กลุ่มต่อต้านที่พยายามจะยึดเมืองอัจดาบิย่าห์คืนจากกองทัพลิเบียต้องหาที่หลบ หลังจากมีเสียงระเบิดดังขึ้น ซึ่งกลุ่มต่อต้านอ้างว่าเป็นการยิงกระสุนปืนใหญ่โจมตีจากฝ่ายทหารลิเบีย แม้ว่ากระทรวงกลาโหมลิเบีย จะประกาศหยุดยิงรอบที่ 2 ไปตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการต่อสู้ดุเดือดเกิดขึ้นที่เมืองอัจดาบิย่าห์ และมิซูราต้า ซึ่งกลุ่มต่อต้านอ้างว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตที่เมืองมิซูราต้ากว่า 40 คน และเป็นหลักฐานว่ากองกำลังของ พ.อ.กัดดาฟี ยังสังหารประชาชน ขณะที่ในวันนี้กองทัพสหรัฐยอมรับว่าเครื่องบินเอฟ 15 ตกระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในลิเบีย แต่ไม่ระบุจุดตก ขณะที่สำนักข่าวบีบีซี อ้างว่าเหตุเกิดใกล้พื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏ
การปฏิบัติการของกองกำลังพันธมิตร ทำให้เกิดเสียงต่อต้านจากหลายชาติ โดยผู้นำของโบลิเวีย,
ปารากวัย และเวเนซูเอล่า ออกมาประณามปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวว่าเป็นการแทรกแซงลิเบีย
ขณะเดียวกัน ประชาชนในเวเนซูเอล่า โบลิเวีย และปารากวัยออกมาประท้วงต่อต้านปฏิบัติการทาง
ทหารในลิเบียเช่นกัน
ปฏิบัติการทางทหารของพันธมิตรตะวันตก นำโดยสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส พร้อมชาติตะวันตก
อีกอย่างน้อย 5 ชาติดำเนินมาเป็นวันที่ 3 แล้ว แต่จนถึงปัจจุบันยังมีคำถามว่าปฏิบัติการนี้จะสิ้นสุด
เมื่อไหร่ และใครจะเป็นผู้รับช่วงต่อในการบังคับใช้เขตห้ามบิน หลังจากผู้นำสหรัฐประกาศชัดเจน
ว่าจะลดบทบาทลงทันทีที่สามารถลดทอนศักยภาพกองทัพอากาศของลิเบียได้สำเร็จ และจะส่ง
มอบหน้าที่ให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติคเหนือ หรือนาโต้ดูแลต่อไป
แต่นาโต้ยังไม่มีมติเรื่องนี้ เพราะชาติสมาชิกอย่างน้อย 3 ชาติ คือตุรกี,เยอรมนี และฝรั่งเศสยังไม่
เห็นชอบ ทั้งที่ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในชาติร่วมปฏิบัติการทางทหารในปัจจุบัน
ในขณะที่ทางด้าน พ.อ.โมฮัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้ออกมาปรากฏตัวครั้งแรก นับตั้งแต่
พันธมิตร 3 ชาติทำการโจมตีได้กล่าวจากบริเวณที่พักในกรุงทริโปลี โดยยืนยันว่าจะสู้กับพวกกบฏ
และกองกำลังต่างชาติต่อไป ซึ่ง พ.อ.กัดดาฟีอ้างว่าในที่สุดเขาจะชนะอย่างแน่แท้ ด้าน นายบัน คี
มุน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ พ.อ.กัดดาฟี ปฏิบัติตามมติคณะมนมตรีความมั่นคงที่
ประกอบด้วย การถอนกำลังออกมาจากเมืองที่ฝ่ายต่อต้านยึดได้ ให้น่านฟ้าลิเบียเป็นเขตห้ามบิน
เพื่อรักษาชีวิตประชาชน และให้พลเรือนเข้าถึงแหล่งน้ำและอาหาร รวมถึงบริการด้านมนุษยธรรม
อื่นๆก่อนหน้านี้นายบันได้ยืนยันว่าการโจมตีจะดำเนินไปจนกว่า พ.อ.กัดดาฟีจะหยุดใช้ทหารทำ
ร้ายประชาชนของตนเอง