เกิดเหตุแผ่นดินไหว 5.8 ริกเตอร์ ชายฝั่งเกาะฮอนชู เขย่าขวัญชาวญี่ปุ่นอีกระลอก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด พุ่งสูงกว่า 9,000 ราย และสามารถตรวจวัดกัมมันตรังสีจากญี่ปุ่นลอยถึงไอซ์แลนด์แล้ว
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ความรุนแรง 5.8 ริกเตอร์ ใกล้กับพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะฮอนชู เมื่อเวลา 00.03 น. วันพุธ (23มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ลึกลงไปใต้ท้องทะเลเพียง 1 กิโลเมตร แต่ล่าสุดยังไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น
ขณะที่มีรายงานออกมาว่า วิศกรสามารถต่อกระแสไฟฟ้าเข้าเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 เตา ได้หมดแล้ว หลังระบบไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ประสบความล้มเหลวจากผลกระทบของเหตุแผ่นดินไหว และ สึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางธนาคารโลก ได้ประเมินความเสียหายโดยภาพรวม สูงถึง 235,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่หลายประเทศทั่วเอเชียยังคงมีความกังวลเรื่องการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี จึงได้ออกมาตรการตรวจเช็คการปนเปื้อนรังสีในสินค้า โดยเฉพาะอาหารที่มาจากประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มงวด ด้านสำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตด้วยว่า สถานีตรวจวัดกัมมันตภาพรังสี นานาชาติ (ซีทีบีทีโอ) สามารถตรวจพบกัมมันตภาพรังสีในไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเชื่อว่าปลิวไปจากญี่ปุ่น แต่มีระดับต่ำมากจนไม่เป็นอันตรายใด ๆ
สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายจากเหตุภัยพิบัติผ่านไปแล้ว 12 วันนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น ได้แถลงข่าวเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.(ตามเวลาในประเทศไทย) ว่า หลังจากผ่านไป 12 วัน ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยแบ่งเป็นเสียชีวิตทั้งหมด 9,408 ราย สูญหาย และยังไม่อาจยืนยันได้ว่าเสียชีวิต จำนวน 14,716 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลเพียง 2,746 ราย
ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นพื้นที่พบว่า จังหวัดมิยากิมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 5,714 ราย สูญหายอีกประมาณ 5,200 ราย รองลงมาคือ จังหวัดอิวาเตะ เสียชีวิต 2,875 ราย สูญหายกว่า 5,000 ราย ส่วนที่จังหวัดฟุกุชิมะ เสียชีวิต 762 ราย สูญหายกว่า 4,500 ราย
[22 มีนาคม] ไหวอีก! 6.6 ริกเตอร์ ที่เกาะฮอนชู สะเทือนถึงโตเกียว
ดินไหวอีก 6.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่อุตุนิยมวิทยาประเทศญี่ปุ่น ออกเตือนประชาชนนกรุงโตเกียว ให้ระวังสถานการณ์จเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีก
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า เมื่อเวลา 15.18 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ได้เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.6 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางลึกลงใต้ทะเล 20 กิโลเมตร นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ของญี่ปุ่น เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เบื้องต้นยังไม่มีการรายงานความเสียหาย หรือเตือนสึนามิแต่อย่างใด
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น รายงานผลการค้นหาผู้เสียชีวิต และสูญหาย จากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 9,079 ราย สูญหาย 12,645 ราย โดยที่จังหวัดมิยากิ มียอดผู้เสียชีวิตสูงสุด 5,507 ราย รองลงมา เป็น อิวาเตะ 2,773 ราย
