อย่าใช้ความรัก เป็นเครื่องวัดชีวิต

หนุ่มชายซึ่งแต่งงานกับหญิงสาวที่ตนรัก ผ่านไป 3 ปี แต่เข้าก็ยังคงไม่มีบุตร  เขามักจะพูดกับภรรยาของเขาว่า  สักวันคนมีบุญคงได้มาเกิดเป็นลูกของเรา  ภรรยาได้แต่พยักหน้ากับสามี  เธอเป็นภรรยาที่น่ารักและแสนดีเสมอมา  ชีวิตของทั้งคู่ดูราบรื่น  หนุ่มเป็นคนทำงานเก่งได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งบ่อยครั้ง  จนได้เป็นพนักงานดีเด่นของบริษัท  ทำให้ใคร ๆ ต่างกันชื่นชม


จนกระทั่งวันหนึ่ง  ลูกสาวท่านประธานได้เข้ามาทำงานที่บริษัทเดียวกับหนุ่ม  หนุ่มได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ฝึกงานให้กับเธอ  นานวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ  จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเป็นที่สงสัยกับเหล่าเขาเม้าส์ในบริษัท  ทำให้หนุ่มเริ่มเป็นห่วงความรู้สึกของลูกท่านประธานเป็นอย่างมาก  หนุ่มเริ่มออกสร้างความสัมพันธ์ให้มากขึ้นกว่าเดิม  แต่ติดที่เขามีภรรยาแล้ว


ด้วยความเห็นแก่ตัว  หนุ่มเริ่มคิดถึงอนาคตแต่ลืมหน้าที่และความรักที่มีต่อภรรยาไปโดยสิ้นเชิง  เขากับคิดถึงแต่แค่  ถ้าเขาได้เป็นลูกเขจท่านประธาน  ทั้งหน้าที่การเงิน  ทั้งลาภยศ  เงินทอง  และความมีหน้ามีตาในสังคม  เมื่อความเห็นแก่ตัวครอบงำมากขึ้น  เขาจึงตัดสินใจว่า  ก่อนสิ้นปีนี้ซึ่งอีกไม่กี่อาทิตย์  เขาจะบอกเลิกกับภรรยาของเขา  เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม


3  วันผ่านไป  หลวงพี่ที่เคยอยู่ก้นกุฏิด้วยกันนั้น  ก็มาเยี่ยมที่บ้าน  เขาดีใจมาก
"หลวงพี่มีธุระแถวนี้เหรอครับ  ถึงได้แวะมาเยี่ยมผมถึงบ้าน"
"เปล่าโยม  อัตมาตั้งใจมาที่นี้เลย"  เขาทำหน้างง ๆ
"อาตมามาเตือนโยม  ให้ผ่านปีหน้าไปก่อน  โยมค่อยตัดสินใจเถอะนะโยม  ไม่อย่างนั้น  โยมจะเสียใจไปตลอดชีวิต"  หลังหลวงพี่พูดจบ  ก็ขอตัวกลับโดยทันที  ทั้งเขาและภรรยาหันหน้ามองกัน  แต่หนุ่มรู้ดีว่าคืออะไร


คำเตือนของหลวงพี่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  ความหลง  ความเห็นแก่ตัวของเขาก็ยังดำเนินต่อไป  ก่อนสิ้นปีเพียง  1  วัน  หนุ่มตัดสินใจขอเลิกกับภรรยาและให้เหตุผลง่าย ๆ  ว่า  เพื่ออนาคตที่ดีของเขาเอง  ภรรยาของเขาได้แต่ฟังและนิ่งไป  หนุ่มยกบ้านหลังนี้ให้กับภรรยา


วันรุ่งขึ้นหนุ่มรีบไปรับลูกสาวท่านประธานถึงบ้าน  และพาไปเที่ยวอย่างมีความสุข  เขาได้เล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับภรรยา  และไม่ลืมที่จะบอกว่าเขาได้เลิกกับภรรยาแล้ว  เขาได้บอกรักอย่างเต็มปาก  ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี  ดูเหมือนหนุ่มจะมีความสุขมากจนลืมอดีตภรรยาไป


หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน  หนุ่มก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง  เขาสลบไปถึงสองวัน  เมื่อตื่นขึ้นมา  เขาได้ค้นพว่าตัวเองขาหัก  และต้องตัดขาขวาทิ้ง  เขาเสียใจมาก  ลูกสาวท่านประธานมาเยี่ยมหนุ่มเกือบทุกวัน  จนอาการของหนุ่มเริ่มดีขึ้นและแทบหายเป็นปกติ  เพียงแต่เขาเป็นคนพิการไปแล้ว


แฟนสาวมาเยี่ยมเหมือนทุกวัน  ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจกับแฟนใหม่คนนี้มา  แต่แล้วแฟนสาวก็เริ่มเอ่ยขึ้นมา  หนุ่มเราเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม  ครอบครัวเราอีก  เราปรึกษากับญาติ ๆ  และคนในครอบครัวแล้ว  ไม่ว่าใครก็ไม่เห็นด้วยที่เราจะคบกับหนุ่มต่อ  หนุ่มนิ่งเงียบกับถ้อยคำที่ได้ยิน  แฟนสาวพูดได้ไม่กี่ประโยคก็เดินออกจากห้องไป  หนุ่มน้ำตาซึมและเสียงของเขาที่เคยพูดกับภรรยาก็ดังขึ้นก้องหูของหนุ่มทันที


หลังจากที่หนุ่มออกจากโรงพยาบาล  หนุ่มมุ่งตรงไปที่บ้านของภรรยา  เธอเปิดประตูบ้านพร้อมกับแววตาที่เปลี่ยนไป  เหมือนหนุ่มเป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่ง  หนุ่มรีบกล่าวขอโทษภรรยาทันที  เขาพูดถึงสิ่งที่เขาทำผิดพลาดไป  และอยากขอให้ภรรยาของเขาให้อภัยแก่เขา  ภรรยาของเขาพูดเพียงประโยคสั้น ๆ ว่า  คำขอโทษคงไม่ช่วยให้ลูกของเราสองคนกลับคืนมา  วันที่คุณออกจากบ้านไป  ฉันวิ่งตามคุณแต่ฉันตกบันได  ฉันปวดท้องมาก  แล้วหมอก็บอกว่า  ฉันแท้ง  เธอปิดประตู  และพูดเป็นเสียงดัง ๆ  ขึ้นมาว่า  เพื่ออนาคตที่ดีของฉัน  คุณออกจากชีวิตฉันไปเถอะ  หนุ่มน้ำตาไหลไม่หยุด  พร้อมกับเสียใจกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป


ปัจจุบัน  หนุ่มเป็นพระนักเทศน์  เรื่อง  บาปบุญคุณโทษแก่ญาติโยมทั่วไป  และมักบอกกล่าต่อเรื่องความรักว่า
จงใช้หลักความซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของตน
อนาคตขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่เราทำ
จงอย่าลังเลกับสิ่งที่ดีงาม
แต่จงลังเลกับสิ่งที่เป็นความชั่ว
และจงตัดกิเลสให้ได้
ก่อนที่ความชั่วจะกลับเข้ามายิ่งใหญ่ภายในจิตใจ....


 

 

18 มี.ค. 54 เวลา 22:03 1,696 2 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...