เตือนภัยมิจฉาชีพกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองแบบประชิด ตัว

เตือนภัยมิจฉาชีพกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองแบบประชิด ตัว วันนี้ผมเจอกับตัวเอง

สดๆร้อนๆเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ขณะผมกำลังรอแฟนทำผมชั้นล่าง ผมเลยเดินเล่นในห้าง

ไปเรื่อยๆ ผมลงมาจากชั้นโรงหนังก็เดินดูนั่นโน้นนี่ไปเรื่อยและขณะที่ผมกำลังลงจาก บันได

เลื่อน เพื่อลงชั้นสี่ตรงซูเปอร์มาร์เกต ผมก็ได้สังเกตเห็นว่ามีเด็กสถาบันหนึ่งนั่งจับกลุ่มกันอยู่ตรง

ข้างๆทางขึ้น (เป็นศูนย์อาหารเล็กๆที่มีป้ายบอกว่ามีบุหรี่ขาย) ซึ่งผมอยู่ตรงทางลง ผมเลยไม่

สนใจอะไร

 


จากนั้นผมก็เดินเลยไปเพื่อจะเดินไปโซนขายมือถือขณะที่ผมก้าวเดินเพียงสี่ ก้าวจากประตูเพื่อเข้าโซนมือ

ถือ ก็มีวัยรุ่นสองคน คนแรกวิ่งมาล็อกแขนผม อีกคนมาประกบข้างหน้าผมตกใจมาก ผมเห็นหน้าพวกมันก็รู้

ทันทีเลยว่าเป็นกลุ่มเด็กพวกนั้นที่นั่งอยู่เมื่อครู่ ที่ผมเห็น มันเข้ามาล็อกแขนผมไขว้หลัง แล้วมันก็ทักผมว่า...

 

"สวัสดี... มาทำอะไรที่นี่เหรอ"

ขณะนั้นผมก็พยายามมองหาคนช่วย คิดดูนะครับคนเยอะมากมาย แต่ไม่มีใครช่วยผมสักคนทั้งที่

คนเยอะมากมายตรงทางเดินนั้น เมื่อไม่มีใครช่วยอะไรผมได้ ผมก็ตอบพวกมันไปว่า... "มาเดินเล่น"

ขณะที่ผมจบคำตอบ พวกมันก็เดินเข้ามาอีกคน มายืนข้างๆผม ประมาณอยากให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้

มากันสองคน แล้วมันก็เดินกลับ มันถามผมว่า "เรียนที่ไหน"

ผมเงียบไม่ตอบ มันเลยบอกว่างั้นขอดูบัตรนักศึกษาหน่อยสิ ผมก็ยังไม่ให้บัตรนักศึกษามันดู

ตอนแรกผมคิดว่ามันคงจะคิดว่าผมเป็นเด็กเทคโนแน่ๆถึงถามว่าเรียนไหน คราวนี้มันตะคอกผม

ว่า..."สรุป... เรียนที่ไหนไอ้..."

ผมเลยบอกชื่อสถานศึกษาไป ซึ่งไม่ใช่เทคโนอย่างที่พวกมันคิดแน่นอน แต่มันก็ยังบอกว่างั้นเอาบัตรมาดูดิ

ผมก็เลยควักบัตรให้มันดู แต่ผมสังเกตว่าขณะที่ผมหาบัตร ตามันมองเข้ามาในส่วนที่ใส่สตางค์มากกว่าจะดู

บัตร สุดท้ายพอผมยื่นบัตรให้ดู มันก็บอกว่า... "เออ งั้นกูขอตังค์กินเหล้าหน่อยสิ มีไหม"

ผมโชคดีอย่างนึงคือตอนที่ผมจะแยกกับแฟนผมเอาเงินให้แฟนผมไว้เป็น ค่าทำผม เลยมีติดตัว

ไม่ถึงห้าสิบบาท ผมบอกว่าไม่มี มันก็ต่อยผมไปสองหมัด ขณะที่ผมโดนต่อยผมเรียกรปภ.ตรง

ประตู ซึ่งระยะห่างตอนนั้นรับรองว่าอยู่ไกลกันไม่เกินห้าเมตร "พี่ช่วยผมหน่อยครับ"

รปภ.มันส่ายหัวกับผม... ผมอึ้งเลยครับ นี่หรือคนไทยเจอกับตัวถึงรู้ว่า ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจาก

ตัวเอง ผมคิดว่าถ้าผมสู้ ผมคงจะโดนอะไรมากกว่านี้ ไม่รู้ว่ามันมีปืน มีมีด หรือเปล่า เพราะมันมา

กันหกคน สี่คนที่เหลือมันยืนอยู่ห่างประมาณสิบเมตร โดยให้สองคนมาจัดการผม... มันบอกว่า...

