ไม่สงสัยบ้างหรือ ทำไม … ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างณเดชน์ ถึงมีชื่อเล่นเป็นฝรั่งว่า “แบร์รี่” แทนที่จะเป็นชื่อซึ่งนิยมในแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง “ทาโร่ – ทักกี้ – จิโร่” นอกเหนือจากนามสกุลพ่อ “คูกิมิยะ” แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นของพระเอกซุป′ตาร์คนนี้ซึ่งพูด ญี่ปุ่นไม่ได้สักคำ (แต่เว้าอีสานไฟแลบ)
แหล่งข่าวจาก “เมืองดอกคูน เสียงแคน” รายงานสดยืนยันว่า พ่อแม่ ณ ปัจจุบัน เป็นเพียง “พ่อแม่บุญธรรม” ของ “แบร์รี่” ณเดชน์ คูกิมิยะเท่านั้น พ่อจริงของเขาเป็นชาวเยอรมันต่างหาก!!”
สังคมรับรู้ว่า ณเดชน์ คือลูกชายสุดรักของพ่อซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น และแม่ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นอีสานเชื้อสายจีน ทว่าความจริงแล้ว แม่คนปัจจุบันที่สังคมรับรู้คือ “ป้าแท้ๆ” ของเขา ทว่า “แม่ตัวจริง” ของเขาคือน้องสาวป้า และพ่อของเขาเป็นชาวเยอรมัน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีการยกณเดชน์ให้เป็นลูกบุญธรรม เนื่องจากครอบครัวของป้าที่อยู่กินกับชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ไม่มีทายาท !! ดังนั้น … ณเดชน์ จึงใช้นามสกุล “คูกิมิยะ” ตามคุณพ่อชาวญี่ปุ่นท่านนี้ การเขียนประวัติทั้งหลายของซุป′ตาร์ผู้นี้ให้เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นก็ไม่ผิด หรือเกินเลยความจริงไปนัก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นเด็กซึ่งมีที่มาและที่ไป ไม่ได้เป็นใครก็ไม่รู้ที่หาต้นขั้วไม่เจอ
เอ-ศุภชัย เผยว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ที่ว่า ณเดชน์ ไม่ได้เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น และไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อและแม่คนปัจจุบัน ซึ่งเขาเป็นเพียงแค่บุตรบุญธรรมที่ทั้งคู่รักและเอ็นดูและยังเกิดจากสายเลือดคนในครอบครัวชาวคนขอนแก่นเช่นเดียวกันด้วย
โดยแม่บุญธรรม ของณเดชน์นั้น มีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ส่วนแม่ที่แท้จริงนั้นเป็นน้องสาว และปัจจุบันทั้งหมดก็ยังอยู่ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนพ่อแท้ๆ ของ ณเดชน์นั้น เป็นชาวออสเตรีย ไม่ใช่ชาวเยอรมันตามที่ นิตยสาร ASTV ผู้จัดการ ระบุไป และทั้งพ่อและแม่ที่แท้จริงนั้น ได้แยกทางกันไปตั้งแต่ณเดชน์ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่เคยเจอกับพ่อแท้ๆ เลย
ณเดชน์ สงสัยที่มาที่ไปของตัวเองมาตั้งแต่ตอนเรียนม.2 แล้ว หลังจากที่เพื่อนทักว่า ไม่มีหน้าตาละม้ายคล้ายชาวญี่ปุ่น แต่อย่างใด ด้วยลักษณะตาโต จมูกโด่ง หน้าคมสัน จึงมาถามความจริงเอากับแม่ที่เลี้ยงดูปัจจุบันก็ทราบความจริง ซึ่งตัวณเดชน์เองก็ยอมรับได้กับเรื่องดังกล่าว
อีกทั้ง เขารักและเคารพพ่อและแม่บุญธรรมที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิดมาก โดยพ่อชาวญี่ปุ่นนั้น ณเดชน์ยกย่องให้เป็นฮีโร่ในดวงใจของเขา พร้อมกับถือว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปิดบังอะไร ทางผู้ใหญ่ หรือใครๆ ของทางช่อง 3 ต้นสังกัดก็ทราบเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม กับข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้น ณเดชน์ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่า ถ้าเจ้าตัวรู้แล้ว ก็คงไม่ว่าอะไร และไม่จำเป็นต้องมีการแถลงข่าวแต่อย่างใด ซึ่งตนก็ไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวหรือใครไปสอบถาม หรือค้นหาความจริงอะไรให้มาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขา