ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ธันวาคม 2549 สวนสัตว์กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี ดีใจกันยกใหญ่ที่

หมีขั้วโลกในสวนสัตว์ตกลูกครอกแรกในรอบ 33 ปี

แต่เหตุการณ์พลิกผันในเวลาต่อมา เมื่อแม่หมีแสดงอาการไม่เลี้ยงดูลูก ซึ่งเป็นไปตาม

พฤติกรรมตามธรรมชาติของหมีขั้วโลก

ที่ผ่านมา แม่หมีบางตัวทอดทิ้งลูก เมื่อมันมีความเครียด หรือไม่พร้อมกับการทำหน้าที่แม่

สำหรับคนุต เกิดพร้อมพี่ของมันอีกตัว ซึ่งตายทันทีเมื่อแม่ทิ้ง

แต่คนุต จอมอึดรอดตายจากการช่วยเหลือของ นายโธมัส เดอร์ไฟลน์ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์

เบอร์ลิน ที่เข้าไปป้อนนม และพามันมานอนในตะกร้าที่มีผ้าห่มอุ่นๆ

จากนั้นทั้งคู่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความเอื้ออาทรต่างสายพันธุ์

นักสิทธิสัตว์ทักท้วงว่า การให้มนุษย์เลี้ยงหมีขั้วโลกไม่ดีต่อตัวหมีเอง

ความเห็นดังกล่าวกลายเป็นพาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์ฉบับยักษ์ใหญ่ที่ว่า "ฆ่ามันทิ้งซะ

ยังดีกว่าให้มนุษย์เลี้ยง" พร้อมภาพประกอบหมีน้อยที่น่ารักเหมือนตุ๊กตา

นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนุตโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีแต่คนรุมเห็นใจ และหลงรักมัน

อย่างท่วมท้น

สื่อมวลชนในเยอรมนีต่างพากันตีภาพ และข่าวคนุตที่อยู่ในความดูแลของ

เดอร์ไฟลน์

ยิ่งวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมี.ค. 2550 ช่างภาพนักข่าวกว่าร้อยชีวิตมุ่ง

ตรงไปยังสวนสัตว์กรุงเบอร์ลินเพื่อบันทึกภาพหมีน้อยที่โด่งดังที่สุดในโลก

ในที่สุดคนุตก็เป็นดาราประจำสวนสัตว์ที่ทำรายได้มหาศาลจากค่าเข้าชม รวมถึง

สินค้าต่างๆ

แต่โศกนาฏกรรมต่อมาของคนุตมาเยือนในปี 2551 เมื่อเดอร์ไฟลน์ ผู้เคยทำหน้าที่

"แม่บุญธรรม" ของมันถูกพบเป็นศพ สิ้นใจอยู่ในบ้าน ด้วยอาการหัวใจวาย ทั้งที่

อายุเพียง 44 ปี

มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิดเผยว่าเดอร์ ไฟลน์ "ใจสลาย" จากการที่ถูกกันออก

มาไม่ให้ดูแลคนุตที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น

ต่อมาทางสวนสัตว์นำหมีขั้วโลกตัวเมีย 3 ตัวมาให้อยู่ร่วมกัน เพื่อให้คนุตปรับตัว

เป็นหมีที่อยู่เป็นกลุ่มเหมือนกับตัวอื่นๆ

มีกระแสข่าวตามมาว่า คนุตถูกรุมกัด ถูกรังแก แต่ทางสวนสัตว์โต้อีกว่า คนุตเข้า

กับเพื่อนใหม่ได้ดี ที่สื่อเสนอข่าวนั้นขาดความเข้าใจที่แท้จริง

...แต่แล้ว เหตุการณ์สะเทือนใจคนทั้งโลกก็เกิดในวันเสาร์ที่ 19 มี.ค. เมื่อคนุตจาก

ไปอย่างกะทันหัน ต่อหน้าต่อตานักท่องเที่ยวกว่า 600 คน ที่ตั้งใจมาชมความน่ารัก

ของมัน โดยคนุตเดินวน ขาซ้ายด้านหลังสั่น และมีอาการชักกระตุก ก่อนจะดิ่งลง

ในน้ำ สภาพนอนคว่ำหน้าแน่นิ่งเหนือผิวน้ำในสวนสัตว์

ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด เพราะมันยังเป็นหมีเด็ก

อายุ แค่ 4 ปี 3 เดือน ทั้งที่โดยปกติแล้วหมีขั้วโลก จะมีอายุขัยเฉลี่ย 35 ปี

หลังจากข่าวการตายของคนุตแพร่ออกไปก็มีแฟนๆ ออกมาไว้อาลัย หน้าสวนสัตว์

ด้วย โดยทุกคนต่างกล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจอย่างมากและรักคนุตเหมือนลูก ขณะที่

นายกเทศมนตรีนครเบอร์ลิน กล่าวว่าการตายของคนุตเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่าง

มาก เพราะใครๆ ต่างก็รักมัน

ต่อมาสวนสัตว์เบอร์ลินเปิดเผยผลการชันสูตรเบื้อนต้น พบการเปลี่ยนแปลงอย่าง

ผิดปกติในสมอง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการตายอย่างกะทันหัน

ขณะที่ ไฮเนอร์ โคลส์ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เบอร์ลิน ยืนยันว่าจะสตัฟฟ์ร่างของคนุต

เก็บรักษาไว้ และจะจัดแสดงร่างสตัฟฟ์ไว้ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเบอร์ลิน ด้วยวัตถุ

ประสงค์เพื่อการศึกษา

แม้จะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งในเยอรมนีไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้ฝังคนุตอย่างสงบ

เหมือนกับหมีขั้วโลกตัวอื่นๆ