โสเภณี เป็นของคู่กับโลกค่ะ อย่าว่าแต่สมัยนี้เลย
แม้แต่โบร่ำโบราณที่มีจารีตว่าหญิงสาวควรรักนวลสงวนตัว
ก็ยังคงมีโสเภณีอยู่เกลื่อน.. ไม่แพ้กัน
ส่วนจะมีมาตั้งแต่สมัยไหน บอกตรงๆว่า อันนี้แนนก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ
โสเภณี.. ถือว่าเป็นชื่อเรียกที่สุภาพอย่างยิ่งแล้วนะคะ
สำหรับหญิงขายบริการสมัยนี้
เพราะถ้าเทียบกับสมัยก่อน มันสุภาพกว่ากันเยอะ
แต่ก่อนเค้าเรียกโสเภณีว่า "หญิงคนชั่ว" ค่ะ
หรืออีกชื่อนึงดูสุภาพหน่อย "หญิงโคมเขียว"
ที่เรียกอย่างนั้นก็เพราะว่าในสมัยก่อนโคมเขียวจะเป็นสัญลักษณ์ของซ่อง
ชาวบ้านก็เลยเรียกตามลักษณะของโคมนั่นแหละ
ค่าบริการของหญิงคนชั่วก้อแตกต่างกันไป
จริงๆ ก็ไม่ต่างกับสมัยนี้ มีเกรดต่างกันไป
แต่ก่อนค่าบริการต่ำสุดจะอยู่ประมาณ 2 สลึงค่ะ
เกรดดีหน่อยก็บาทนึง.. ก็ว่ากันไปตามคุณสมบัติ
ยังไม่หมดนะคะ เพราะยังมีแบบต่างชาติให้เลือกเหมือนกัน
พวกนี้จะอยู่ตามโฮเต็ล ค่าบริการ 2-4 บาท แพงกว่าเยอะ
แต่ถ้าเทียบกับค่าเงินในสมัยนี้ ก็ไม่กี่ร้อยบาทหรอกค่ะ
และนี่ก็คือหญิงคนชั่วในสมัยนั้น.. เธอ sexy ตามแบบฉบับไทยโบราณจริงๆ
หญิงคนชั่วเหล่านี้ พอตกกลางคืนก็ออกมานั่งอยู่หน้าซ่องเหมือนสมัยนี้
(เหมือนรึเปล่าไม่รู้ เดาเอาจากที่เห็นมา แต่ตัวโป๊ๆ นั่งกันเป็นกลุ่มๆอยู่หน้าอาบอบนวด ใช่ป่ะ?)
บางที่ก็แย่งแขกกันเลยแหละ
หญิงคนชั่วบางคนป๊อปจัด.. หนุ่มๆต่อคิวกันยาว ต้องมีการเร่งเวลาเลยทีเดียว
สมัยนั้นถ้าเป็นซ่องชั้นดี ในห้องก็จะมีหมอน มุ้งให้เรียบร้อย
แต่ถ้าเป็นเกรดต่ำๆ ล่ะก็.. มีเสื่อให้อย่างเดียวเป็นพอ
เรื่องกามโรค.. เป็นกันเยอะค่ะ
ตอนนั้นเป็นโรคที่ร้ายแรงมากที่สุดเลยแหละ
มองอดีตแล้วกลับมาสู่ปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ก็ยังคงมีรูปแบบที่ไม่ต่างกัน
และยังเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อ้าว.. ก็ว่ากันไป มันก็เกลื่อนจริงๆ นี่นา
ว่าแต่พวกเธอจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าหากวันนึง "หญิงคนชั่ว" ศัพท์เก่าที่เคยใช้
ถูกนำมาใช้เรียกพวกเธออีกครั้ง !!!!!
"โสเภณี" มาจากคำว่า "นครโสเภณี" มีความหมายว่า "หญิงงามแห่งนคร"
เรียกเป็นภาษาไทยๆ ว่า "หญิงงามเมือง" ค่ะ
เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเพื่อให้เกียรติโสเภณีมากขึ้นในสมัยต่อมา
และสุภาพยิ่งขึ้นจนเป็นคำว่า "โสเภณี" มาจนถึงทุกวันนี้