ศตส.สัตหีบไล่ล่าเดนคุก “โจ๊ก ไผ่เหลือง”ค้ายาบ้าซ้ำซาก หลังเผ่นกระเจิงไหวตัวหลังถูกล่อซื้อ จนมุมคาห้องส้วม
วันนี้ 3 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ ฝ่ายปราบปราม พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด อำเภอสัตหีบ ได้วางแผนใช้สายลับเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายรัตนพล ผิวเผือก หรือโจ๊ก ไผ่เหลือง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.4 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จำนวน 14 เม็ด ในราคา 2,400 บาท และนัดหมายส่งมอบกันภายในหมู่บ้านคลองบางไผ่ กิโลเมตรที่ 12 ต.สำนักท้อน
เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังปิดล้อมเส้นทางหลบหนี โดยผู้ต้องหา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดและทำการซื้อขายยาบ้ากับสายลับ แต่เกิดไหวตัวทัน จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านใกล้เคียง ในเขตติดต่อกับคลองบางไผ่ เป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อถึงบริเวณทางแยกกลางหมู่บ้าน รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาได้พุ่งชนสุนัขจนพลิกคว่ำ และได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีหายเข้าไปในหมู่บ้าน โดยชาวบ้านที่อาศัยมีความสนิทมักคุ้นกับผู้ต้องหา ทำให้ไม่มีผู้ใดให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่จึงออกกลอุบายว่ามีผู้ต้องหาฆ่าคนตายหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ใน หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านผวาเกรงได้รับอันตราย จึงได้แยกย้ายเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน จนรับแจ้งว่าพบผู้ต้องหา หลบซ่อนตัวอยู่ในห้องส้วมร้านก๋วยเตี๋ยวหมู จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม พบของกลางธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อในตัวของผู้ต้องหา จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้เคยต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ฐานค้ายาเสพติด และเสพยาบ้า ขณะที่ใช้ชีวิตในเรือนจำได้รู้จักกับ นายบอส อายุ 26 ปี ซึ่งต้องโทษในคดีค้ายาเสพติดเช่นกัน มีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านคลองบางไผ่ จึงได้ชักชวนหลังพ้นโทษให้มาร่วมกันจำหน่ายยาบ้า โดยนายบอส ได้พ้นโทษออกมาก่อนหน้าได้เพียง 2 เดือน เมื่อตนพ้นโทษตามออกมา จึงได้เข้าร่วมเครือข่ายค้ายาเสพติดอีกครั้ง โดยนายบอส จะนำยาบ้ามาให้จำหน่ายครั้งละ 50 – 100 เม็ด กำไรที่ได้ประมาณ 20 – 40 บาท/ เม็ด โดยจะนำไปซื้อยาบ้าเสพ 3 – 5 เม็ด/วัน จนมาถูกล่อซื้อและจับกุม หลังพ้นโทษออกมาได้เพียง 3 เดือน
เบื้องต้น จากการขยายผลเพื่อจับกุม นายบอส ไม่สามารถดำเนินการได้ต่อ เนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามผู้ต้องหาอยู่นั้น นายบอส ได้แฝงตัวปะปนมากับชาวบ้านเพื่อสังเกตการณ์ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ จึงทราบว่า นายบอส ซึ่งเป็นเอเย่นต์ใหญ่ ได้จับตาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ก่อนจะอาศัยช่วงชุลมุนหนีหายลอยนวลออกไปจากที่เกิดเหตุ