ 13.64 และอายุมากกว่า 30 ปี ร้อยละ 2.27 ส่วนใหญ่ผู้ซื้อร้อยละ 70.45 เป็นผู้หญิง โดยอัตราการจำหน่ายยาคุมฉุกเฉินของร้านขายยา เฉลี่ย วันละ 6.5 กล่อง บางแห่งสูงถึง 25 กล่องต่อวัน ซึ่งมีแนวโน้มการจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น นั่นแสดงถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า และไม่ใช้ถุงยางอนามัย

"ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาคุมกำเนิดที่ใช้ภายหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกัน การตั้งครรภ์เฉพาะกรณีฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ อาทิ กรณีการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจอย่าง การถูกข่มขืน หรือถุงยางอนามัยที่ใช้เกิดรั่ว-แตก เป็นต้น มีประสิทธิภาพในการลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณร้อยละ 89 เท่านั้น และที่สำคัญยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์ได้ แม้กระทั่งไวรัสตับอักเสบบี และยังเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เพราะเมื่อนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา จะกลายเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำไปในทันที อีกทั้งยังทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และมีเลือดออกทางช่องคลอด และอาจเกิดอันตรายจากการใช้ยา ไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนมาไม่ปกติ กะปริบกะปรอย บางรายเคยพบปัญหาการตั้งครรภ์นอกมดลูกด้วย" ผศ.ภญ.ดร.นิยดากล่าว

ด้าน น.ส.อุษาสินี ริ้วทอง เจ้าหน้าที่องค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (องค์กรแพธ) กล่าวว่า จากการทำงานเรื่องเพศศึกษาขององค์กรแพธ ในส่วนของคลินิก Lovecare บริการที่เป็นมิตร พบว่า วัยรุ่นมีความรู้เรื่องยาคุมฉุกเฉินไม่ชัดเจนมากนัก เข้าใจผิดและคิดว่าเหมือนยาคุมกำเนิดแบบปกติ เด็กจะกังวลเรื่องท้องไม่พร้อมมากกว่าเรื่องการติดเชื้อเอดส์จากการมีเพศ สัมพันธ์ สำหรับในหลักสูตรเพศศึกษาก็มีการสอนเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินตั้งแต่ระดับมัธยม ศึกษาปีที่ 2 จัดกิจกรรมให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียน ช่วยกันวิเคราะห์ถึงประโยชน์ของยาประเภทนี้ และความจำเป็นในการใช้ยา นอกจากนี้ในเว็ป teenpath.net ยังพบว่ามีเด็กวัยรุ่นหญิงอายุ 19 ปี ได้มาโพสต์ข้อความเพื่อขอคำปรึกษาจากการมีเพศสัมพันธ์กับแฟน 5-9 ครั้งต่อวันว่าจะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่

"มีข้อสังเกตด้วยว่า สถานการณ์เมื่อ 3-4 ปี ก่อนวัยรุ่นไม่ค่อยไปซื้อถุงยางอนามัย แต่จะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินตามร้านขายยา ซึ่งเห็นว่า ควรมีการให้ความรู้และเปิดโอกาสให้ทุกคนในวัยเจริญพันธุ์ ทุกช่วงวัยเข้าถึงข้อมูลรอบด้านที่ถูกต้องในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน รวมถึงการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ใหญ่ หรือเภสัชกรประจำร้านขายยา เมื่อวัยรุ่นไปซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการคุมกำเนิด หากมีท่าทีซักถามหรือคาดคั้นมากเกินไปก็จะเป็นการผลักให้วัยรุ่นไม่สบายใจ ที่จะมาซื้อ นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน" น.ส.อุษาสินี กล่าว

น.ส.จิรนันท์ คันธี ผู้แทนจากเครือข่ายเยาวชนอาชีวศึกษา กล่าวว่า ในฐานะที่เรียนอยู่อาชีวศึกษาและทำงานเกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องเอดส์พบว่ามี เพื่อนได้มาขอคำแนะนำการใช้ยาคุมฉุกเฉินและการใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากที่ผ่านมาเพื่อนในชั้นเรียนมีเพศสัมพันธ์กันมากและยังมีการใช้ยา คุมฉุกเฉินถึง 20 แผงต่อเดือน เพราะไม่ทราบถึงผลกระทบที่ตามมา อีกทั้งมีความกังวลเรื่องท้องมาก่อนโดยที่ไม่ไม่คำนึงถึงปัญหาการติดเชื้อ เพราะเน้นห่วงเรื่องไม่ท้องมาก่อน

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Credit: สํานักข่าว สสส
#วัยรุ่น #ยาคุม
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
26 มี.ค. 54 เวลา 08:52 2,597 7 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...