หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านโบราณในประเทศญี่ปุ่น น่าอยู่มากๆ

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ Shirakawa-go

หมู่บ้านแห่งนี้ เรียกว่าเป็น หมู่บ้านโบราณมรดกโลก ค่ะได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นหมู่บ้านมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1995 จะอยู่ท่ามกลางหุบเขาทางเหนือของเมืองทาคายามะ เป็นหมู่บ้านโบราณขนานแท้แบบญี่ปุ่นที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน จะเป็นสไตล์การก่อสร้างและตกแต่งแบบ โรงนา หลังคา กัสโซ่ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยค่ะ

การเดินทาง สามารถใช้ทางด่วนที่เพิ่งสร้างเสร็จ ระหว่างชิราคาวาโกะ และฮิดะ-คิโยมิ ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลที่ได้คือระยะเวลาในการเดินทางจากบริเวณด้านตะวันออกของญี่ปุ่นสู่ชิราคาวาโกะ จะลดลงระยะเวลาการเดินทางด้วยรถประจำทางระหว่างทาคายามา (Takayama) และชิราคาวาโกะ จาก 2 ชั่วโมง เหลือเพียง 50 นาที

ส่วนการเดินทางด้วยรถประจำทาง (Nohi Bus) ผ่านทาคายามาจะให้บริการรถประจำทาง 8-9 คันต่อวัน ระหว่างทาคายามาและ ชิราคาวาโกะ การเดินทางเที่ยวเดียวใช้เวลาประมาณ 50 นาที ราคา 2,400 เยน สำหรับราคาค่าเดินทางแบบไปกลับ ราคา 4,300 เยนและไม่สามารถใช้บัตรโดยสาร Japan Rail Pass ได้

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโบราณมรดกโลก แห่งเมืองทาคายามะ ประเทศญี่ปุ่น

หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะและบริเวณโกคายาม่า ที่อยู่ใกล้กันเป็นหมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามลำน้ำ Shogawa ตามแนวสันเขาที่ทอดยาวตั้งแต่เขตจังหวัด Gifu ถึง Toyama ชิราคาวาโกะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1995 มีบ้านแบบกัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี

บ้านในแบบกัสโชสึคุริ บ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช” ซึ่งแปลว่า “พนมมือ” ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร ซึ่งมีโครงสร้างของบ้านสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวอีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างต่างๆ ล้วนแต่มาจากวัสดุจากธรรมชาติทั้งสิ้น อย่างต้นหญ้าที่ปลูกไว้เพื่อนำมาใช้มุงเป็นหลังคาขนาดหนาแต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี

อีกมุมหนึ่งของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ

หมู่บ้านเหล่านี้ อยู่บนภูเขาในพื้นที่ห่างไกล บนพื้นที่ราบสูงฮิดะ (Hida) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 พื้นที่ของหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา และธรรมชาติของใบไม้ที่ผลิใบสีเขียวสดใสในฤดูใบไม้ผลิ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวที่หมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวหมดจดของหิมะ หมู่บ้านมีความเป็นมาและคงความเป็นอยู่ดังมนต์ขลังแห่งเทพนิยาย ลักษณะของบ้านที่สร้างตามแบบเฉพาะนี้ (Gassho Style) มีหลังคาเป็นสามเหลี่ยมทรงสูงคล้ายลักษณะการพนมมือ เมื่อยามที่สวดมนต์ โครงสร้างภายในจะเป็นหลายชั้น อาจเป็น 3 หรือ 4 ชั้น มีรายละเอียดพิถีพิถัน และมีลักษณะเฉพาะออกไปตามการใช้งาน และแสดงถึงความชาญฉลาดของผู้ปลูกสร้าง และอยู่อาศัย ภายในจะมีผ้าไหมที่รอปูรองไว้เพื่อให้ความอบอุ่นเมื่อยามหน้าหนาวมาเยือน ที่พื้นบ้านในชั้นแรกหลังคาที่มีมุมประมาณ 60 องศา เพื่อให้หิมะไหลได้ง่ายป้องกันการทับถมของหิมะในยามที่หิมะตกหนัก

รูปทรงและสไตล์ของบ้านญี่ปุ่นโบราณ

จุดท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในการสัมผัสบรรยากาศคือการพักค้างคืนในหมู่บ้านชาวนา มีบ้านหลายๆ หลังเปิดให้เป็นที่พักในแบบที่เรียกว่า Minshuku โดยเฉพาะที่ Ogimachi เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่สุดของชิราคาวาโกะ บ้านวาดะ (Wada) และ บ้านนางาเสะ (Nagase) ในโอกิมาชิ (Ogimashi) เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ว่าชาวบ้านดำรงชีวิตอย่างไรในอดีตที่ผ่านมา  โดยเฉพาะในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมทุกปี จะมีประเพณีลุยน้ำ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่ โกคายาม่า (Gokayama) มี หมู่บ้านอาอิโนะคุระ (Ainokura) ที่ซึ่งหมู่บ้านตั้งตระหง่านท้าทายขุนเขาอยู่ตลอดเวลา และ หมู่บ้านสุกะนุมะ (Suganuma) กับบ้าน 9 หลังที่รวมอยู่ในบ้าน 2 หลัง เป็นสิ่งล้ำค่าที่จะได้มาสัมผัสกับบ้านที่เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และมีค่าของญี่ปุ่นนี้ จุดชมวิวของ ปราสาทโอกิมาชิ (Ogimashi) ได้รับความนิยมมากสำหรับการชมทัศนียภาพของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ จะสามารถมองเห็นหมู่บ้าน 59 หลังคาเรือน จุดชมวิวนี้เหมาะมากกับการชมภาพมุมกว้างของหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นความเขียวชอุ่มของฤดูใบไม้ผลิ สีน้ำตาลแดงของฤดูใบไม้ร่วง หรือว่าในยามที่มีหิมะตกปกคลุม

23 มี.ค. 54 เวลา 16:17 5,761 4 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...