"เมล็ดอัลมอนด์" นี่ไง...เมล็ดถั่วเม็ดจิ๋วแต่เต็มไปด้วยสารอาหารและประโยชน์มากมาย
ขอหยิบยกบทความน่าสนใจของ สสส.ที่ชวนให้น้องๆ เยาวชนหันมากินอัลมอนด์แทนขนมหวานที่บรรยายคุณประโยชน์ที่อัดแน่นไว้ในเมล็ดอัลมอลด์มาฝากว่า อัลมอนด์ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะคุณประโยชน์ของอัลมอนด์มีมากมาย ในเมล็ดอัลมอนด์อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acid) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturared Fatty Acid) ซึ่งช่วยเพิ่มระดับ HDL (High-Density Lipoproteins) หรือ ไขมันดี และช่วยลดระดับ LDL(Low-Den-sity Lipoproteins) หรือไขมันเลว
ในต่างประเทสมีการวิจัยถึงประโยชน์ของอัลมอนด์ว่ามีบทบาทกับสุขภาพหัวใจอย่างมาก เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอย่างกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนเมื่อรับประทานเป็นประจำ จึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี
มีผลการวิจัยจากสถาบันชั้นนำทั้งในยุโรปและอเมริกาพบว่า ถ้ารับประทานอัลมอนด์ เพียงวันละ 1 หยิบมือ ช่วยลด LDL ได้ถึง 4.4% และถ้ารับประทาน 2 หยิบมือต่อวัน ช่วยลด LDL ได้ถึง 9.4 %
นอกจากกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว อัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน จากพืช วิตามินบี วิตามินอี และโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นสำหรับการเสริมสร้างเซลล์ที่สึกหรอของผิวหนัง เส้นผม ทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย รวมทั้งไฟเบอร์ที่ได้จากอัลมอนด์ยังช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าอัลมอนด์จะมีสารอาหารประเภทไขมันในปริมาณที่สูง แต่ไขมันจากอัลมอนด์นั้นเป็นไขมันที่ดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย
ดังนั้น อัลมอนด์จึงเป็นอาหารที่ได้รับการแนะนำให้รับประทานเพื่อลดคอเลสเตอรอลและรับประทานแทนอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว โดยไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เราจึงรับประทานอัลมอนด์แทนของหวานหรือขนมขบเคี้ยวระหว่างวันได้อย่างสบายๆ แถมได้คุณค่าจากธรรมชาติไปเต็มๆ เม็ดอีกด้วย