ความเชื่อในสิ่งลึกลับ : หมอผีวูดู
"ไฮ ติ" (Haiti) เป็นที่ซึ่งมีความเจริญและมีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านไสยศาสตร์ ปัจจุบันไสยศาสตร์ได้แพร่ขยายไปตามประเทศต่างๆ มิได้มีเฉพาะไฮติเท่านั้น ไสยศาสตร์ เป็นลัทธิศาสนาหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นจากการรวมกันของส่วนประกอบหลายประการ โดยอาศัยเวลาและความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
1.โลอัส (Loas) หรือวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ โลอัส จะถูกจัดให้สิงสถิตอยู่เป็นกลุ่มที่เรียกว่า โวดุ(vodu)
2.วิญญาณ ผู้สร้างหรือเทพเจ้า เรียกว่า กรัน เม็ต (Gran Met) มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงกรันเม็ตได้ จะมีแต่เพียงโลอัสเท่านั้น ที่มนุษย์สามารถสื่อสารด้วยได้
เชื่อ กันว่า การสื่อสารกับวิญญาณมีส่วนช่วยแก้ไขความยุ่งยาก และป้องกันตนเองจากความประสงค์ร้ายของผู้อื่นด้วย บุคคลแต่ละคนจะมีโวดุประจำตัว และจากความช่วยเหลือของนักบวช บุคคลนั้นก็จะสามารถติดต่อสื่อสารกับโลอัสที่อยู่ในโวดุนั้น ได้โดยนักบวชจะเป็นผู้อัญเชิญมาประทับร่างทรง และเป็นล่ามแปลความต้องการของวิญญาณ
พลังของวิญญาณมิได้มีเฉพาะส่วนดี ส่วนร้ายก็มีอยู่ เช่น ในเทพเจ้ากีดส์ (Guedes) ซึ่งเป็นทั้งเทพเจ้าแห่งความมืด ความตาย ความลุ่มหลง และเทพเจ้าผู้ปกครองถนอมชีวิตที่เกิดใหม่ การสื่อสารกับวิญญาณจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ใน ศตวรรษที่21 และ 22 ความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามาสู่สหรัฐอเมริกา และคาริบเบียน พร้อมกับทาสผิวดำชาวแอฟริกา พวกทาสไม่มีอำนาจใดๆ ศาสนาและความเชื่อถูกกีดกัน เมื่อชาวแอฟริกันตะวันตกถูกนำมารวมกับขนชาติอื่นทำให้ศาสนา และความเชื่อของคนผิวดำเสื่อมลง ความเจริญรุ่งเรืองของไสยศาสตร์จะมีมากในไฮติ และสาธารณรัฐ โดมินิกัน ทาสที่ถูกนำเข้ามาในสองประเทศนี้ จะมาพร้อมกับความเชื่อและลัทธิศาสนา แม้ว่าจะถูกพรากจากญาติมิตร พวกเขาก็ยังสามารถอุทิศตนให้โวดุได้ ในสหรัฐอเมริกา ลัทธินี้เป็นสิ่งต้องห้าม
ปี พ.ศ.2247 รัฐบาลห้ามมิให้ชุมนุมกันในเวลากลางคืน
ปี พ.ศ.2206 รัฐบางรัฐในสหรัฐอเมริกาแก้ปัญหาโดยการบังคับให้ทาสนับถือศาสนาคริสต์
หมอ ผีจะถือโอกาสในช่วงนี้จับซอมบี้ของคนตาย แล้วทำให้ฟื้นคืนชีพเป็นผีดิบเพื่อนำมาใช้เป็นทาสของตน ชาวไฮติหลายคนเชื่อในเรื่องผีดิบ และอ้างว่า ได้เคยประสบกับผีดิบ นั่นคือเคยเห็นคนตายฟื้นคืนชีพขึ้นมา บางคนมีความเชื่อว่า ตนเองเป็นผีดิบ เพราะเชื่อว่าหมอผีเชี่ยวชาญในเรื่องสมุนไพร สามารถปรุงยาให้คนตายหรือฟื้นได้ ไสยศาสตร์ มีกิตติศัพท์ในความรุนแรงถึงชีวิต มีบันทึกว่า หลังจากที่คนหนึ่งถูกสาบแช่งไม่กี่วันก็ตาย ซึ่งการตายที่เกิดขึ้นไม่ได้มีข้อบกพร่องทางร่างกายเลย
ปี พ.ศ. 2243 ทาสชื่อ ฟรองซัวส์ มาซองดาล (Francois Macandal) ผู้ซึ่งเป็นพ่อมดหมอผี ได้หลบหนีการควบคุมและวางแผนใช้ภูเขาทางตอนเหนือเป็นที่ซ่อนตัวและได้ประกาศ การสิ้นสุดความมีอิทธิพลของชนผิวขาว เขาทำการสาปแช่งและจู่โจมไร่ของชาวฝรั่งเศส และปรุงยาพิษใส่ในอาหารของเจ้าของไร่ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ถูกจับ
ต่อมา ดอนฮวน เฟลิป เปโตร (don Juan Felipe Pedro) นักบวชผู้นี้ใช้ภาษาเสปนเป็นภาษาพูดและได้พัฒนาลัทธิไสยศาสตร์เปโตร (Petro) ขึ้น ลัทธินี้มุ่งเน้นความรุนแรง ความตาย และการแก้แค้น ติดต่อสื่อสารกับโลอัสที่มีความก้าวร้าว
ต่อ เมื่อ ปา ปา ด๊อก (ลูกชาย ของ ดูวาลิเยร์) ขึ้นครอบครองอำนาจแทน ความตึงเครียดจึงลดลง ในช่วงนี้ ชนชั้นกลางของสหรัฐนิยมไสยศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งความนิยมจะมีมากใน นิวยอร์ก ไมอามี่ ลอส แองเจลิส การประกอบพิธีกรรมต่างๆจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก เนื่องจากส่วนประกอบในการทำพิธีจะต้องนำเข้าจากไฮติหรืออัฟริกาเท่านั้น ซึ่งพิธีกรรมของอัฟริกาจะมีความบริสุทธิ์มากกว่า แต่การประกอบพิธีกรรมของไฮติจะมีความรุนแรงมากกว่า วิธีของอัฟริกาจะใช้เครื่องประกอบพิธีที่น่ากลัวและน่าขยะแขยง เช่น หัวสุนัข เป็นต้น
ที่มา : อาณาจักรเร้นลับ : บัวแก้ว ไชยหลวงผา ,บก.เรียบเรียง