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ได้รายงานว่า อาจจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกในระดับที่มากกว่า 4 ริกเตอร์ ในกรุงโตเกียว ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม โดยคาดว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกมากถึง 30 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก มากกว่าระดับ 4 ริกเตอร์ ไปแล้ว 58 ครั้ง นอกจากนี้ ทางกรมอุตุฯ ได้เผยว่า อุณหภูมิในพื้นที่ ที่เกิดภัยพิบัติจะสูงขึ้น 5 องศาเซลเซียส และในขณะนี้อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในสภาวะหนาวเย็นที่ - 2 องศาเซลเซียส จนทำให้มีผู้ป่วยจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นดังกล่าวแล้ว
เผยยอดตายภัยพิบัติญี่ปุ่นพุ่ง 6,539 ราย สูญหายนับหมื่น เตือนภัย 10 จังหวัดในญี่ปุ่น เป็นพื้นที่อันตราย ส่วนไต้หวันได้ตรวจพบสารปนเปื้อนจากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 25 คน ด้าน สธ. เผยยังไม่พบคนไทยในญี่ปุนปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในปริมาณที่เป็นอันตราย พร้อมเตือนเกลือไอโอดีนทั่วไปป้องกันไม่ได้
สำนักงานตำรวจญี่ปุ่น เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิอย่างเป็นทางการ (18 มีนาคม 2554) รวมทั้งสิ้น 6,539 คน สูญหายอยู่ที่ 10,354 คน
ขณะที่ ผอ.สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเผย 10 จังหวัด เป็นพื้นที่อันตรายจากสารเคมีพร้อมเตือนไม่ควรอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยพื้นที่ดังกล่าวประกอบไปด้วย
จังหวัดฮอกไกโด
จังหวัดอะโอโมริ
จังหวัดอิวาเตะ
จังหวัดมิยางิ
จังหวัดฟุกุชิมะ
จังหวัดอิบารากิ
จังหวัดชิบะ
จังหวัดโตเกียว
จังหวัดกุมมะ
จังหวัดคาโงชิมะ
ทางด้านสภาพลังงานปรมาณูของไต้หวัน ได้เผยว่า ได้มีการตรวจพบสารกัมมันตรังสี ที่ท่าอากาศยานหลัก 3 แห่ง ก่อนที่จะทำการตรวจประชาชนมากกว่า 4,400 คน ก่อนที่จะพบว่า มีประชาชนจำนวน 25 คน มีอนุภาคกัมมันตรังสีปนเปื้อนตามเสื้อผ้าและรองเท้า
หลังจากที่ตรวจพบทางการไต้หวัน จึงทำการชำระล้างสารปนเปื้อน ก่อนอนุญาตให้ออกจากท่าอากาศยาน ขณะเดียวกัน ทางการไต้หวันได้เริ่มตรวจหาสารกัมมันตรังสีในอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นแล้ว แม้เชื่อว่าอาหารเหล่านี้นำเข้ามาก่อนเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม
ด้าน เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ ตรวจพบสารกัมมันตรังสีในระดับสูงผิดปกติกับผู้โดยสาร 3 คน ที่โดยสารเครื่องบินมาจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวันแรกของการตรวจที่ท่าอากาศยานอินชอน ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของเกาหลีใต้
ทางด้าน น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการส่งทีมแพทย์ไปญี่ปุ่นว่า ภารกิจหลักคือ การดูแลสุขภาพคนไทยในญี่ปุ่น หลังวิตกกังวลเรื่องสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล โดยให้บริการอยู่ที่วัดปากน้ำ ซึ่งจากการตรวจร่างกายคนไทย ยังไม่พบในปริมาณที่อันตราย ส่วนทีมแพทย์อีก 18 ทีมที่เหลือ ที่เตรียมส่งไปอีกนั้น ยังชะลอไว้ก่อน เพราะต้องรอ กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับทางญี่ปุ่นก่อน ซึ่งหากเกิดเหตุการฉุกเฉิน ก็สามารถเดินทางไปช่วยเหลือได้ทันที ขณะเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องส่งไอโอดีนไปที่ญี่ปุ่น ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่า เกลือไอโอดีนทั่วไปไม่สามารป้องกันสารกัมมันตรังสีได้ ต้องเป็นไอโอดีเฉพาะที่ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น