"กูไม่เชื่อว่า... ไม่มีตังค์ งั้น... มีอะไรติดตัวมั่ง"

ถ้าผมบอกว่ามือถือ ก็คงจะดูโง่ไป ผมยังพอมีสติ ผมเลยบอกว่ามีบัตรเครดิต ให้มันเอาไปรูดเอง (ที่ต้องบอก

บัตรเครดิตผมกลัวมันค้นกระเป๋า ซึ่งผมเอามือถือใส่ไว้ในกระเป๋าหลังมันเลยไม่ตุงข้างหน้า) สุดท้ายมันก็เอา

บัตรเครดิตผมไปจริงๆพร้อมกับเงินห้าสิบบาทที่ติดตัวผม วันนั้นผมเจ็บตัวไม่เท่าไหร่ครับ แต่เจ็บใจ

รปภ.สองคนตรงประตูห่างกับผมไม่ถึงห้าเมตร กับคนเดินผ่านมากมายไม่มีใครช่วยผมเลย อย่างที่ผมบอก

ครับ ภัยทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่มีใครที่สามารถจะช่วยได้เลยแม้แต่สถานการณ์คนเยอะ การคุ้มกันเยอะ แต่วันนี้

ผมกลับโดนเอง ช่วยเหลือตัวเองเท่านั้นเอง

ขอ ให้ทุกคนระวังตัวด้วยนะครับ พวกมิจฉาชีพในคราบคนมีการศึกษาจากชุดสถาบันการศึกษาที่

มีสถาบันตั้งอยู่ใน ละแวกนั้น มันจะทำทีมาประชิดตัวเราเหมือนว่ารู้จักกันมานาน ขนาดช่วงนั้นมี

การคุมเข้มเรื่องระเบิดในห้าง แต่ตอนที่เกิดเรื่องกับผม ไม่มีตำรวจซักคน มีแต่รปภ.ที่ไม่มีหน้าที่

อะไรนอกจากยืนเฉยๆจ้องตาแล้วส่ายหัว เจ็บใจจริงๆครับ

บัตรเครดิตในวันนั้น ผมรีบโทร.ไประงับทันทีครับ สำหรับการแจ้งความผมเดินไปหารปภ.อีกคน

หนึ่งหลังจากเสร็จเรื่อง เขาไปดูแล้วบอกว่าพวกนี้ไม่อยู่ตรงจุดที่ผมเห็นมันนั่งกันอยู่ อันนี้ผมพอ

เข้าใจว่ามันคงหนีไปแล้ว

และผมก็ยืนรอเจ้าหน้าที่มาบันทึกแจ้งความเกือบยี่สิบนาที สุดท้ายผมก็ขี้เกียจยืนรอ เพราะมันคงไม่ได้อะไร

กลับมาแน่ๆ รปภ.ที่นั่นเขาก็บอกกับผมว่ามันคงทำได้แค่แจ้งความนะครับ ผมก็เลยถามว่า แล้วกล้องวงจร

ปิดไม่มีหรือ เขาบอกว่ามันยุ่งยาก แล้วอีกอย่างที่ไปๆมาๆผมไม่อยากแจ้งความ เพราะมันจะทำให้เจ็บใจ

เปล่าๆ
หากเราแจ้งความมันก็เหมือนให้ความหวังเราว่าพวกนี้ต้องโดนจับ ทั้งที่จริงสิ่งที่เราได้ก็คงแค่กระดาษหนึ่ง

ใบกับปัญหาที่ยากจะแก้จบ มีอย่างเดียวคือเราควรจะบอกต่อกับคนที่เรารัก เพื่อให้เขาได้ป้องกันตัวกันจะดี

กว่าได้กระดาษมาเพียงแผ่นเดียวที่ไม่มีความ หมายอะไรเลย

Credit: http://women.sanook.com
23 มี.ค. 54 เวลา 02:41 9,599 47 300
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...